16 ก.ค. 2023 เวลา 19:37 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สหรัฐขยายเพดานหนี้สาธารณะ /สัดส่วนที่ขาย แล้วใครซื้อ?

จากภาพที่รัฐบาลสหรัฐได้ขยายเพดานหนี้สาธารณะ ซึ่งตีบตันอยู่ที่ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ และ ขยับเพดานขึ้นไปถึงปี 2025 เกิดอะไรขึ้นบ้างกับภาพการไหลเวียนของเงินที่สหรัฐได้ Action ซึ่งแน่นอนว่าต้องกู้ยืมเพิ่ม
  • 1.
    จากตัวเลขเงินคงคลังรัฐบาลสหรัฐสิ้นเดือน พฤษภาคม 2023 อยู่ที่ ประมาณ 47bln (4.7หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่ง เพียงพอสำหรับ การที่รัฐบาลจะใช้จ่ายเงินได้แค่ 3 วันเท่านั้น (6.8ล้านล้าน/365) งบประมาณจ่ายทั้งปีคือ 6.8 ล้านล้านสหรัฐ ดังนั้น โอกาสที่สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้จึงมีสูงเพราะเงินไม่พอจ่ายภาระผูกพันต่างๆ
  • 2.
    สหรัฐเจอปัญหาเพดานหนี้ที่ต้องขยายก่อนวันที่ 2 มิถุนายน จาก 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ปัญหานี้ผ่านไปแล้ว และ แน่นอนว่าสหรัฐต้องกู้ยืมเพิ่มเติม
เมื่อสหรัฐต้องกู้ยืม เขาจะกู้จากใคร คนในตลาดต่างตกใจว่า การกู้จะทำให้อัตราดอกเบี้ยในประเทศปรับตัวสูงขึ้น และ กระทบการลงทุนภาคเอกชน และ ทำให้เศรษฐกิจถดถอย แต่ จริงๆแล้วภาพไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะอะไร
  • 1.
    ช่วง Covid19 ธนาคารกลางสหรัฐได้ซื้อ สินทรัพย์ และ รัฐบาลก็ออกพันธบัตรรัฐบาลในปริมาณที่มาก เงินนั้นเข้าไปอยู่ในบัญชีคงคลังของสหรัฐ ก่อนถูกเบิกจ่ายออกมาและเข้าระบบการเงิน เงินเหล่านี้เป็นเงินส่วนเกินที่ต้องวิ่งหาสินทรัพย์ ทำให้กดอัตราดอกเบี้ยลงต่ำ และ อาจจะติดลบ ธนาคารกลางใช้เครื่องมือ Reverse Repurchase หรือ การขายพันธบัตรเพื่อขอกู้เงินแบบข้ามคืนจากตลาดเงิน ธุรกรรมนี้จะรวมถึง ผู้เล่นในตลาดที่กว้างกว่า ธนาคารพาณิชย์ที่ฝากเงินไว้กับ FED เพื่อ รับดอกเบี้ยบนสำรองที่ตัวเองมี( interest on reserve)
สัดส่วนการกู้ยืมของรัฐบาลผ่านการประมูล(https://www.treasurydirect.gov/auctions/results/)
รัฐบาลสหรัฐกู้ยืมเงินจากตลาดปัจจุบันยอดอยู่ที่ 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ การกู้ยืมจะรวมทั้งสร้างหนี้ใหม่ และ จ่ายหนี้เก่า (หากสร้างหนี้ใหม่ ตัวเลขหนี้จาก usdebtclock.org ตอนนี้อยู่ที่ระดับ 32.5 ล้านล้านดอลลาร์ ก็ราวๆ 1.1 ล้านล้านที่เป็นหนี้ใหม่ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2023 เป็นต้นมา สังเกตุภาพที่ผมนำมาด้านบน คือยอดการออกหนี้ใหม่ และ ส่วนใหญ่เป็น พันธบัตรระยะสั้นมาก ถึง สั้น เพราะ ตราสารเหล่านี้ดอกเบี้ยต่ำสุด หากจะกู้ยืม เนื่องจากระยะเวลาไถ่ถอนที่สั้นจึงทำให้ความเสี่ยงต่ำ
หนี้ที่คลังสหรัฐจะเสนอขายจนสิ้นปีงบประมาณ 2023 หรือถึงกันยายนคือ1.1 ล้านล้าน$
รูปแบบการกู้ยืมของรัฐบาลสหรัฐช่วงหลังขยายเพดานหนี
เนื่องจากสหรัฐเงินคงคลัง (TGA account ) เหลือใช้เพียง 47bln หรือ ไม่เกิน 3 วันจากตัวเลขงบปกติ ทำให้ต้องกู้ยืม และ ต้องกู้จำนวนมากถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ นี่คือ หนี้ที่รัฐบาลเสนอขาย แล้ว ใครจะมาเป็นคนซื้อหนี้เหล่านี้ เนื่องจากธนาคารกลางเองก็กำลังลดงบดุลราวๆ 1 ล้านล้านดอลลาร์ (95 bln/month) ทำให้ เราคิดง่ายๆว่า มันจะมีหนี้ขายออก 2 ล้านล้านหรือ 8%/GDP (US Nominal GDP 25trn)
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุน้อยกว่า1ปี(สัดส่วน87%ที่รัฐบาลประมูล)
ดอกเบี้ยพันธบัตรอายุน้อยกว่า 1 ปี ไม่ได้พุ่งสูงขึ้นมากนัก เนื่องจาก มีสภาพคล่องไหลเข้ามาเพียงพอ (เงินที่ไหลออกจากRRP 470bln)
  • 1.
