28 มิ.ย. 2023 เวลา 09:35 • ข่าวรอบโลก

บุตรชาย "ออง ซาน ซู จี" เรียกร้องกองทัพเมียนมาปล่อยตัวมารดา คืนอำนาจให้ประชาชน

บุตรชายคนสุดท้องของ ออง ซาน ซู จี ผู้นำเมียนมาที่ถูกรัฐประหารโค่นอำนาจ ได้ออกมาเรียกร้องกองทัพให้ปล่อยตัวมารดาของเขาจากเรือนจำ
“ผมปล่อยให้แม่อิดโรยในคุกไม่ได้” คิม อริส ให้สัมภาษณ์พิเศษกับบีบีซีเมียนมาในกรุงลอนดอน เขาเรียกร้องโลกให้ช่วยเหลือมารดาของเขาให้มากกว่านี้
ออง ซาน ซู จี ถูกศาลเมียนมาตัดสินจำคุก 33 ปี ภายหลังถูกนำตัวขึ้นศาลหลายครั้ง นับแต่กองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลของเธอในปี 2021
นับแต่รัฐประหาร เมียนมาจมดิ่งลงสู่สงครามกลางเมือง มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายหมื่นคน
นายอริส สัญชาติอังกฤษ กล่าวว่า กองทัพไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเขาเลยเกี่ยวกับสุขภาพของมารดา เขาพยายามติดต่อสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา กระทรวงการต่างประเทศของสหราชอาณาจักร และกาชาดสากล แต่ก็ไม่มีใครช่วยเหลือเขาได้
“ก่อนหน้านี้ ผมไม่อยากออกหน้าสื่อหรือเข้ามามีส่วนร่วมมากนัก” นายอริส ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกกับสื่อต่างชาติ ซึ่งในช่วงที่แม่ของเขาถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ในบ้านนานเกือบ 15 ปี ช่วงปี 1989-2010 เขาก็ไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ
“มันดีกว่าที่ผมจะอยู่ห่างจากเรื่องการเมือง แม่ของผมไม่เคยอยากให้ผมเกี่ยวข้อง แต่ตอนนี้ เธอถูกตัดสินโทษ และชัดเจนว่ากองทัพเมียนมาไม่มีเหตุผลเสียเลย ผมจึงคิดว่าผมพูดสิ่งที่อยากพูดได้แล้ว”
บุตรชายคนเล็กของนางออง ซาน ซู จี ชื่อ อริส คิม
นางออง ซาน ซู จี ถือเป็นสัญลักษณ์ประชาธิปไตยที่สำคัญคนหนึ่งของโลก และเคยเป็นผู้ชนะรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ โดยการปล่อยตัวนางออง ซาน ซู จี จากการกักบริเวณ เมื่อปี 2010 ได้รับการเฉลิมฉลองทั่วเมียนมาและทั่วโลก
ต่อมา เธอถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเมื่อกล่าวปกป้องเมียนมา ต่อข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หลังมีการกล่าวอ้างอย่างกว้างขวางว่า เมียนมาได้กระทำการที่โหดร้ายต่อชาวมุสลิมโรฮิงญา ในช่วงที่รัฐบาลของเธอยังครองอำนาจ
ชาวมุสลิมโรฮิงญาเกือบล้านคนลี้ภัยหนีออกจากเมียนมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และส่วนใหญ่กลายเป็นผู้ลี้ภัยอยู่ในบังกลาเทศ
นายอริส ไม่ตอบคำถามของบีบีซีถึงเสียงวิพากษ์วิจาณ์ในเรื่องนี้ต่อมารดาของเขาในช่วงก่อนการรัฐประหาร เขาขอให้ความสำคัญกับสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่
นางออง ซาน ซู จี ซึ่งถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ในบ้านหลังการรัฐประหาร ได้ถูกย้ายไปจองจำแบบขังเดี่ยวเมื่อปีที่แล้ว ที่เรือนจำในกรุงเนปิดอว์
ข่าวคราวของเธอหายไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางข่าวลือว่าเธอป่วย ขณะที่กองทัพเมียนมาปฏิเสธรายงานดังกล่าว
ครอบครัวของซู จี อาศัยอยู่ในเมืองออกซ์ฟอร์ด ก่อนเธอจะกลับเมียนมาในปี 1988
