ปฏิบัติการลับสุดยอด ส่งทหารไทยไปจีน ขอให้เติ้งเสี่ยวผิงช่วยสั่งสอนเวียดนาม
วันเสาร์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๒๒ พล.ท. ผิน เกษร เจ้ากรมยุทธการทหารกองบัญชาการกองทัพไทย พ.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้ากองยุทธการ กรมยุทธการทหารบก และ พ.อ. พัฒน์ อัคนิบุตร หัวหน้าฝ่ายข่าว กองบัญชาการทหารสูงสุด โดยสารสายการบินปากีสถานแอร์ไลน์ต่อที่ญี่ปุ่น แล้วบินเข้าจีน หน้าฉากคือเดินทางไป ‘ทัศนาจรและพักผ่อน’ ที่เมืองจีน แต่หลังฉากคือไปปฏิบัติการลับ
ปฏิบัติการลับอะไร?
ไม่ถึงปีก่อนหน้านั้น ในวันคริสต์มาสปี ๒๕๒๑ ขณะที่เสียงเพลง Jingle Bells กังวานในหลายมุมโลก เวียดนามยกทัพเต็มอัตราศึกด้วยกำลังทหาร ๑๕๐,๐๐๐ คน โค่นรัฐบาลเขมรแดงสำเร็จในสองอาทิตย์
เขมรพลันแตกแยกเป็นสี่ก๊ก ก๊กที่หนึ่งคือรัฐบาลกัมพูชาของ เฮงสัมริน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับเวียดนาม กำลังคนราวสี่หมื่นคน
ก๊กที่สองคือกลุ่มเขมรแดงของ พลพต และเขียว สัมพันธ์ มีกำลังราวสี่หมื่นคน ก๊กที่สามคือกลุ่มซอนซาน มีกำลังราวสี่พันคน ก๊กที่สี่คือกลุ่มสมเด็จนโรดม สีหนุ
สามก๊กหลังรวมกันเรียกว่า Three United Resistance ต่อต้าน เฮง สัมริน และเป็นเป้าหมายการปราบปรามของเวียดนามกับ เฮง สัมริน
ทัพเวียดนามและเขมร เฮง สัมริน กวาดล้างกลุ่มต่อต้าน ไล่ล่าเขมรแดงมาถึงชายแดนไทย-กัมพูชา แล้วรุกล้ำเข้ามาในแผ่นดินไทย
เสนาธิการเวียดนามคือนายพลวันเทียนดง ผู้เป็นมันสมองที่วางแผนการยุทธ์ยึดไซ่ง่อนได้ในปี ๒๕๑๘ เอ่ยเบาๆ แต่ได้ยินไปถึงกรุงเทพฯว่า จะบุกยึดกรุงเทพฯในเวลาแค่สองชั่วโมง
หากเวียดนามบุกไทยจริง ๆ กำลังทหารไทยอาจยังสู้พวกเวียดนามไม่ได้ พวกนั้นฝึกรบมาตลอดสงครามเวียดนาม เชี่ยวชาญการรบแบบกองโจร นอกจากนี้เวียดนามยังได้รับการสนับสนุนทางทหารจากโซเวียต เวียดนามไม่สามารถผลิตอาวุธได้เอง พึ่งพาอาวุธโซเวียตทั้งหมด
เสนาธิการไทยวางแผน (พล.อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์, พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์, นาวาอากาศตรี ประสงค์ สุ่นศิริ ฯลฯ) เดินหมากแบบที่ทุกฝ่ายคาดไม่ถึง
ไปเมืองจีน! ขอให้จีนจัดการเวียดนามที่กำลังกร่าง
การไปเจรจากับจีนครั้งนี้มีความเสี่ยงสูง เพราะหนึ่ง จีนอาจไม่ยอมรับข้อเสนอของไทย และสอง สหรัฐฯไม่ชอบใจแน่นอนที่ไทยซึ่งเป็นพันธมิตรมายาวนานแอบไปหาจีน
แต่เติ้งเสี่ยวผิงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทย ในปีก่อนหน้าน้้นได้มาเยือนไทย
อย่างไรก็ตาม คณะนายทหารไทยไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เข้าพบกับเติ้งเสี่ยวผิง จึงประหลาดใจอย่างยิ่งที่เติ้งเสี่ยวผิงมาพบด้วยตนเอง
แน่นอน เติ้งเสี่ยวผิงย่อมรู้ดีว่าไทยมาหาทำไม
เติ้งเสี่ยวผิงสูบบุหรี่ดันฮิลล์สีแดง ทำพิเศษ เนื้อยาสูบนิดเดียว กล่าวว่า “เวียดนามกำลังจับหมัดสิบตัวด้วยหลายมือ”
เวลานั้นประเทศจีนยุคเติ้งเสี่ยวผิงกำลังปฏิรูปเศรษฐกิจ เติ้งเสี่ยวผิงมีนโยบาย ‘สี่ทันสมัย’ ต้องการสร้างความสัมพันธ์และสร้างตลาดต่างประเทศ จีนเล่นกับเวียดนามด้วยกำลังทหาร แต่สำหรับอาเซียน กระทำด้วยการทูตและการค้า
มาถึงจุดนี้ พคท. ก็เป็นเบี้ยบนกระดานหมากรุกที่จีนยอมสละได้เพื่อประโยชน์ในระยะยาว แน่นอน ไทยมีราคาที่ต้องจ่ายจีน เช่น ไทยต้องสนับสนุนกำลังเขมรแดง ไทยต้องร่วมมือกับจีนในหลายเรื่อง ไทยยังต้องยอมให้จีนขนอาวุธผ่านไทยไปช่วยเขมรแดงสู้เวียดนาม
หลังจากนั้นคลื่นจากสถานีวิทยุเสียงประชาชนแห่งประเทศไทย (สปท.) หายไปอย่างถาวร
วันที่เสียงวิทยุที่หายไปคือจุดสิ้นสุดอย่างเป็นรูปธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
ปีต่อมา พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ก็รุกต่อด้วยคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ ๖๖/๒๕๒๓ ใช้การเมืองนำทางอันส่งผลให้เมืองไทยไม่เคยเป็นคอมมิวนิสต์
จากเรื่อง ข้าศึกที่หน้าบ้าน ในชุดประวัติศาสตร์ที่เราลืม / วินทร์ เลียววาริณ
ตอนนี้มีชุดโปรโมชั่น ชุดสารคดี ประวัติศาสตร์ที่เราลืม เล่ม 1-5 (5 เล่ม) + วีรบุรุษที่เราลืม เพียง 1,000 บาท สั่งได้ที่เว็บ winbookclub.com หรือ Shopee (ค้นคำ namol113)
- 18
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
