อุตสาหกรรมเดินเรือ : การขนส่งสีเขียวในอนาคตหน้าตาจะเป็นอย่างไร
ผลประชุมประจำปีขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ประเทศต่างๆ ตกลงที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ลง แล้ว "การขนส่งสีเขียว" ในอนาคตหน้าตาจะเป็นอย่างไร
การประชุมประจำปีขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ประเทศต่างๆ ตกลงที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ลง 20% ภายในปี 2573 และ 70% ภายในปี 2583 และ 100% ภายในหรือประมาณปี 2593
"เป็นการพัฒนาครั้งสำคัญ เปิดบทใหม่สู่การลดคาร์บอนทางทะเล" เลขาธิการ IMO ข้อตกลงนี้
แต่นักรณรงค์ เตือนว่าข้อตกลงดังกล่าวมีข้อบกพร่องและจะล้มเหลวในการทำให้อุตสาหกรรมการเดินเรือสอดคล้องกับเป้าหมายข้อตกลงปารีส ในการจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 องศาเซลเซียสภายในสิ้นศตวรรษนี้
อุตสาหกรรมการเดินเรือทั่วโลกมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการค้าโลกที่บรรทุกสินค้าเชิงพาณิชย์มากถึง 90% แต่การค้านั้นก่อให้เกิดมลพิษอย่างมาก โดยใช้เชื้อเพลิงที่มีคาร์บอนมากที่สุดบางชนิดในการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ของเรือ
ในปี 2561 การขนส่งทางเรือตกลงที่จะลดคาร์บอนลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2593 แต่นักวิทยาศาสตร์มองว่าสิ่งนี้ไม่เพียงพอ จึงเป็นที่มาสำหรับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากพันธมิตรของประเทศต่าง ๆ รวมทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และรัฐในหมู่เกาะแปซิฟิก ผู้เข้าร่วมประชุมที่ได้รับมอบหมายในลอนดอนได้ตกลงร่วมกันในกลยุทธ์ใหม่ที่จะทำให้การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ประเทศที่ร่ำรวยกว่าและรัฐที่เป็นเกาะเล็กๆ ได้เรียกร้องให้ลด 50% ภายในปี 2573 และลดการปล่อยก๊าซ 96% ภายในปี 2583
แต่ด้วยแรงต่อต้านจากจีน บราซิล ซาอุดีอาระเบีย และอื่นๆ กลยุทธ์ใหม่ที่จะเห็น คือ เป้าหมายเพื่อให้การปล่อยมลพิษจากการขนส่งลดลงอย่างน้อย 20% ภายในปี 2573 และอย่างน้อย 70% ภายในปี 2583
การลดการปล่อยมลพิษทางทะเลอย่างรวดเร็วใน 3 ทศวรรษข้างหน้าจะต้องมีกฎระเบียบใหม่ โครงสร้างพื้นฐานและเชื้อเพลิง แต่การขนส่งสีเขียวในอนาคตอาจมีลักษณะอย่างไร
เรือพลังลม
อุตสาหกรรมการเดินเรือสามารถลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลลงได้ด้วยการหันไปใช้เทคโนโลยีดั้งเดิม นั่นคือ "ใบเรือ" การขับเคลื่อนด้วยลมถือเป็นหนึ่งในแหล่งพลังงานที่มีแนวโน้มมากที่สุด สำหรับการลดคาร์บอนอย่างรวดเร็วของการขนส่ง
Oceanbird ของสวีเดน เป็นเรือต้นแบบที่มีใบเรือแข็ง ใช้พลังงานลมไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนเรือไปข้างหน้าเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มีความคล่องแคล่วว่องไวบนผืนน้ำอีกด้วย หนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการสนับสนุนให้รัฐบาลและนักลงทุนหันมาใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยลมและดัดแปลงเรือ ในขณะที่การขับเคลื่อนด้วยลมยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
เรือ Oceanbird มีความยาว 200 เมตร มีความกว้าง 40 เมตร และสูง 100 เมตร มี 5 ปีก (ใบเรือ) ที่ทำให้นึกถึงเครื่องบิน โดยการข้ามสมุทรแอตแลนติกจะใช้เวลาทั้งสิ้น 12 วัน
ไฮโดรเจน
