14 ก.ค. 2023 เวลา 08:24 • การตลาด

คอนเสิร์ตศิลปินระดับโลกเขย่าเศรษฐกิจมหาศาล

“The Eras Tour” สร้างมูลค่าเศรษฐกิจถึง 1.7 แสนล้าน
ผู้นำหลายประเทศอยากให้ “เทเลอร์ สวิฟต์” มาเปิดโชว์
กระแสการเดินทางมาทัวร์คอนเสิร์ตของ “เทเลอร์ สวิฟต์” ที่จะมาเปิดการแสดงในเอเชียเพียงแค่ 2 ประเทศคือ สิงคโปร์และญี่ปุ่น กับคอนเสิร์ต "The Eras Tour" เรียกได้ว่าสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วทั้งเอเชียและทั่วโลก เพราะการที่จะเทเลอร์เลือกที่จะเดินทางมายังประเทศใดประเทศหนึ่งเพื่อโชว์จัดเต็มต่อหน้าแฟนๆ นับหมื่นนับแสนคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
และใช่ว่าทุกประเทศจะมีโอกาสต้อนรับนักร้องที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกในปัจจุบัน เพราะประเทศนั้นๆ ต้องมีพร้อมจริงๆ ทั้งโครงสร้างพื้นฐานในการจัดแสดงคอนเสิร์ต การคมนาคมขนส่ง ขนาดเศรษฐกิจ กำลังซื้อ รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองที่นิ่งและมีเสถียรภาพ
ในมุมมองทางเศรษฐกิจปฎิเสธไม่ได้ว่า คอนเสิร์ตระดับ World Tour ของซุปเปอร์สตาร์ระดับนี้ย่อมเป็นที่จับตาทั้งจากผู้คนในแวดวงต่างๆ ทั้งแวดวงบันเทิง หรือแวดวงด้านเศรษฐศาสตร์ เพราะมันสามารถสร้างแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจในประเทศที่จัดคอนเสิร์ตได้อย่างมหาศาลอย่างที่ใครหลายคนคาดไม่ถึง คอนเสิร์ตเพียง 3 รอบ อาจสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่าในภาคส่วนนั้นๆ ที่ต้องใช้เวลาทั้งเดือนเลยก็มี หรือทำให้ GDP ของประเทศที่จัดคอนเสิร์จขับได้เลยอีกด้วย
1
ก่อนที่จะไปพูดถึงการทัวร์คอนเสิร์ตของเทเลอร์ ในช่วงเวลาใกล้ๆ กัน ก็มีศิลปินระดับไอคอนของโลกที่ได้เปิดการแสดงไปแล้วอย่าง “บียอนเซ่ โนวส์” ที่เดินทางมาทัวร์คอนเสิร์ตที่ยุโรปหลายประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือสวีเดน
2
Michael Grahn หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Danske Bank ประเมินผลกระทบจากการจัดคอนเสิร์ตของ "ควีนบี" ในกรุงสต็อกโฮล์มต่อเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อวันที่ 10 - 11 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ควีนบีสร้างผลกระทบที่น่าเหลือเชื่อต่ออัตราเงินเฟ้อของสวีเดน โดยพุ่งขึ้น 0.2% ในเดือนพฤษภาคม จากการแสดงคอนเสิร์ตทั้ง 2 วันของเธอ ซึ่งผลที่เกิดขึ้นมันค่อนข้างน่าประหลาดใจสําหรับเหตุการณ์เดียว และไม่เคยเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นมาก่อน
การปรับขึ้นของอัตราเงินเฟ้อส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการที่หลากหลาย เช่น ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม และร้านอาหาร รวมทั้งบริการสันทนาการอื่นๆ ครอบคลุมถึงตั๋วคอนเสิร์ตที่มีความต้องการสูงมากกว่าจำนวนที่จำหน่ายจริงถึง 800%
"Beyoncé Effect" ปรากฎการณ์นี้สามารถอธิบายได้ด้วยการเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังกรุงสตอกโฮล์ม สาวกของควีนบีจากทั่วโลกจํานวนมากเลือกที่จะบินไปยังเมืองหลวงของสวีเดนเพื่อชมเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตที่เปิดฉากที่นี่เป็นที่แรก ส่งผลให้ยอดจองห้องพักและร้านอาหารเพิ่มขึ้น ตามรายงานของ Wall Street Journal ราคาโรงแรมและร้านอาหารเพิ่มขึ้น 3.3% จากเดือนเมษายน และทุกอย่างก็กลับมาลดราคาลงเมื่อคอนเสิร์ตได้ผ่านพ้นไป รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อ
