6 ก.ค. 2023 เวลา 01:47 • กีฬา

5 การย้ายทีมที่น่าผิดหวังที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล

ตลาดซื้อ-ขายนักเตะทุกวันนี้ ค่าตัวของบรรดานักฟุตบอลชื่อดังหลายคนพุ่งทะยานไปไกลเกินหลัก 100 ล้านปอนด์ แต่บางครั้งค่าตัวจำนวนมหาศาลก็ไม่ได้เป็นตัวการันตีว่านักเตะคนนั้นจะทำผลงานดีสมกับค่าตัว
และนี่คือ 5 นักเตะค่าตัวแพงแต่ผลงานย่ำแย่ไม่คุ้มกับจำนวนเงินที่สโมสรจ่ายไป เป็นการย้ายทีมที่น่าผิดหวังที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล
Photo via Football365
โรเมลู ลูกากู : อินเตอร์ – เชลซี (2021)
โรเมลู ลูกากู ให้สัมภาษณ์เอาไว้ต้อนที่ย้ายมาเล่นกับ เชลซี มาหนที่ 2 ว่ามีเรื่องที่เขายังทำค้างคาเอาไว้กับสโมสรแห่งนี้ เพราะสมัยที่ย้ายมาเล่นให้กับทีมสิงห์บูลช่วงที่เป็นดาวรุ่ง ลูกากู ทำประตูให้ทีมไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว จากการลงสนาม 15 เกม การย้ายกลับมาร่วมทีมอีกครั้งในรอบเกือบ 10 ปี จึงเป็นช่วงเวลาที่พิเศษของทั้ง ลูกากู และแฟนบอลสิงห์บลู
เชลซี ยอมทุ่มเงินถึง 97.5 ล้านปอนด์ คว้า ลูกากู กลับมารวมทีม หลังจากฝากผลงานอันยอดเยี่ยมกับ อินเตอร์ มิลาน ยิงไปถึง 64 ประตูจากการลงสนาม 95 เกมตลอด 2 ปีที่อิตาลี แต่ผลงานของ ลูกากู กับ เชลซี ไม่ได้สะท้อนค่าตัวที่สโมสรจ่ายไปแม้แต่นิดเดียว ลูกากู ลงเล่นไปทั้งหมด 44 เกม ทำได้แค่ 15 ประตู
เรื่องของฟอร์มการทำประตูที่น้อยไม่สมกับที่ถูกความหวัง ยังไม่น่าเสียใจเท่ากับพฤติกรรมของ ลูกาลู ที่ทั้งให้สัมภาษณ์ชื่นชมทีมเก่าอย่าง อินเตอร์ แถมวิจารณ์แทคติกของ โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมของเชลซีในเวลานั้น ทำให้ ลูกากู กลับมาอยู่กับ เชลซี แค่ฤดูกาลเดียว ก่อนจะต้องยอมส่งคืนไปให้ อินเตอร์ มิลาน ด้วยสัญญายืมตัว พูดได้เต็มปากว่า เชลซี ขาดทุนย่อยยับกับ 97.5 ล้านปอนด์ที่ลงทุนจ่ายเป็นค่าตัวของ ลูกากู
Photo via Manchester United
ปอล ป็อกบา : ยูเวนตุส – แมนฯ ยูไนเต็ด (2016)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสีย ปอล ป็อกบา ไปแบบฟรีๆ ในปี 2012 โดยที่ 10 ปีต่อมา หนังม้วนเดิมเกิดขึ้นอีกครั้ง กองกลางดีกรีแชมป์โลกกับทีมชาติฝรั่งเศส เลือกอำลาทีมปีศาจแดงหลังหมดสัญญากลับไปอยู่กับ ยูเวนตุส ทีมเดิมที่เขาเคยย้ายไปสร้างชื่อเมื่อ 10 ปีก่อน
แมนฯยู ตัดสินใจดึง ป็อกมา กลับมาร่วมทีมด้วยการทุ่มเงินระดับสถิติสโมสรมูลค่า 89 ล้านปอนด์ให้กับ ยูเว่ โดยตลอด 6 ปีที่ ป็อกบา ค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ฟอร์มของเขาเป็นเครื่องหมายคำถามสำหรับแฟนบอลปีศาจแดงตลอดเวลา เพราะมีทั้งช่วงเวลาที่น่าประทับใจและช่วงเวลาที่น่าผิดหวัง ซึ่งโดยรวมน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า ชื่อเสียงของ ป็อกบา มักถูกพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องนอกสนาม ทั้งเรื่องแฟชั่นและภาพลักษณ์บนโซเชียลมีเดีย
6 ปีของ ป็อกบา กับ แมนฯยู แม้จะมีแชมป์ติดมือ คือ ยูโรป้าลีก และ ลีกคัพ ฤดูกาล 2016-17 แต่มันยังน้อยเกินไปกับความคาดหวังของสโมสรและแฟนบอลเมื่อเทียบกับค่าตัวมูลค่ามหาศาลที่สโมสรยอมจ่ายเพื่อดึงนักเตะที่ครั้งหนึ่งเคยปฏิเสธสโมสรกับมาอยู่กับทีมอีกครั้ง
