Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ตี๋ตั้มพรหมญาน
•
ติดตาม
4 ก.ค. 2023 เวลา 03:14 • การศึกษา
การเรียนสมาธิมีจุดประสงค์คืออะไร : คือการสะสมพลังจิต
- สมาธิมี 2 แบบ :
+ สมาธิธรรมชาติ เช่นการนอนหลับ ได้พลังจิตไม่มาก ได้มาใช้ไป เหมือนคนหาเช้ากินค่ำ
+ สมาธิสร้างขึ้น ทำอย่างเป็นระบบ จะทำให้ได้พลังจิตสะสมเพิ่มมากขึ้น จนมีกำลังเพียงพอจนเกิดฌาน ญาณ วิปัสสนา เหมือนเศรษฐีมีเงินเหลือมากพอจะซื้ออะไรก็ได้ แต่สมาธิธรรมชาติทำให้เกิดไม่ได้เพราะพลังไม่เพียงพอ
5
- สมาธิที่สร้างขึ้น ได้พลังจิตสะสม แบ่งเป็น ๒ อย่าง คือ
+ พลังหลัก ๖๐% สะสมข้ามภพข้ามชาติ
+ พลังเฉลี่ย ๔๐% ใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้แล้วหมดไป
- การทำสมาธิทำได้กี่อิริยาบถ อะไรบ้าง : 4 อิริยาบถ คือ ยืน เดิน นั่ง นอน
- อิริยาบถหลัก คือ เดิน และนั่ง คือ การเดินจงกรม และการนั่งสมาธิ
- ฐานที่ตั้งของจิต มีกี่แห่ง อะไรบ้าง : 5 แห่ง คือ หน้าผาก ปลายจมูก บริเวณหน้า อกเบี้องซ้าย สะดือ
- ช่วงแรกของการทำสมาธินั้น สามารถย้ายฐานของจิตเพื่อหาจุดที่เหมาะสม แต่เมื่อได้วางจิตแล้ว ไม่ควรย้ายอีก เพราะจะทำให้จิตสับสน เหมือนปลูกต้นไม้ ถ้าย้ายไปย้ายมาต้นไม้ก็ไม่โต
- การบริกรรมมีจุดประสงค์อะไร : เพื่อให้จิตเป็นหนึ่ง (ความเป็นหนึ่งของจิตคือสมาธิ)
- การบริกรรมเป็นเพียงเบื้องต้น เปรียบเทียบเหมือนอะไร : เหมือนพ่อแม่เลี้ยงลูก เกิดใหม่ๆพ่อแม่ต้องเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด เมื่อลูกโตแล้วก็มองดูห่างๆ เบื้องต้นหมายความว่าเมื่อจิตเป็นสมาธิแล้ว ไม่ต้องบริรรมอีก
- จิตขณะบริกรรม เป็นการกรองอารมณ์
- คำบริกรรม ใช้คำใดก็ได้ที่มีความหมายดี
- สถาบันฯ ใช้คำว่า “พุทโธ” เพราะเป็นคำที่มี ความหมายดี แปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น และต้องการให้เป็นเอกภาพ
- การเดินจงกรม ก้าวเท้าขวาก่อน เวลาถึงท้ายจงกรม ให้หมุนทางด้านขวา แล้วก้าวออกด้วยเท้าขวาก่อน ตรงนี้เพื่อฝึกสติ ให้ระลึกว่าก้าวเท้าขวาก่อน ไม่ใช่เท้าไหนก็ได้
- ลักษณะต่อต้านสมาธิ มี 7 ข้อ : ความเจ็บ ปวด เมื่อย เหนื่อย หิว, ความปริวิตก, ความกระวนกระวาย, ความหงุดหงิด, อาการกิริยาเจ็บคันโดยไม่มีเหตุผล, ความลังเลสงสัย, ความโลภอยากได้เร็ว
- ความหงุดหงิด เกิดจากการคิดปรุงแต่งของจิต ทำให้เกิดจุดดำในจิต
- สมาธิ มี 3 ขั้นตอน คือ ขณิกะสมาธิ อุปจาระสมาธิ อุปจาระสมาธิ (เปรียบเหมือนเรียน ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย)
+ ขณิกะ แปลว่า นิดหน่อย เป็นสมาธิขั้นเล็กน้อย เปรียบเหมือน ช้างกระพริบหู งูแลบลิ้น
+ อัปจาระ สงบมาก ตั้งอยู่ได้นาน
+ อัปนาสมาธิ สงบมาก แน่วแน่
1
- สมาธิตื้น อยู่ในกายหยาบ ยังรู้ตัวอยู่
- สมาธิลึก อยู่ในกายละเอียด หรือกายทิพย์
- ภวังค์ คือ = เคลิ้ม หลับ
+ หลับ จะปิดการรับรู้ทั้งหมด
+ ภวังค์ จะปิดการรับรู้ 90%
- นิมิต แปลว่า สัญลักษณ์ เป็นได้ทั้ง แสง สี เสียง เกิดเมื่อจิตเข้าภวังค์แล้ว (นิมิตคือฝันนั่นเอง)
