ทำวัตรเช้าวันเสาร์ที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๖ (๓/๗)
“ถ้ามีปัญญาอย่างเดียว ปัญญาเฉโก แต่ขี้เกียจสิทีนี้
อันนี้ฉันก็รู้แล้ว อันนี้ฉันก็รู้แล้ว ไม่ต้องฝึกมากหรอก นิพพานอยู่แล้ว
เราจะได้ยินสำนวนอย่างนี้อยู่บ่อยๆ
เกิดปัญญาขึ้นมา ศีลไม่ต้องรักษาก็ได้เป็นเรื่องสมมติ
เคยได้ยินพระพูดอย่างนี้ กรณีที่เป็นข่าว วินัยอะไรกูก็ไม่เอาสักอย่างบางที
เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องสมมุติ อันนี้ปัญญาเฉโก ปัญญาเข้าข้างกิเลสตัวเอง
นี่พวกปัญญามาก อ่านมากฟังมาก แล้วก็เอาไว้เอาชนะคนอื่นเขา เอาไปถกเถียงกับคนอื่นเขา อวดมานะทิฐิของตัวเอง
นี่พวกปัญญามาก มีแต่ปัญญาอย่างเดียว ศีลก็ไม่มี สมาธิก็ไม่มีเป็นอย่างนั้น บางทีมันพาให้ผิดเพี้ยน ฉะนั้นที่พระพุทธเจ้าตรัสเป็นหมวดของธรรมแบบนี้ แปลว่าต้องทำไปด้วยกันนะ
หลายคนมาบ่นให้ฟัง เอ๊ะฉันก็ให้ทานทำบุญเยอะแยะ ทำไมต้องเจอความทุกข์ ทำไมต้องประสบอุบัติเหตุ ทำไมต้องเจ็บไข้ได้ป่วย
อันนี้ให้ทานอย่างเดียวเหมือนกัน ศีลก็ไม่รักษา ภาวนาก็ไม่สนใจ
มันก็เลยไม่มีเครื่องมือที่จะป้องกันความทุกข์ หรือจัดการความทุกข์ให้กับตัวเอง
บางคนทำบุญเยอะ ทำบุญอยู่บ่อยๆ ก็ยังฟังดูดี
บางคนนานๆ ทำที ปีนึงทำครั้งสองครั้ง นำมาอ้างอยู่นั้นแหละ
อันนี่ฉันก็ทำนะ อันนี่ฉันก็ทำ ถามไปถามมา นิดเดียวเท่านั้นเอง
ถ้าเทียบกับบุญกับบาปที่ทำให้แต่ละวันนี่ บุญนี่ไม่ถึง ๐.๐๐๑% ด้วยซ้ำไป ถ้าเทียบกันระยะเวลาแค่วันเดียว ที่เหลือก็ปล่อยจิตฟุ้งซ่านไปไหนก็ไม่รู้
มีแต่เรื่องของอกุศลทั้งนั้น นินทาคนนู้นนินทาคนนี้เรื่อยเปื่อยไป
แต่ว่าทำบุญหน่อยเดียวเอามาอ้างอยู่นั่นเองเหมือนกัน
อะไรที่ทำอยู่นั่นก็เลยไม่ช่วยอะไรตัวเอง”
พระอาจารย์มหาวิเชียร ชินวํโส
เจ้าอาวาสวัดวังหิน จ.พิษณุโลก
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
