30 มิ.ย. 2023 เวลา 02:34 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

The Medium

"ร่างทรง"
(ตอนนี้เป็นการรีวิวและความรู้สึกจะยังไม่มีวิเคราะห์ เพราะ ถ้าวิเคราะห์มีสปอยแน่ๆ)
ก่อนอื่นก็ต้องกล่าวถึงก่อนได้ดูหนังเรื่องนี้
โดยเริ่มจากตอนที่ได้เห็นชื่อเรื่องและรูปแบบการนำเสนอและได้ร่วมงานกับเกาหลีใต้ก็ได้กลิ่นเกมออกมาแล้วครับ
ตั้งแต่ภาพโปสเตอร์และคำพูดในภาพโปสเตอร์ที่เล่นกับคำว่า "ร่างทรง" ที่ไม่แค่ร่างที่เป็นสื่อกลางของบรรพบุรุษ แต่เป็นร่างที่ต้องรับรู้อะไรบางอย่าง เป็นอะไรที่เห็นแล้วก็ชวนสงสัยว่ามันคงไม่ได้มาเนิบๆแน่ๆ
รูปแบบการนำเสนอออกมาแบบแปลกใหม่สำหรับสิ่งที่เรียกว่า "หนัง" เพราะจัดทำออกมาในรูปแบบสารคดี
ซึ่งถ้าใครดูพวกเกม Survival แนวเขย่าขวัญเช่น Outlast เอยหรืออื่นๆ กลิ่นภาพที่ใช้มุมกล้องถ่ายทำบอกตรงๆ ว่าโคตรเอาชีวิตรอดจริงๆ
และด้วยความที่ร่วมงานกับเกาหลี ลำดับภาพกับบรรยากาศในภาพมันเลยได้บรรยากาศที่แปลกตาไปอีกเพิ่มเติมจากรูปแบบสารคดี
นี่คือความคิดในช่วงแรก
แต่ส่วนตัวผมไม่ได้ชอบหนังผีเป็นพิเศษ เพราะ ด้วยความที่แม่งหาความสมเหตุสมผลไม่ค่อยได้ เลยดูเพื่อเป็นวิทยาทาน
"เรื่องนี้ก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น"
แต่ความคิดนี้ก็ถูกปัดตกไปบางส่วน เพราะ อารมณ์ที่ได้ดูจริงๆ คือแม่งไม่ใช่หนังผี (ไม่ต้องเชื่อก็ได้ครับเพราะมันคืออารมณ์ส่วนตัวล้วนๆ)
มันคือแนวเขย่าขวัญที่โคตรให้อารมณ์สืบสวนสอบสวน หนังใช้ความเป็นสารคดีได้ดีมาก
ถ้าเป็นหนังผีทั่วไปการปูเนื้อเรื่องจะไม่ใช่แบบนี้ เป็นเหมือนอีกไทม์ไลน์ที่ตัดมาอีกไทม์ไลน์ แล้วพอความไม่รู้อะไรจึงเป็นการใช้ความคิดอย่างมากมายตอนเปลี่ยนไทม์ไลน์
คือแบบจากที่ไม่ได้คาดหวังกลับได้รูปแบบใหม่ เป็นมิติที่แบบหาจากเรื่องอื่นได้น้อยมาก
พอความคิดเก่ายังไม่เข้าที่ ความปั่นประสาทก็จะพรั่งพรูขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อตัวละครถึงจุดที่ระเบิดออกมา ทุกๆสิ่งก็มุ่งเข้าสู่ความจริงหรือแก่นของเรื่อง
กลายเป็นผีรูปแบบที่แตกต่างและก็นำเสนออย่างกับผู้เฝ้ามองเลย (ต้องดูเองจริงๆ บอกเลยว่าไม่ค่อยสมเหตุสมผลสำหรับตัวละครอื่นแต่ได้ความแปลกใหม่แน่ๆ)
เรื่องมีจุดพีคตั้งแต่ต้นเรื่องและเรื่องก็กั๊กของไว้แบบถ้าไม่วิเคราะห์ตั้งแต่เข้าโรงบอกตรงๆ ว่าพอออกโรงก็จะยังงงๆ
สุดท้ายแม้เรื่องจะดูหลุดแต่ก็ยังอยู่ในแก่น ได้ทั้งอารมณ์ไขคดีเชิงไสยศาสตร์ อารมณ์ตกใจ อารมณ์ลุ้นไปกับเรื่อง อารมณ์โกรธ อารมณ์เศร้า อารมณ์หมอง ฯลฯ