การใช้เชื้อเพลิงสะอาด เช่น ไฮโดรเจน มีความสำคัญอย่างยิ่ง หากอุตสาหกรรมการเดินเรือจะบรรลุเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593
ไฮโดรเจนสีเขียว สร้างขึ้นจากการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น ลมหรือพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อดึงไฮโดรเจนออกจากโมเลกุลของน้ำ ปราศจากการปล่อยมลพิษ แต่มีความท้าทายที่สำคัญบางอย่าง คือ เมื่อนำไฮโดรเจนไปใช้ เชื้อเพลิงต้องเก็บไว้ที่อุณหภูมิเย็นจัดที่-253C (-423F) และลูกเรือต้องได้รับการฝึกอบรมวิธีจัดการกับมันเนื่องจากเชื้อเพลิงนั้นไวไฟสูง
เมทานอล
Maersk บริษัทขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก กำลังวางเดิมพันครั้งใหญ่กับเมทานอลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยลดคาร์บอน บริษัทได้สั่งซื้อเรือที่ขับเคลื่อนด้วยเมทานอลทั้งหมด 25 ลำจนถึงปัจจุบัน
เมทานอลสีเขียวเป็นเชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำ ซึ่งสามารถผลิตได้จากมวลชีวภาพที่ยั่งยืนหรือใช้ไฟฟ้าหมุนเวียน เพื่อแยกน้ำออกเป็นออกซิเจนและไฮโดรเจนซึ่งรวมกับคาร์บอนไดออกไซด์ เมทานอลสีเขียวไม่เหมือนกับไฮโดรเจนตรงที่ไม่จำเป็นต้องเก็บภายใต้ความกดดันหรือความเย็นจัด และท่าเรือหลายแห่งมีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับจัดเก็บเชื้อเพลิงอยู่แล้ว แต่กระบวนการนี้ซับซ้อน ต้องดักจับคาร์บอนฯ ออกจากชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ยังเกิดขึ้นใหม่มีราคาแพง และยังไม่ได้รับการพิสูจน์
เรือไฟฟ้า
แบตเตอรี่ที่ชาร์จโดยใช้ไฟฟ้าหมุนเวียนเป็นอีกวิธีหนึ่งในการลดการปล่อยมลพิษในการขนส่ง แต่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับระยะทางที่สามารถขับเคลื่อนได้ ปัจจุบันแบตเตอรี่หมุนเวียนเป็นทางเลือกสำหรับเรือขนาดเล็กที่เดินทางระยะสั้น เช่น เรือข้ามฟากและเรือในแม่น้ำเท่านั้น ไม่ใช่สำหรับเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ที่ข้ามมหาสมุทร เจ้าของเรือกำลังมองหาทางเลือกพลังงานให้กับเรือบรรทุกสินค้าด้วยการผสมผสานระหว่างพลังงานลมและแผงเซลล์แสงอาทิตย์
ตัวอย่างเช่น บริษัทระบบพลังงานหมุนเวียนของญี่ปุ่น Eco Marine Power ได้พัฒนา EnergySails ใบเรือแข็งที่ติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งทำให้เรือสามารถใช้ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมได้ในเวลาเดียวกัน
โครงสร้างพื้นฐานสีเขียว
การตอบสนองต่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็วบนเรือ จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานใหม่มากมาย เช่น ท่าเรือ เพื่อผลิตและจัดเก็บเชื้อเพลิงเหล่านี้ และเพื่อให้เรือสามารถเติมเชื้อเพลิงได้ ท่าเรือต้องลงทุนในเครื่องอิเล็กโทรไลเซอร์ที่ผลิตไฮโดรเจน กำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงแบตเตอรี่และโรงเก็บไฮโดรเจน
เรือส่วนใหญ่ยังจำเป็นต้องได้รับการดัดแปลงเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถวิ่งด้วยเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยลมและซอฟต์แวร์ดิจิทัลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและปรับเส้นทางให้เหมาะสม
ข้อมูล :
What would net-zero shipping look like?
Maersk orders six methanol-powered container vessels
theoceanbird
Eco Marine Power’s wind and solar-powered ship unveiled in Japan
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