Photo via Sky Sports
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ : เลสเตอร์ ซิตี้ – แมนฯ ยูไนเต็ด (2019)
แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เคยถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดของอังกฤษสมัยเล่นให้กับ เลสเตอร์ ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ แมนฯยู เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนฯซิตี้ ก็มีข่าวว่าอยากดึงไปร่วมทีม แต่เป็นปีศาจแดงที่ได้ตัวมาร่วมทีมเพราะยอมทุ่มเงินมากถึง 80 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติค่าตัวผู้เล่นกองหลังที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ แซงหน้า เวิอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ที่ย้านจาก เซาแธมป์ตัน มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ที่ราคา 75 ล้านปอนด์
จากที่เคยเป็นผู้เล่นที่เป็นความหวังของแฟนบอลปีศาจแดงว่าจะสามารถเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องเกมรับที่เป็นจุดอ่อนของทีมมาหลายปี ซึ่งดูเหมือนว่า แม็คไกวร์ จะทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีกับ 2 ซีซั่นแรกในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พาทีมจบในท็อปโฟร์ แต่พอมาถึงฤดูกาล 2021-22 ฝันร้ายก็มาเยือนทั้งแฟนบอลปีศาจแดงและตัว แม็คไกวร์ ความผิดพลาดง่ายๆ เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสนาม ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แฟนบอลเริ่มเรียกร้องให้ถอด แม็คไกวร์ ออกจากตัวจริง แม้เขาจะอยู่ในฐานะกัปตันทีมก็ตาม ซึ่งฟอร์มของ แม็คไววร์ ถูกสะท้อนผ่านผลงานของทีม แมนฯยู จบอันดับ 6 ในฤดูกาลนั้น ผู้จัดการทีมอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ถูกไล่ออก และทีมเสียประตูในลีกไปมากถึง 57 ประตู มากกว่าทีมที่ตกชั้นในฤดูกาลนั้นอย่าง เบิร์นลี่ย์ ด้วยซ้ำ
ซึ่งฤดูกาลที่ผ่านมา ในยุคที่ อีริค เทน ฮาก เป็นผู้จัดการทีม แม็คไกวร์ ถูกลดชั้นกลายเป็นแค่ตัวสำรองถาวร และมีความเป็นไปได้สูงที่ตลาดนัดซื้อขายนักเตะรอบนี้ กองหลังวัย 30 ปีน่าจะถูกโล๊ะออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
Photo via Daily Post Nigeria
เอเด็น อาซาร์ : เชลซี – เรอัล มาดริด (2019)
ปีสุดท้ายของ เอเด็น อาซาร์ กับ เชลซี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับ เรอัล มาดริด ถือเป็นหนึ่งในปีที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพนักเตะของเขา ลงเล่นให้สิงห์บลู 52 เกมรวมทุกถ้วย ยิงไปได้ถึง 21 ประตู และยังทำได้อีก 17 แอสซิสต์ พาทีมคว้าแชมป์ยูโรป้าลีก และคว้ารางวัลส่วนตัวมาครองมากมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่ เรอัล มาดริด ยอมทุ่มเงินมากถึง 100 ล้านยูโร หรือ 89 ล้านปอนด์ คว้าตัวมาร่วมทีม แถมรับค่าเหนื่อยสูงถึง 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