เรื่องนี้ได้ทุกอารมณ์จริงๆ ครับ
ลองไปดูนะครับและถ้าได้วิเคราะห์ตั้งแต่เปิดฉากก็จะสนุกมากครับ
"ร่างทรง"
(เข้าสู่การวิเคราะห์สำหรับคนที่ดูแล้ว)
ก่อนอื่นก็ต้องบอกทำไมเรื่องนี้น่าวิเคราะห์ เพราะ ตอนแรกมันทำเป็นสารคดีร่างทรงที่ทำการเก็บข้อมูลจนสุดท้ายก็เลือกป้านิ่มที่เป็นร่างทรงของป้าบาหยัน แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์พลิกผันที่อยู่ๆ เรื่อวราวของตัวละครมิ้งดันน่าสนใจมากกว่าเลยเปลี่ยนเข้าสู่อีกไทม์ไลน์
แต่ถ้าเป็นหนังผีทั่วไปมันจะต้องเริ่มฉากที่มิ้งเลย
คำถามแรกคือทำไมถึงเลือกเป็นแบบนี้
เพราะตัวละครเด่นไม่ใช่มิ้งเป็นร่างทรง
เพราะด้วยความที่มันต้องให้หมอผีไม่ก็ร่างทรงทำพิธีไล่ผี แล้วถ้าเปิดฉากไปที่มิ้งงี้ตัวละครอื่นจะไม่มีอิมแพ็คอะไรเลย
แต่พอทำออกมาแบบนี้ ทุกตัวละครเลยสำคัญแทบทั้งหมดมันเลยทำให้รู้สึกอินตั้งแต่ต้นยันจบ
แต่ด้วยความที่นำเสนอออกมาแบบนี้ พวกทีมงานสารคดีได้นำเสนอหลังจากมิ้งตอนมีอาการไข้ผีจับ
ประเด็นอยู่ที่ก่อนหน้านั้น เพราะ ทั้งเรื่องไม่ได้เล่าเลยว่าจุดเริ่มต้นที่แท้จริงมันเกิดจากอะไรกันแน่
โอเค แค่เหตุผลเพียงแค่นี้ก็ทำให้น่าวิเคราะห์แล้วครับ
หลังจากนี้คือจินตนาการส่วนตัวหลังจากที่ได้ลองคิดมาทั้งคืน ส่วนที่ไม่เข้าใจแบบ 100% จะเป็นพวกไสยศาสตร์ที่แบบทำไมต้องทำแบบนี้ เช่น ตอนเปลี่ยนคนรวมผีเป็นแม่ของมิ้ง ตอกไข่ตามหาคน หรืออื่นๆ
แต่พวกนั้นแค่ไม่เข้าใจหลักการ แต่ถ้ามองให้เป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลก็ยังพอรับได้
คงต้องเริ่มคิดตรงที่ว่าทำไมมิ้งถึงได้เป็นแบบนี้ ตอนแรกสุดมีความเป็นไปได้หลายอย่างมากๆ ไม่ว่าจะเป็นโดนทัก เก็บของ ผิดผี หรือแม้แต่เหตุที่ว่าโดนกำหนด
ถ้าลองไล่ไทม์ไลน์ดีๆ จะพบว่าสิ่งที่เป็นฉนวนคือสายเลือดของตัวเองที่มีผลกับอะไรแบบนี้
หลักๆ น่าจะทางฝั่งพ่อคือก็อย่างที่อาจารย์สันติเล่าบรรพบุรุษของวิโรจน์เป็นเพชรฆาต เลยโดนสาปแช่งวงศ์ตระกูล ถ้าให้เดาคงรุ่นหลังอาจจะโดนชักจูงโดยพวกผีได้ง่ายอยู่แล้ว
โอเค นั่นเป็นปัจจัยแรก
ตอนมาจากที่สังเกตในหนัง มีอยู่สองอย่างที่ไม่แน่ใจว่าอะไรเกิดขึ้นก่อนระหว่างโดนผีทักกับไปเก็บของมา
แต่แล้วก็คิดถึงเหตุผลที่แม๊คที่ผิดผีกับมิ้งฆ่าตัวตายก็คิดขึ้นได้ว่า
"แม็คอาจจะฆ่าตัวตาย เพราะ มิ้งไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่น" รึเปล่า
ถ้าอย่างนั้นเหตุการณ์ที่ไปอะไรกันในสำนักงานก็น่าจะเกิดขึ้นพร้อมๆกับของหาย ดูจากที่มิ้งไม่มีความลังเลในการเข้าไปในสำนักงานก็หมายความเข้ามาเป็นประจำ ถ้ามิ้งไม่ได้ขโมยดังนั้นพวกโจรที่ขโมยก็น่าจะต้องรู้เรื่องด้วยสิ ไม่ว่าจะขโมยตอนเช้าหรือตอนกลางคืน