นายอริส ยังร้องขอให้ประชาคมโลกแก้วิกฤตการณ์ในเมียนมา ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตจากสงครามกลางเมืองเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังกองทัพใช้อาวุธร้ายแรงและการโจมตีทางอากาศเพื่อกวาดล้างฝ่ายต่อต้าน
เขากล่าวว่า ประชาคมโลกต้องเริ่ม “ทำอะไรสักอย่าง รวมถึงคว่ำบาตรการจำหน่ายอาวุธให้กองทัพเมียนมา หรือให้การสนับสนุนกลุ่มคนที่พยายามต่อสู้กับกองทัพ”
แม้เมียนมาจะเผชิญการคว่ำบาตรมากมาย และถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลก แต่เมียนมายังคงนำเข้าอาวุธ และวัตถุดิบการผลิตอาวุธมาได้ตลอด
เขาเสริมว่า ประชาคมโลกยังต้อง “เริ่มการล็อบบีให้หนักมากขึ้น” เพื่อให้กองทัพปล่อยแม่ของเขา และเขาเรียกร้องโลกให้จัดส่ง “สิ่งบรรเทาทุกข์ที่ดีกว่านี้ให้ประชาชนในเมียนมา ที่กำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบาก... พวกเขาไม่มีใครสนับสนุน นอกเสียจากคนเมียนมาด้วยกันเอง”
นายอริส และพี่ชาย ต้องแยกจากมารดานับแต่ปี 1988 ในเวลานั้น นางออง ซาน ซู จี หรือที่รู้จักกันในสมญานามว่า “เดอะ เลดี” ได้เดินทางจากสหราชอาณาจักรไปเมียนมา เพื่อดูแลคุณแม่ที่กำลังป่วย
นางออง ซาน ซู จี ในฐานะบุตรสาวของนายพลออง ซาน วีรบุรุษผู้ต่อสู้เพื่อเอกราชของเมียนมา ได้กลายเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการทหาร เธอได้ร่วมก่อตั้งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี แต่ก็ถูกกองทัพกักบริเวณในบ้านพักในปี 1989
ต่อมาในปี 1991 เธอไม่สามารถเดินทางออกจากเมียนมาได้ เพราะเกรงว่าหากออกไปแล้ว จะกลับเข้าเมียนมาไม่ได้ ทำให้นายอริส ซึ่งเวลานั้นอายุ 14 ปี เป็นผู้ขึ้นรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพแทน นอกจากนี้ นางออง ซาน ซู จี ยังไม่ได้เดินทางกลับสหราชอาณาจักร เพื่อดูใจสามีที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งในปี 1999 ด้วย
ในที่สุด อริสก็ได้เดินทางไปหามารดาเมื่อปี 2010 ตอนที่นางออง ซาน ซู จี ได้รับการปล่อยตัวจากการกักบริเวณในบ้านพัก โดยก่อนที่เขาจะเดินทางออกจากเมียนมา เขาได้มอบลูกสุนัขที่เขาซื้อจากตลาดในย่างกุ้งให้มารดาเป็นของขวัญ
“มันเป็นลูกสุนัขตัวเดียวจากลูกสุนัขทั้งหมดในกรงนั้น ที่ตื่นอยู่... มันเป็นตัวเดียวที่ได้กลับบ้านกับผม” เขาย้อนความหลัง “นับแต่นั้น มันก็เป็นสุนัขที่จงรักภักดีต่อแม่ของผมมาตลอด”
ในปี 2015 นางออง ซาน ซู จี กลายเป็นผู้นำทางพฤตินัยของเมียนมา หลังนำพรรคเอ็นแอลดีคว้าชัยชนะแบบถล่มทลาย ในการเลือกตั้งอย่างเสรีครั้งแรกในรอบ 25 ปี และแม้เธอจะถูกวิจารณ์อย่างหนักกรณีโรฮิงญา แต่เธอก็ยังเป็นที่นิยมอย่างมากของชาวเมียนมา
สุนัขตัวนั้นคือ ไทชิโต และขณะนี้มันยังมีชีวิตอยู่ อริสเชื่อมั่นว่ามันจะได้กลับไปหามารดาของเขาอีกในเร็ว ๆ นี้
“กองทัพจะไม่มีวันชนะสงครามนี้ คำถามมีเพียงแค่ว่า ศึกนี้จะเนิ่นนานอีกแค่ไหน” เขากล่าว
“ยิ่งกองทัพคืนอำนาจให้แม่ผมเร็ว และยิ่งรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเร็วเท่าไหร่ ประเทศก็จะเดินหน้าได้เร็วขึ้นเท่านั้น”
โฆษณา