Andreas Wallström หัวหน้าฝ่ายพยากรณ์ของ Swedbank บอกกับ Financial Times ว่าคอนเสิร์ต ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของบียอนเซ่ได้เดินทางจากสตอกโฮล์มผ่านบรัสเซลส์ คาร์ดิฟฟ์ เอดินบะระ และขยายเวลาออกไปอีก 5 คืนในลอนดอน เธอจะแสดงในเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และโปแลนด์ ก่อนเดินทางไปแคนาดาและสหรัฐอเมริกา ซึ่งปรากฎการณ์ Beyoncé Effect ได้สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจกับเมืองและประเทศนั้นๆ เช่นกัน
มีการประมาณการว่ารายได้จากการทัวร์คอนเสิร์ตอย่างต่ำของควีนบีคือ 2,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 70,284 ล้านบาท หรืออาจจะมากกว่านั้น และแต่ละประเทศที่เดินทางไปเปิดคอนเสิร์ตก็สามารถดึงดูดแฟนคลับจากทั่วโลกให้เดินทางมายังประเทศที่เปิดเจ้าภาพได้อีกด้วย ซึ่งโฆษกของ Viagogo กล่าวว่า บียอนเซ่กลายเป็นเป็นศิลปินที่เปิดทัวร์คอนเสิร์ตสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในสหราชอาณาจักรโดยพิจารณาจากจํานวนตั๋วที่จำหน่ายได้ในปี 2023 ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ และแฟนเพลงของเธอก็เดินทางมาที่ลอนดอนจาาก 90 ประเทศซื้อตั๋วเพื่อดูการแสดงของเธอ
และเหตุการณ์ในกรณีที่คล้ายกันก็กำลังเกิดขึ้นกับการทัวร์คอนเสิร์ตของเทเลอร์ สวิฟต์ ที่กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ขนาดทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ซบเซากลับมาคึกคักอีกครั้ง
Dan Fleetwood ประธานบริษัท QuestionPro Research and Insights คาดการณ์ว่า การทัวร์คอนเสิร์ตของเทเลอร์ในสหรัฐฯ จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้สูงถึง 5,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 176,100 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าขนาดเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศขนาดเล็กถึง 50 ประเทศ และพร้อมบอกว่าสิ่งที่ทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงมากนั้น
เนื่องจากบรรดาแฟนคลับไม่ได้ไปเมืองดังกล่าวเพียงเพื่อชมคอนเสิร์ตของศิลปินดัง แต่การที่พวกเขาขับรถไปก็ต้องหาที่จอด หาที่พัก และหาที่รับประทานอาหาร เหล่านี้ล้วนทำให้เกิดการไหลเวียนของเงินในเมืองต่างๆ ได้ทั้งสิ้น
ยกตัวอย่างการทัวร์คอนเสิร์ตที่ลาสเวกัสและชิคาโก คณะกรรมการการค้าในทั้งสองเมืองได้ประกาศผลกระทบทางเศรษฐกิจต่ออุตสาหกรรมโรงแรมโดยระบุว่า อัตราการเข้าพักในชิคาโกสูงถึง 96.8% เมื่อเทเลอร์มาโชว์ 3 รอบในเดือนนี้ ส่วนการโชว์ทั้ง 2 คืนในลาสเวกัสช่วยผลักดันตัวเลขการท่องเที่ยวในเมืองนั้นให้อยู่ในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด
2
และการเดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นชาติเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เทเลอร์เลือก ก็สร้างปรากฎการณ์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งจำนวนผู้ชมรวม 6 รอบที่มากถึง 300,000 คน การที่ธนาคารยูโอบีในอาเซียน ออกแคมเปญพิเศษในการซื้อตั๋วคอนเสิร์ตก่อนการเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ดันการสมัครบัตรเครดิตของธนาคารนี้พุ่งสูงถึง 45% ในสิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ในสัปดาห์นี้ที่เทเลอร์ประกาศวันจัดคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ และมีผู้รอในระบบการจองตั๋วมากว่า 1 ล้านคนในวันเดียว
1
