19 ก.ค. 2023 เวลา 04:15 • นิยาย เรื่องสั้น

10 ตำนานสถานที่หลอนใจกลางกรุง

อันดับ 1 บ้านโรมันในซอยวัชรพล
บ้านโรมันซอยวัชรพล
บ้านทรงยุโรปหลังใหญ่ ซึ่งยังก่อสร้างไม่เสร็จ ถูกทิ้งร้างไว้ในสภาพเดิม ว่ากันว่าเวลากลางคืนมีคนพบเห็นวิญญาณของชายหญิงและเด็กปรากฏอยู่บ่อยๆ สาเหตุที่บ้านหลังนี้กลายเป็นบ้านร้าง เนื่องจากเจ้าของบ้านหลังนี้พาครอบครัวขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด แล้วประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตหมดทุกคน
อันดับ 2 โรงงานสร้างอุตสาหกรรมบางปู
โรงงานร้างอุตสาหกรรมบางปู
โรงงานสร้างอุตสาหกรรมบางปูฝั่งเดียวกับเมืองโบราณ สถานที่อยู่สุดซอย 2 เมื่อก่อนเป็นโรงงานทำรองเท้า ขณะที่กิจการกำลังดำเนินงานไปด้วยดี ได้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้น คือเครื่องปั้มลมเกิดระเบิด คนงานหลายคนเสียชีวิตสยอง หลังจากนั้นเกิดเรื่องเล่าว่า มีผู้พบเห็นวิญญาณหรือได้ยินเสียงแปลกๆ ทำให้พนักงานที่เหลือไม่กล้าทำงานต่อ ทยอยกันลาออกไป กิจการแย่ลง สุดท้ายเจ้าของทนวิกฤติไม่ไหว ยิ่งตัวตายในห้องทำงาน ว่ากันว่าหลังจากนั้นก็เป็นโรงงานร้าง เคยมีคนเข้าไปลองของ แต่ก็กลับออกมาแล้วบอกถึงความดุเฮี้ยน
อันดับที่ 3 วัดปราสาท นนทบุรี
วัดปราสาท นนทบุรี
วัดเก่าแก่โบราณ สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับวิญญาณในวัดแห่งนี้
  • 1.
    ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง ช่วงหัวค่ำ เวลาเดินผ่านศาลจะเห็นผู้หญิงแต่งชุดไทยอยู่บริเวณศาล บางก็ว่าถ้ามองเข้าไปในศาลจะเห็นกลุ่มควันลอยมาจากต้นตะเคียน เมื่อมองดูจะเห็นหน้าผู้หญิงลอยออกมา
  • 2.
    ศาลนางอุสาวดีเทวี เดิมก่อนจะสร้างศาลแห่งนี้ขึ้นมา ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆ ฝันถึงแม่นางคนนึงหน้าตาสวย พอมีคนฝันเจอบ่อยๆจะเรียกู้หญิงคนนั้นว่า แม่นางคนสวย แต่พอไปสืบประวัติดู ก็เข้าใจได้ว่าน่าจะเป็นสนมของพระเจ้าปราสาททอง ซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้มาก่อนโดยเมื่อก่อนเรือนของท่านจะตั้งอยู่ทางหลังวัด
บริเวณนั้นดูวังเวง บางทีมีคนเห็นผู้หญิงใส่ชุด ไทยเดอนไปเดินมาบริเวณวัด บางคนเล่าว่าหากมีใครไปทำกิริยาไม่ดี ไม่เคารพผู้เป็นเจ้าของสถานที่มักจะเจอเหตุการณ์แปลกๆ เจอสิ่งลี้ลับหลังเบาไม่เท่ากัน จนผู้ลบหลู่ต้องไปกราบขอขมาทุกครั้ง
3. ศาลาเก็บศพโบราณ หากใครเคยไปวัดปราสาทจะเห็นกุฏิไม้และศาลาเก่าๆ สภาพพุพังอยู่หลายหลัง ที่มันยังมีโรงเก็บศพเก่าที่ปลูกเป็นศาลาไม้ไว้หลังนึง ซึ่งเดิมทีทางวัดตั้งในจะบูรณะใหม่ มาเป็นศาลาให้พระและชาวบ้านไว้ใช้ประโยชน์ แต่ปรากฏว่าก็สร้างยังไงก็ไม่เสร็จ เพราะมักจะเกิดเหตุขัดขวางอยู่เสมอ บางทีอาจเป็นอาถรรพ์ของศาลาเก่าแห่งนี้
4. กุฏิหลอน มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระที่มาเสียชีวิตกับวัดแห่งนี้ แต่ข้อมูลไม่แน่ชัดว่าท่านเจ็บป่วยจนมรณภาพหรือผูกคอตายกันแน่ แต่วิญญาณของพระสงฆ์รูปดังกล่าวถูกพูดถึงกันไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเหล่าพระเณะที่อยู่ร่วมวัดหรือชาวบ้านแถวนี้ที่ต่างเคยพบเจอวิญญาณของผู้ตายออกมาหลอกอยู่บ่อยๆ