    เอาเฉพาะหนี้รัฐบาล 1 ล้านล้านดอลลาร์ ใครจะมาเป็นผู้ซื้อตอนนี้ หลักฐานสำคัญจากตัวเลขล่าสุดคือ การปล่อยให้เงินไหลออกจากธุรกรรม RRP ที่เดิมมียอดคงค้าง 2.2 ล้านล้าน ตอนนี้ไหลลงมาเป็น 1.7 ล้านล้าน หรือ หายไป 470bln ซึ่ง ยอดเงินคงคลังก็ปรับตัวขึ้นมาระดับเดียวกัน
เงินที่ไหลออกจากธุรกรรมRRPไหลเข้าบัญชีคงคลังรัฐบาล(TGA)470bln
ปัจจัยที่กระทบสภาพคล่องธนาคาร(ตัวกระทบจริงๆคือเงินไหลออกจากRRPแทนที่จะไหลออกจากแบงค์)
สภาพคล่องในธนาคารไม่ได้ถูกกระทบ รวมถึงตลาดการเงิน เนื่องจาก สภาพคล่องเดิมในธุรกรรม RRP ไหลมาซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่ออกใหม่แทน
ผมทำข้อมูลเพื่อดูการไหลของเงินว่าจะไปทางไหน สำหรับสหรัฐตอนนี้ เงินกำลังไหลเข้าบัญชีคงคลัง (TGA account ผ่านการออกพันธบัตร และ เงินที่มาซื้อพันธบัตร ก็มาจาก ธุรกรรม RRP ที่ออกมาซื้อเพราะ ผลตอบแทนสูงกว่าการกินดอกเบี้ยใน RRP ที่จ่ายดอกเบี้ย 5.05% แต่ ตราสารรัฐบาลสหรัฐ จ่าย 5.3% ขึ้นไป เงินจะไหลออกมาจากตรงนี้เรื่อยๆ รวมถึง ไม่กระทบตลาดการเงิน หรือสภาพคล่องในธนาคารอีก เราอาจจะสงสัยว่า แล้ว หากรัฐบาลจ่ายเงินออกมาจากบัญชี TGA เงินจะไปไหน เงินก็วนกลับไปที่ ระบบธนาคาร (reserve) อีกรอบนั่นเอง
สรุปทิ้งท้าย
  • 1.
    สหรัฐเงินคงคลังหมด ต้องกู้เงินจากตลาดเงินผ่านการประมูลพันธบัตรที่ออกขาย
  • 2.
    ผู้ที่จะปล่อยกู้ให้ คือ เอกชนในประเทศ และ ธนาคารกลางในประเทศ(ที่ซื้อหนี้ทางอ้อม) รวมถึง กลุ่มสถาบันและธนาคารกลางต่างประเทศ
  • 3.
    เมื่อผู้เล่นต่างๆ ไม่ได้พร้อมจะซื้อหนี้ที่รัฐบาลจะขาย ก็จะเกิดความไม่สมดุลของ ยอดเสนอขายที่มากกว่ายอดซื้อ ดังนั้น ดอกเบี้ยต้องขยับสูงเพื่อให้หนี้ขายหมด
  • 4.
    สภาพคล่องเดิมที่ถูกกักเก็บไว้ทั้ง สำรองส่วนเกินและ RRP ถูกปล่อยให้มาช่วยซื้อหนี้รัฐบาล
อ้างอิง
ขอบคุณนะครับสำหรับพื้นที่ดีๆ
บทความแรกผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคับ
โฆษณา