แต่ทำไมมิ้งถึงไม่ได้โดนอะไรเลย
ก็คิดได้แค่ว่ามิ้งนั่นแหละที่เป็นโจร
แต่ถ้าคิดว่าโดนชักจูงจากคำสาปและพวกสัมภเวสีที่มีความอาฆาตเรียกหากัน และมิ้งก็ทำไปเพราะถูกชักจูง
ถ้าการคาดเดานี้ถูกต้องแสดงว่านี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้
แล้วมิ้งก็โดนชักจูงเรื่อยมา เพื่อให้มิ้งกลายเป็นภาชนะ
ถ้าให้เดาต่อการที่มิ้งไปมีอะไรกันกับชายอื่นก็น่าจะเป็นผลจากการชักจูง
เพราะว่าไอ้ตอนงานศพโดนด่าว่าเป็นกระหรี่ซึ่งถ้ารู้สึกตัวสักนิด ถึงจะโกรธก็เถอะ แต่แบบมันก็เหมือนเป็นความจริงไปแล้วก็น่าจะสตั้นสดุดบ้าง
แต่ที่เห็นมันเหมือนกับความโกรธออกมาจากใจ เป็นเหมือนสิ่งที่ตรงไปตรงมาจนไม่มีสดุดก็เลยคิดว่าอาจจะเป็นแบบนี้
แล้วแม็คไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็รู้เรื่องนี้เลยฆ่าตัวตาย
ต่อไปที่ทำให้มิ้งมีอาการรุนแรงขึ้นคือน่าจะเป็นยายตาบอดหลังวัด
จุดสงสัยตรงนี้มีแค่อย่างเดียวที่เราเห็นกันคือผีหรือคน
ถ้าเป็นผีก็หมายความว่ามิ้งถูกทักและเผลอไปตอบแล้วงั้นเหรอ
ถ้าเป็นคนก็หมายความอาจจะโดนมิ้งฆ่าในคืนนั้นรึเปล่า
ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ไม่ดีทั้งคู่ เพราะสุดท้ายวันต่อมามิ้งก็มีอาการไข้ผีจับอยู่ดี
แล้วคราวนี้ภาชนะมิ้งก็แทบจะแตกออกแล้วไม่ว่าจะทั้งความฝัน การใช้ชีวิต หรืออื่นๆ มิ้งก็แทบจะไม่เป็นตัวของตัวเองแล้ว
อย่างตอนในรถสองแถว อาเป็นเด็ก ตอนแรกก็คิดว่าทำไมมันเยอะจัด ที่สำคัญคือฉากหมาตายตอนป้านิ่มไปงานศพนี่แหละ คือภาพในหัวคือคิดแล้วว่าถ้าผีหมาสิงนี่ฮาเลยนะ
"ไอ้สัส แม่งเอาจริง"
สรุปแล้วอะไรที่โผล่แม่งได้ใช้หมดเลย
ด้วยความอาฆาตของผีหรือะไร มิ้งก็ได้พูดออกมาว่า "กูจะฆ่ามันให้หมดเลย"
และที่สำคัญคือมิ้งพูดว่า "ฮะ" กับอากาศดูทรงแล้วก็คงทักตอบผีนั่นแหละ
สุดท้ายด้วยปัจจัยทั้งหมดวันต่อมา ประจำเดือนมิ้งก็ปรากฏออกมา
เหลืออย่างสุดท้าย...การเข้าร่าง
ที่เหลือก็ตามที่เห็นเลยไปไม่ว่าจะตอนถูกไล่ออกแล้วก็ไปมองพวกขยะข้างทางถ้าให้เดาก็คงจะเก็บไว้แหละ แต่ทีมงานไม่ถ่ายไว้
แล้วรับขันธ์มั่วซั่วสุดท้ายก็กลายเป็นภาชนะโดยสมบูรณ์
โอเค นี่เป็นจินตนาการที่เกี่ยวกับมิ้งตอนก่อนโดนยึดร่าง ...ร่างทรง
แถมให้อีกตอนที่มิ้งถามว่าเห็นคนยืนตรงนู้นไหม อันนี้สงสัยมากเลยเป็นการทักผีอีกรึเปล่า
ไปดูอีกไทม์ไลน์
เรื่องบอกว่าผีมีมาก่อนศาสนา ถ้าอย่างนั้นหมายความศาสนาไม่ช่วยอะไรเลย