5. ป่าช้าหลังวัดเฮี้ยน แต่เดิมคือป่าช้าที่คนสมัยก่อนเอาศพมาฝัง และใกล้ๆก็มีโกดังเก็บศพอยู่ก่อน ลางเล่าว่าเห็นใครไม่รู้ว่านั่งอยู่ตรงโกดังเก็บศพ หรือเห็นเป็นคนคลุมผ้าห่อศพสีขาวลอยตามมาก็มี ต่อมาวัดได้มีการปรับปรุงพื้นที่ นำโกดังเก็บศพมาใช้เป็นที่เก็บของแทน
อันดับที่ 4 โรงงานปากการ้าง
โรงงานปากการ้าง
โรงงานปากการ้างในซอยมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ถนนพัฒนาการ เมื่อก่อนนี้เป็นโรงงานทำปากกาและเป็นฌรงกลึงขนาดใหญ่ เหตุที่กลายเป็นโรงงานร้าง ชาวบ้านเชื่อกันว่าโรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่พื้นที่อาถรรพ์ เจ้าที่แรง ระหว่างที่ดำเนินกิจการเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง บ้างก็มีคนตายไม่น้อย หลังจากปิดกิจการไป พวกวัยรุ่นมักพากันไปลองของ บางคนเข้าไปบอกเจอวิญญาณผู้เสียชีวิต
ทั้งยังมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า ต้องเคาะแทงค์น้ำ 3 แทงค์ 3 ครั้ง ให้ครบ หากใครได้เข้ามาลองสถานที่แห่งนี้แล้วไม่ได้ไปเคาะแทงค์น้ำ ก็ถือว่ามาลองของไม่สำเร็จ เพราะถ้าเคาะครบ เจ้าที่จะปรากฏหลายออกมาทันที ปัจจุบันเหลือแค่เรื่องเล่าให้คนรุ่นหลังได้ฟัง เพราะแทงค์น้ำได้หายไปก่อนที่โรงงานจะถูกทุบ
อันดับที่ 5 บ้านร้างย่านรังสิต
บ้านร้างย่านรังสิต
บ้านร้างย่านรังสิต คลอง 13 มีบ้านพักถูกไฟไหม้เกือบทั้งหลัง แต่ยังเหลือซากที่เป็นตัวบ้านอยู่ส่วนหนึ่ง เล่ากันว่า มีผู้หญิงตายในกองไฟ คนในระแวกใกล้เคียงต่างยืนยันว่าจะได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องออกมาจากบ้านหลังดังกล่าวบ่อยๆ บางก็บอกเคยเห็นผีผู้หญิงในบริเวณซากบ้านด้วย
อันดับที่ 6 ซอยรอดอนันต์
ซอยรอดอนันต์
บ้านร้างทรงไทยที่อยู่ริมบึง ห่างจากบ้านอื่นในระแวกนั้น บริเวณบ้านปกคลุมไปด้วยต้นไม้ ยายเจ้าของบ้านเสียชีวิตที่บ้านหลังนี้ และน่าจะเชื่อว่าวิญญาณของยายไม่ไปเกิด จนกระทั่งลูกหลานไม่กล้าอยู่ต่างแยกย้ายไปอยู่ที่อื่นหมด ปล่อยบ้านทิ้งร้าง ปล้วเล่าลือกันว่าผีดุนัก คนอยู่ใกล้เคียงเคยเห็นผียายมายืนขี้นิ้วอยู่หน้าบ้าน เมื่อมีเด็กมาเล่นบริเวณบ้าน เคยมีคนเข้าไปลองของบริเวณบ้านแล้วได้ยินเสียงคนแก่ตะคอกจนต้องหนีออกมา
อันดับที่ 7 สุสานรถเมย์เก่า
สุสานรถเมล์เก่า
สุสานรถเมล์เก่าในซอยสายหยุด ที่นี่เคยเป็นอู่รถเมล์ ที่ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนใช้งานไม่ได้ รถทุกคันจะอยู่สภาพขึ้นสนิม พุพัง ซากรถแต่ละคันมีประวัติคนตายโหงคารถ แทบทุกคืนที่มีคนผ่านสุสานรถแห่งนี้มักจะเจอเหตุการณ์แปลกๆ เล่าว่าอยู่ดีดีไฟรถก็เปิดขึ้นมาเอง บางทีก็มีคนมายืนโบกรถอยู่หน้าอู่ แท็กซี่จะเข้าไปรับผู้โดยสาร พอจอดรับผู้โดยสารก็หายไป บางครั้งก็มีคนวิ่งตัดหน้ารถแล้วหายไป บางรายเห็นเป็นผู้หญิงผมยาวออกมาโบกรถ บ้างก็ได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วย บางครั้เห็นกลุ่มวัยรุ่นนั่งบนรถตีกลองร้องเพลงกัน