- จิตเหมือนห้องสมุด เมื่อจิตสงบก็ไปเปิดห้องสมุดของเรา เป็นภาพ เป็นเสียง เรียกว่า นิมิต
- ประโยชน์ของสมาธิ มี 12 ข้อ คือ ทำให้หลับสบาย คลายกังวล, กำจัดโรคภัยไข้เจ็บ, ทำให้สมองปัญญาดี, ทำให้รอบคอบก่อนการทำงาน, ทำให้ระงับความร้ายกาจ, บรรเทาความเครียดม, มีความสุขพิเศษ, ทำให้จิตใจอ่อนโยน, กลับใจได้, เวลาจะสิ้นลมพบทางดี, เจริญวาสนาบารมี, เป็นกุศล
- สมาธิรักษาโรค : โรคเครียด โรคนอนไม่หลับ / โรคอื่นๆ มีขั้นตอนคือ
+ เข้าใจวิธีการกำหนด, กำหนดร่างกายส่วนบน-ล่าง, ส่วนบนกำหนดเขียว, ล่างกำหนดแดง, ใกล้ลำแสงดุจเทียนใหญ่, ไกลดุจเทียนเล็ก, ส่วนตำแหน่งของโรค, กำหนดเวลา
- สมาธิกับการควบคุมอารมณ์ (กองกำลังทั้ง 7) คือ พลังจิต, ความรอบคอบ, ความหยุดยั้ง, ความเตือนตน, ความอดทน, ความเฉียบคม, การวางเฉย
- ฌาน แปลว่า ความเพ่งอยู่ อาการคือ ความสุข ความเบา ความสบาย
- ญาณ แปลว่า ความรู้สู่ความสำเร็จ
- จุดพลังอำนาจ คือ ที่รวมหรือศูนย์รวมของพลังจิต อยู่ระหว่างกายหยาบกับกายละเอียด
- สมาธิ เปรียบเหมือน ไฟ / ฌาน เปรียบเหมือน แสงไฟ
- รูปฌาน คือ ฌานตื้น มี 4 ระดับ
+ ฌาน 1 (ปฐมฌาน) มี องค์ 5 : วิตก วิจารณ์ ปีติ สุข เอกัคตา
+ ฌาน 2 (ทุติยะฌาน) มี องค์ 3 : ปีติ สุข เอกัคตา
+ ฌาน 3 (ตติยะฌาน) มี องค์ 2 : สุข เอกัคตา
+ ฌาน 4 (จตุตถะฌาน) มี องค์ 2 : อุเบกขา เอกัคตา
- อรูปฌาน คือ ฌานลึก มี 4 ระดับ
+ ฌาน 5 อากาสานัญจายตนะฌาน, ฌาน 6 วิญญานัญจายตนะฌาน, ฌาน 7 อากิญจัญญายตนะฌาน, ฌาน 8 เนวสัญญานาสัญญายตนะฌาน
- สมถะ คือ ความสงบของจิต เกิดความสุขสบาย
- วิปัสสนา คือ ความรู้แจ้งเห็นจริง
- ผู้เริ่มเรียนหนังสือ เหมือนเรียนสมถะไปเรื่อยๆ เมื่ออ่านหนังสือได้แล้วเป็นวิปัสสนาอ่อนๆ เมื่อแยกแยะได้แล้วเป็นวิปัสสนาแตกฉาน
- วิปัสสนาตกน้ำ คือ ข้ามขั้นตอน ลักลั่นไม่เป็นไปตามความเป็นจริง คิดว่าบรรลุแล้ว เหมือนเห็นเงาเพชรในน้ำคิดว่าเป็นของจริง เพราะแยกแยะไม่ได้
- วิปัสสณูปกิเลส เป็นกิเลสขั้นละเอียด ยากจะแยกแยะได้ ทำให้เกิดความหลงผิดว่าสำเร็จแล้ว
- วิปัสสณูปกิเลส มี 10 ข้อ ลึกซึ้ง เช่น
+ โอภาส แสงสว่างมองเห็นชัดเจน เหมือนบรรลุทิพยจักขุญาณ
+ ญาณ ความรู้เฉียบคม มีเหตุผล ทำนายได้ถูกต้องหมด
+ ปีติ เอิบอิ่ม เบากายเบาใจ
+ สุข ความสบายใจ ความปลอดโปร่ง เป็นไปอย่างสุขุม ประหนึ่งพ้นทุกข์เด็ดขาด
+ นิกันติ ความรู้สึกพอใจในความเป็นไปของจิต คล้ายกับพ้นอำนาจมาร
- วิทิสาสมาธิ : การทำสมาธิแบบง่ายๆ ทำครั้งละ 5 นาที 3 เวลาต่อวัน คือ เช้า กลางวัน เย็น (1 เดือนได้ 7.5 ชั่วโมง)
+ จิตจะมีพลัง เป็นผู้มีพลังจิตเพียงพอแก่การควบคุมจิตใจ มีความเบิกบาน มีสติ มีปัญญา มีหลักประพฤติดีงาม
- อัตถสาสมาธิ : นาทีทองที่จะนำสมาธิคือ ช่วงตี4-ตี5 เราพักผ่อนเพียงพ่อ จิตจึงสงบ เป็นช่วงที่พระพุทธเจ้าตรวจผู้มีบุญวาสนาก่อนออกบิณฑบาต
3 บันทึก
2
1
8
3
2
1
8
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย