12 ก.ค. 2023 เวลา 15:14 • ข่าว

เมื่อชาวจีนไม่ออกเที่ยว สะเทือนเศรษฐกิจทั่ว “อาเซียน”

เมื่อเศรษฐกิจจีนไม่ฟื้นดีตามคาด และชาวจีนก็ไม่หลั่งไหลออกท่องเที่ยวต่างประเทศตามที่คาดการณ์และตั้งความหวังไว้ ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวของประเทศต่าง ๆ ไม่ฟื้นดี โดยเฉพาะประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งไทย ซึ่งเคยพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนในสัดส่วนที่สูง
“บลูมเบิร์ก” รายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ที่หวังพึ่งพานักท่องเที่ยวชาวจีนเพื่อขับเคลื่อนรายได้ภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ กำลังพบกับความจริงที่ว่า การเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนยังห่างไกลจากที่คาดหวังไว้ ว่าจะหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็วหลังจากที่จีนเปิดประเทศ
3
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งช้ากว่าที่คาด ทำให้ชาวจีนระมัดระวังมากขึ้นที่จะใช้จ่ายเงินไปกับการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้า 5 ประเทศ ในอาซียน ยังไม่มีประเทศไหนที่ถึง 50% ของระดับก่อนโควิด
4
โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนสะสม 5 เดือนแรกแต่ละประเทศ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 คิดเป็นสัดส่วนดังนี้ อินโดนีเซีย 38.8%, ไทย 35.9%, เวียดนาม 34.3%, สิงคโปร์ 25.2% และฟิลิปปินส์ 13.8%
สถิติจำนวนนักท่องเที่ยวชี้ให้เห็นว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียนในปีนี้จะมีอุปสรรค ท่ามกลางแนวโน้มการเติบโตทั่วโลกที่ค่อนข้างมืดมัว
7
แม้ว่าประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวมากที่สุดในภูมิภาค ได้รับประโยชน์จากดีมานด์การเดินทางที่ฟื้นตัว แต่ก็คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเยือนไทยในปีนี้จะต่ำกว่าเป้าเดิมที่ทางการไทยตั้งเป้าไว้ 7 ล้านคนอย่างน้อย 2-3 ล้านคน ส่งผลให้ตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจไทยถูกปรับลดลง โดยนักเศรษฐศาสตร์ของ “โนมูระ โฮลดิ้งส์” ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยลงเหลือ 3.4% จากก่อนหน้าที่คาดการณ์ไว้ 4%
2
บาหลี หนึ่งในจุดหมายปลายทางการพักผ่อนตากอากาศที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเยือนมากที่สุดในอินโดนีเซีย พบว่าช่วง 5 เดือนแรก ดีมานด์โรงแรมหรูลดลง รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนที่น้อยกว่าก่อนโควิดมาก
2
แม้แต่สิงคโปร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ให้เครดิตว่าการท่องเที่ยวที่เฟื่องฟูจะช่วยไม่ให้เศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ ก็ยังเห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่น่าผิดหวัง โดยในช่วง 5 เดือนแรก สิงคโปร์ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนจำนวน 310,901 คน เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 ที่สูงถึง 1.55 ล้านคน
4
อ่านเพิ่มเติม : https://www.prachachat.net/world-news/news-1345512
1
โฆษณา