อันดับที่ 8 วัดมหาบุศย์
วัดมหาบุศย์
วัดมหาบุศย์ พระโขนง ที่วัดนับเป็นตำนานตลอดการที่แห่งนี้มีศาลย่านากตั้งอยู่ สืบเนื่องมาจาดตำนานรักแม่นากพระโขนง ที่รู้จักกันแย่างแพร่หลายว่า เมื่อแม่นากอาระวาด จนชาวบ้านอยู่กันอย่างระแวง หลวงพ่อโตวัดระฆังได้มานำวิญญาณแม่นากไปพร้อมกับกระดูกหน้าผากแล้วอบรมสั่งสอนให้รักษาศิล ปฏิบัติธรรม เนื่องจากความเฮี้ยนของย่านาก และวัดติดกับป่าช้า ทำในที่นี่มีเรื่องเล่าความเฮี้ยนหลายเรื่อง เช่น
บริเวณห่อระฆัง เมื่อมีพระมาตีระฆัง จะเจอกับเปรตสูงใหญ่ยืนอยู่ บางคนก็เล่าว่าเมื่อมาขอพระกับแม่นากแล้วไม่แก้บน จะพบกับเรื่องไม่ดีมากมาย
อันดับที่ 9 บ้านร้างในซอบรามคำแหง
บ้านร้างในซอยรามคำแหง
บ้านร้างในซอยรามคำแหง 32 ลึกเข้าไปในซอย จะพบกับบ้านทรงสเปนหลังหนึ่ง รูปทรงสวยงามสง่า น่าอยู่ แต่บ้านนี้ไม่มีใครอยู่อาศัยมานานแล้ว ปล่อยทิ้งร้าง เจ้าของบ้านเป็นชาวต่างชาติ จ้างสาวใช้ไม่ทราบสัญชาติมาทำงานที่บ้าน ต่อมาเจ้าของบ้านต้องเดินทางไปทำงานต่างประเทศ มีสาวใช้เฝ้าบ้านคนเดียว คนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้าปล้นหวังทรัพย์ ชาวใช้โดนรุมทำร้ายตายคาที่ เมื่อเจ้าของบ้านทราบเรื่องก็รีบกลับมาทำเรื่องศพให้เรียบร้อย
แต่สาวใช้ไม่ยอมไปเกิดยังคงอยู่ในบ้านหลังนี้ จนทำให้เจ้าของบ้านอยู่ไม่ได้จนต้องย้ายออกไป คนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง ก็เล่ากันว่า มักจะได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องเสียงดังกันอย่างน่ากลัว บางรายเจอผู้หญิงจ้องมองออกมาจากภายในบ้าน บางครั้งสาวใช้ก็ปรากฏตัวให้เห็น หรือเดินไปมาบริเวณบ้าน บางครั้งก็ยังเดินมาทำงานอยู่หลังบ้านเรื่อยๆ ปัจจุบันบ้านดังกล่าวโดนทุบทิ้งไปแล้ว
อับดับที่ 10 ผับสยองเอกมัย
ผับสยองเอกมัย ซานติก้าผับ
เหตุการณ์สยองส่งท้ายปี 2551 ไฟไหม้ซานติก้าผับ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 60 ศพ และผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เสียงตะโกนไฟไหม้จากวงดนตรีหลังจุดพลุภายในร้าน ในช่วงเที่ยงคืนครึ่งในวันที่ 1 มกราคม พศ. 2552 ซึ่งเป็นเหตุให้ประกายไฟของพลุไปติดบนเพดาน จนเกิดไฟไหม้อย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความแตกตื่นของนักท่องเที่ยว การหนีเอาตัวรอด เสียงกรีดร้อง และโหยหวนขอความช่วยเหลือจากไฟไหม้ ต่างหนีตายกันอย่างชุลมุน ประกอบกับประตูหนีไฟที่ไม่ชัดเจน ทางเข้าออกหนีไฟไม่เพียงพอต่อนักท่องเที่ยว
เรื่องเฮี้ยนๆคือ ปรภ. ขณะเข้ากะดึกได้ยินเสียงเรียก พี่ยามๆ หนูอยูาชั้นสอง พอมองขึ้นไปก็เห็นเป็นผู้หญิงยืนอยู่บริเวณ ชั้นลอย จึงเดินขึ้นไปดูก็ไม่พบอะไร เมื่อไปที่เกิดเหตุอีกวันนึง ก็พบกระดูกข้อมือและชิ้นส่วนกระโหลก และยังเล่าว่ากลางคืนยังมีคนได้ยินเสียงร้องโหยหวน และยังมีเสียงทรมานเจ็บปวด นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับที่ดินอาถรรพ์อีกด้วย
โฆษณา