อีกทั้งยังกลายเป็นประเด็นทางเศรษฐกิจด้วย เนื่องจากธนาคารกลางสิงคโปร์ถูกสื่อตั้งคำถามว่า คอนเสิร์ตของเทเลอร์ จะทำให้ภาวะเงินเฟ้อสิงคโปร์พุ่งสูงขึ้นหรือไม่ เนื่องจากอย่าง Business Times ได้รายงานราคาตั๋วเครื่องบินและโรงแรมในสัปดาห์ที่มีการเปิดการแสดงนั้นพุ่งกระฉูดสูงมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
กระแสของเทเลอร์ ไม่เพียงแค่เกิดขึ้นในแวดวงเศรษฐกิจและธุรกิจบันเทิงของโลก แต่เป็นสิ่งที่ผู้นำของรัฐหลายประเทศได้ออกมาเชื้อเชิญให้เธอมาจัดคอนเสิร์ตที่ประเทศของตัวเอง
🇨🇦 แคนาดา : ที่แม้จะมีทัวร์ในสหรัฐอเมริกาอย่างเกือบทั่วประเทศ แต่เทเลอร์ยังไม่ได้ประกาศวันที่แคนาดาจะมีโอกาสได้ต้อนรับโชว์ของเธอ ซึ่งในทวีตนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ได้ทวีตข้อความอ้อนวอนอย่างสุภาพเมื่อวันพฤหัสบดีว่า "ฉันรู้ว่าสถานที่ในแคนาดาอยากให้คุณมาเยือน ... เราหวังว่าจะได้พบคุณเร็วๆ นี้"
🇦🇺 ออสเตรเลีย : เทเลอร์วางแผนที่จะไปเยือนเมลเบิร์นและซิดนีย์ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า แต่นักการเมืองในรัฐอื่นๆ ของประเทศไม่พอใจกับความจริงที่ว่าเธอไม่ได้ทัวร์ออสเตรเลียเต็มรูปแบบ
"ฉันกําลังถามคุณ ฉันขอร้องคุณ ฉันขอร้องคุณ ฉันจะคุกเข่าลงถ้าฉันต้องทําโปรดมาที่ควีนส์แลนด์ มีแฟนๆ Swiftie มากมายในควีนส์แลนด์ ฉันเป็นหนึ่งในนั้น" สมาชิกรัฐสภาและอดีตประธานสภาแอนดรูว์ วอลเลซ ให้สัมภาษณ์กับ ABC Australia
ส่วนสมาชิกรัฐสภา แพทริค กอร์แมน ซึ่งเป็นตัวแทนบางส่วนของเมืองเพิร์ธ กล่าวว่าเขาได้ตรวจสอบแล้วว่าสนามกีฬาในเพิร์ธจะพร้อมใช้งานเมื่อเทเลอร์อยู่ในประเทศของเรา
"เราต้องการ Eras World Tour เพื่อมาที่เพิร์ธ ... สวิฟตี้แห่งเพิร์ธรอคุณกลับมา"
แม้แต่สายการบิน Air New Zealand กําลังเพิ่มเที่ยวบินใหม่ลงในตารางเพื่อให้ Kiwi Swifties สามารถบินไปออสเตรเลียเพื่อชมการแสดงที่นั่นได้
🇨🇱 ชิลี : ประธานาธิบดีกาเบรียล บอริกซึ่งครั้งหนึ่งเคยเก็บภาพสวิฟต์ไว้ในกระเป๋าเสื้อและได้กล่าวว่า อัลบั้มโปรดของเขาคือ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ว่าเขาเขียนถึงเธอเพื่อขอให้เธอรวมชิลีไว้ในทัวร์ละตินอเมริกาของเธอ
ปัจจุบันสวิฟต์มีแผนจะเล่นในเม็กซิโก อาร์เจนตินา และบราซิล
"วันหนึ่งเธอจะมาเจอพวกเราชาว Chilean Swifties และฉันไม่สงสัยเลยว่าเธอจะมาที่ชิลี หวังว่าภายในสามปีข้างหน้า"
🇹🇭 ไทย : ในปี 2014 เกือบจะได้จัดคอนเสิร์ตของเทเลอร์ในกรุงเทพฯ แต่สุดท้ายต้องมีการยกเลิกเนื่องจากเกิดเหตุยึดอำนาจจากการทำรัฐประหารของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยผู้นำการยึดอำนาจนั้นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา และเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่เทเลอร์ยกเลิกคอนเสิร์ต จากทั้งหมด 452 ครั้ง
ซึ่งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกว่าที่นายกรัฐมนตรี ได้ทวีตชวนเทเลอร์ สวิฟต์ มาจัดคอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯ โดยเปรยในทวิตเตอร์ว่า “มาเถอะ และผมจะร้องเพลง ลาเวนเดอร์ เฮซ กับคุณ!” ซึ่งกล่าวถึงเพลงของอัลบั้มล่าสุดของสวิฟต์ในปีนี้
ฉะนั้น “Eras Tour” ไม่ใช่เพียงแค่การเดินทางมาเล่นคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลกที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคนี้ แต่มันเป็นเหมือนชัยชนะเหนือเมืองหรือประเทศ ในอาชีพของเธอกว่า 15 ปี ที่เป็นหนึ่งในไอคอนของโลกที่ได้รับความนิยมและอิทธิพลถึงจุดสูงสุดใหม่ และการทัวร์คอนเสิร์ตได้กลายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ และยังทำให้เมืองหรือประเทศนั้นๆ ถูกจับตาจากทั่วโลก ซึ่งนี่แหละคือ Soft Power อย่างแท้จริงที่ทั้งโลกต่างต้องการ
โฆษณา