จะสื่อเป็นนัยๆว่าป้าน้อยพูดโกหก
ประเด็นต่อมาทำไมผีที่สิงมิ้งถึงรู้เรื่องราวในอดีต ถ้าให้คิดหลังตอนเจอมิ้งคืออยู่ที่ตึกของวิโรจน์ แถมก็ดูจะรู้เรื่องราวของครอบครัวนี้ดี
แถมรู้ความลับของป้าน้อย คงคิดได้อย่างเดียว
"ผีที่สิงมิ้งตอนแรกก็คือพ่อของมิ้ง" นั่นแหละ เป็นผีที่ฆ่าตัวตายก็แสดงว่าเป็นความอาฆาตก็ดูเป็นเหตุผลที่มิกซ์กัน
ถ้ากวนตีนหน่อยก็เป็นผีที่เฝ้ามองครอบครัวนี้ละมั้งครับ555
การปูเนื้อเรื่องถ้าบอกว่าปูจริงๆ คงเป็นทุกๆสิ่งที่เล่าผ่านป้านิ่มนี่แหละ
ไม่ว่าจะผี เหตุการณ์ ไสยศาสตร์
คือมันผ่านการกระทำตัวละคร ไม่ได้เล่าออกมาจริงๆทั้งหมดด้วยความที่ป้านิ่มทั้งเรื่องแม่งคือสายกั๊กตัวจริง กั๊กแม่งทุกอย่างต้องดูการกระทำแม่งจริงๆ
ที่ตลกคือทีมงานสารคดีแม่งเป็นงานห่าไร เอาแต่ถ่าย ถ่ายอย่างเดียว555
คือมันเหมือนกับตัวละครเอกในเกมเลย
ที่สงสัยคือใครไปพังรูปปั้น
แต่ถ้าดูจากโปรเตอร์ก็คงมีแค่มิ้งนี่แหละที่ทำ
แล้วก็ที่มันพูดว่ารถคันนี้สีแดง
แล้วฉาก 'ใหลตาย' ในจังหวะนั้นกล้องแพลนไปที่โต๊ะหมู่ว่ามันกระจัดกระจาย แต่ว่าฟุตเทจก่อนจบป้านิ่มวานจานแรงมาก
แล้วก็พูด...เอาจริงๆก็คือเหมือนไม่ใช่คนเดิม บวกกับที่ป้านิ่มเป็นร่างทรง ถ้าจะให้เหตุผลกับฉากที่รูปปั้นพังก็หมายความพอรูปปั้นพัง การเชื่อมต่อถูกตัดขาด แต่ป้านิ่มยังเป็นภาชนะอยู่
คงนึกออกแล้วละ ป้านิ่มอาจจะกลายเป็นภาชนะของอย่างอื่นที่ไม่ใช่ย่าบาหยัน
ก็ตามนั้นแหละครับ555
เราจะข้ามฉากกล้องวงจรปิดไป ช่วงนี้ไม่มีอะไรนอกจากความหลอนและความไม่สมเหตุสมผล
ทั้งๆที่ก็รู้ว่ามีคนโดนสิง แต่กลับไม่มัดไว้หรือทำอะไรเลย แถมยังอยู่ในบ้านที่ความปลอดภัยต่ำ
กูหมดคำจะพูดเลย555
แต่มันมีความคิดเกรียนๆเข้ามาในหัวแต่ขอเขียนไว้ตอนจบ555
สุดท้ายก็ตอนทำพิธี จังหวะตัดฉากไปมาบอกตรงๆว่าโคตรลุ้น
ที่งงคือทำให้ถึงต้องให้คนรวมวิญญาณเป็นแม่วะ ถึงจะปูไว้แล้วก็เถอะว่า "แม่ยอมทำทุกอย่าง" 555
ที่แย่กว่าคือตากล้องที่ถ่ายฝั่งที่บ้านซึ่ง...ไม่ทำเชี้ยอะไรเลย555
แม่งเป็นเรื่องที่สร้างคอนฟริคได้เหี้ยมาก เหมือนแบบตัดทางออกไปแล้วแล้วก็ตัดทางออกอีกจนแบบไม่มีให้ออกแล้ว
ที่เหลือก็ไม่ค่อยมีไรที่เป็นสมเหตุสมผลสักกะอย่าง555 ขอข้ามไปละกัน รอมีคนถามคอยพูด555
โอเคครับ ขอบคุณที่อ่านนะครับ555
อย่างที่บอกว่านี่เป็นเพียงจินตนาการอาจจะมีมากกว่าที่สำคัญแต่อาจพลาดไป
ถ้าใครมีความรู้เรื่องหลักการไสยศาสตร์ก็ทักมาด้วยนะครับ มีหลายอย่างที่อยากถามสุดๆ
ดังนั้นแล้วขอบคุณครับ555
โฆษณา