แต่ตลอด 4 ปีของ อาซาร์ กับ เรอัล มาดริด คือความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง แม้ช่วงเวลาดังกล่าวทีมราชันชุดขาวจะคว้าความสำเร็จมากมาย คว้าทั้งแชมป์ลาลีกา, แชมป์โคปา เดล เรย์ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ อาซาร์ แทบไม่ได้มีส่วนร่วมกับความสำเร็จของสโมสร เพราะได้รับโอกาสลงสนามน้อยมาก
ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากเรื่องของอาการบาดเจ็บที่รบกวนอยู่ตลอดเวลา อีกส่วนก็ถูกมองว่าเป็นเรื่องของวินัยและผลงานในสนามซ้อม เพราะผู้จัดการทีมที่ร่วมงานกับ อาซาร์ ในถิ่นซานติเอโก้ เบอร์นบิว ทั้ง ซีเนดีน ซีดาน และ คาร์โล อันเชล็อตติ ต่างก็เมินที่จะใช้งานแนวรุกทีมชาติเบลเยียม
สุดท้าย เรอัล มาดริด ก็ตัดสินใจยกเลิกสัญญากับ อาซาร์ หลังสิ้นสุดฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งๆ นักเตะยังเหลือสัญญากับสโมสรอีก 1 ปี เท่ากับว่าตลอด 4 ที่ผ่านมา อาซาร์ ลงเล่นกับ เรอัล มาดริด ไปแค่ 76 เกม ทำไปได้แค่ 7 ประตูเท่านั้น
Photo via CaughtOffside
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่: ลิเวอร์พูล – บาร์เซโลน่า (2018)
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เป็นหนึ่งในการซื่อขายที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ลิเวอร์พูล เพราะเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนที่ช่วยให้สโมสรได้เงินก้อนโตนำไปต่อยอดในการสร้างทีมจนคว้าแชมป์ได้มากมาย แต่ในทางตรงกันข้าม คูตินโญ่ ถือเป็นการซื้อนักเตะที่น่าที่ผิดหวังที่สุดครั้งหนึ่งของ บาร์เซโลน่า และของวงการฟุตบอล
บาร์ซ่า จ่ายเงิน 105 ล้านปอนด์ บวกโบนัสเพิ่มตามเงื่อนไขอีก 34 ล้านปอนด์ แม้ คูตินโญ่ จะคว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัยกับทีม แต่ดูเหมือนฟอร์มการเล่นของแนวรุกทีมชาติบราซิลจะยังไม่เป็นที่ประทับใจของแฟนบอลทีมเจ้าบุญทุ่ม เมื่อเปรียบเทียบกับค่าตัวของเขาที่สโมสรจ่ายไป
ทำให้หลังจากผ่านไปแค่ 1 ปีครึ่งกับการเล่นในถิ่นคัมป์นู บาร์ซ่า ตัดสินใจปล่อย คูตินโญ่ ไปให้ บาเยิร์น ยืมตัวใช้งาน ซึ่ง คูตี้ ก็ตอบแทน บาร์ซ่า ได้อย่างเจ็บแสบ ด้วยการยิง 2 ประตูใส่ต้นสังกัดที่แท้จริงของเขา ในเกมรอบก่อนรองชนะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ บาเยิร์น ถล่มชนะ บาร์ซ่า 8-2 และในฤดูกาลนั้น คูตินโญ่ ก็ได้ฉลองแชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรปร่วมกับทีมเสือใต้
แม้ในฤดูกาลถัดมา คูตี้ จะได้กลับมาเล่นให้กับ บาร์ซ่า เพราะ บาเยิร์น ไม่สนใจซื้อขาด แต่อดีตดาวเตะลิเวอร์พูลก็แทบจะกลายเป็นส่วนเกินของทีมเจ้าบุญทุ่มไปแล้ว บาร์ซ่า อยากจะโล๊ะ คูตินโญ่ ออกจากทีม เพราะทั้งไม่ต้องการใช้งานต่อและทีมก็กำลังเจอปัญหาหนักทางการเงิน จนในที่สุดเป็น แอสตัน วิลล่า ที่ยืมตัวมาใช้งานในฤดูกาล 2021-22 ก่อนจะซื้อขาดในปีต่อมาด้วยค่าตัว 20 ล้านยูโรเท่านั้น
🔶ดูข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์นี้ 👉 https://sytgn.com/latestnews
🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://th.sytesports.com/latest-sweepstakes/
🔶ติดตามSYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends
#harry maguire #philippe coutinho #romelu lukaku
โฆษณา