เปิดประวัติ“เจมส์ มาร์” พระเอกหน้าตี๋ ฉายาสามีแห่งชาติ
เจมส์ มาร์ มีชื่อจริงว่า เจมส์ อัศรัสกร เกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2536 เป็นบุตรคนโตของครอบครัว มีน้องสาว 1 คน ครอบครัวเดินทางไปมาระหว่างประเทศไทยและฮ่องกง บิดาทำธุรกิจนำเข้าส่งออกสินค้าและอสังหาริมทรัพย์ มารดาทำงานกับบริษัทรับจัดประมูลผลงานศิลปะชื่อคริสตีส์ ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่กับบิดาในไทย มารดาพำนักอยู่ฮ่องกง ส่วนน้องสาวศึกษาต่อที่ประเทศออสเตรเลีย
เขาได้ใช้ชื่อในวงการบันเทิงว่า"เจมส์ มาร์" ตั้งตามแซ่เดิมของบิดา สาเหตุที่เขาไม่ใช้ชื่อสกุลจริง เพราะเกรงว่าการงานของตนอาจไปกระทบภาพลักษณ์ธุรกิจของครอบครัว ซึ่งเป็นครอบครัวขยายและใหญ่
ด้านการศึกษา เจมส์เริ่มเข้าเรียนชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนนานาชาตินิสท์(New International School of Thailand - NIST) จนอายุ 8 ปี ทั้งครอบครัวจึงได้ย้ายไปอาศัยอยู่ฮ่องกง ขณะที่อาศัยอยู่ฮ่องกงได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนควอร์รีเบย์(Quarry Bay School) ตั้งแต่เกรด 4-6 และเกรด 7 ที่โรงเรียนเซาท์ไอส์แลนด์(South Island School)
และกลับมาศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีสุดท้ายที่โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์(Harrow International School) ประเทศไทย รวมเป็นระยะเวลา 8 ปีที่อาศัยอยู่ฮ่องกง สำเร็จการศึกษาการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ สาขาอังกฤษธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ(ABAC) และศึกษาต่อระดับปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
เจมส์เข้าสู่วงการบันเทิง เพราะเอ-ศุภชัย ศรีวิจิตรไปพบที่ฮ่องกงขณะกำลังอยู่มัธยมปลาย และชวนมาเป็นนักแสดงในสังกัด โดยเจมส์ตอบตกลงเพราะมองว่าเป็นโอกาสอันดี ประกอบกับต้องการที่จะกลับมาเล่าเรียนในไทย โดยเขาได้ไปประกวดเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปีที่ 7 เพื่อหาประสบการณ์ แต่ไม่ติด 8 คนสุดท้าย
จากนั้นได้งานถ่ายแบบและเดินแบบ ภายหลังจึงได้แสดงละครชุด"สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" ตอน คุณชายรณพีร์ ทางช่อง 3 HD ทำให้เจมส์มีชื่อเสียง แม้จะถูกวิจารณ์จากผู้ชมว่า ไม่เหมาะสมกับบทดังกล่าว โดยเฉพาะรูปร่างหน้าตาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่ต่างไปจากบทประพันธ์และนักแสดงคนอื่นที่เล่นเป็นพี่น้อง ด้วยความที่เป็นตอนสุดท้ายของซีรีส์ที่มีความช้า
ทำให้กระแสของเจมส์ไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงนัก จนเจ้าตัวก็คิดว่าเขาเป็น"จุดอ่อน" ของละครชุดดังกล่าวด้วย แต่หลังจบละครได้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าจำนวนมาก จนได้ฉายาว่าเป็น"เจ้าพ่อพรีเซ็นเตอร์"ขณะที่นิตยสารสยามดารา จัดให้เจมส์เป็น"1 ใน 10 พระเอกที่น่าจับตามองในปี 2556"
ในปี พ.ศ. 2558 เจมส์ได้แสดงละครย้อนยุคเรื่อง ข้าบดินทร์ ซึ่งก่อนเข้าฉาย เขาเตรียมตัวด้วยการเข้าเรียนชกมวย ฟันดาบ และอ่านนิยายของละครเรื่องดังกล่าว กระนั้นเข้ายังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะกับบทเช่นเดียวกับภีรนีย์ คงไทย นักแสดงอีกคนในเรื่องซึ่งเป็นลูกครึ่งเช่นกัน ที่รูปลักษณ์ต่างออกไปจากบทประพันธ์ แต่หลังการออกอากาศกลับมีกระแสดี และได้รับคำชื่นชมด้านการแสดง
จากนั้นเจมส์มีผลงานละครเรื่อง เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ(สามีเงินผ่อน) ในปีถัดมา ประกบคู่กับคิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เทียมศิริ ถือว่าพลิกบทบาทการแสดงของเขา เพราะเป็นละครที่นำเสนอสถานการณ์ร่วมสมัย ขณะที่เจมส์เคยแสดงแต่ละครย้อนยุคมาตลอด แต่หลังละครออกอากาศเขาได้รับกระแสตอบรับที่ดี และการชื่นชมด้านฝีมือทางการแสดง จนได้สมญาว่าเป็น"สามีแห่งชาติ" ในปีนั้น
ในปี พ.ศ. 2560 เจมส์ได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง Mind Memory 1.44 พื้นที่รัก ประกบคู่กับฮัม อึน-จ็อง นักร้องผู้เป็นสมาชิกวงที-อารา เกิร์ลกรุปจากประเทศเกาหลีใต้ ถือเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาเขากล่าวว่า"ตอนที่ตัดสินใจรับแสดงหนังเรื่องนี้ เพราะคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้รับงานชิ้นใหม่ หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตของผม ก็ดีใจที่ได้แสดงเรื่องนี้ เพราะได้ใช้หลายภาษา รู้สึกว่าท้าทายดี บทที่แสดงก็ไม่เคยเล่นมาก่อน..." แต่ภาพยนตร์นี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ด้านชีวิตส่วนตัว เจมส์ประกาศคบหาดูใจกับพาย-รินรดา แก้วบัวสาย นักแสดงร่วมช่อง หลานสาวของตู่-นันทิดา แก้วบัวสาย หลังจากที่ทั้ง 2 คนรู้จักกันมานาน 5 ปี
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
