Blockdit Logo (Mobile)
Dime!
ยืนยันแล้ว
•
20 ก.ค. 2023 เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ซีรีส์หุ้นอเมริกา 100 เด้ง

NVIDIA การ์ดจอขับเคลื่อนโลก AI
104.5 เท่า ภายในระยะเวลา 10 ปี
📈คือมูลค่าเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นมา ถ้าเราลงทุนในหุ้น Nvidia หรือ NVDA
ในวันแรกของเดือนมิถุนายน ปี 2556 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 คิดเป็นการเติบโตถึง 10452 %
ทำให้ Nvidia ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากสุด อันดับ 6 ของโลก ด้วยมูลค่ากว่า 33 ล้านล้านบาท
🎮 Nvidia เป็นบริษัทผู้รับออกแบบชิปประมวลผล โดยเฉพาะ ชิป “GPU” หรือ “การ์ดจอ” ซึ่งช่วยในการประมวลผลกราฟฟิกที่แสดงบนหน้าจอให้ออกมาง่าย สวยงาม และเร็วมากยิ่งขึ้น นิยมใช้มากในอุตสาหกรรมเกม ซึ่ง Nvidia เป็นผู้ออกแบบการ์ดจอรายใหญ่ 1 ใน 2 รายของโลก
แต่อีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วก็คือ การ์ดจอสำหรับ Data Center ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับจัดเก็บข้อมูลในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI
รายได้หลักของ Nvidia ไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ประกอบไปด้วย
- การ์ดจอสำหรับ Data Center 60%
- การ์ดจอสำหรับเกม 32%
- ชิปสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ 4%
- แพลตฟอร์มสำหรับ Metaverse 4%
🦾 การเติบโตของเทคโนโลยี AI นับได้ว่าเป็นเมกะเทรนด์ของโลก ซึ่ง AI จะมีการใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาล ทำให้ต้องมีการจัดเก็บข้อมูลที่มากขึ้นตามไปด้วย สถานที่เก็บข้อมูลจะเรียกว่า ศูนย์ข้อมูล หรือ Data Center ซึ่งจะต้องมีการประมวลผลข้อมูลขั้นสูง โดย Nvidia นับได้ว่าผู้นำเทคโนโลยีการ์ดจอสำหรับ Data Center รายใหญ่ที่สุดของโลก
📈เส้นทางสู่การเติบโต 100 เด้ง
Nvidia เริ่มก่อตั้งกิจการในปี 2536 โดยคุณเจนเซ่น หวง ชาวอเมริกันเชื้อสายไต้หวัน กับผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 คน โดยมีโมเดลธุรกิจเริ่มแรกคือการพัฒนาชิปที่เอาไว้ทำกราฟฟิก 3 มิติสำหรับนักออกแบบ แล้วค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนผลิตการ์ดจอตัวแรกของโลกได้ในปี 2542 ชื่อ GeForce 256 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น NASDAQ ในปีเดียวกัน
เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ Nvidia เติบโตอย่างก้าวกระโดด
1.การเติบโตของอุตสาหกรรมเกม
การ์ดจอของ Nvidia ถูกใช้ในอุตสาหกรรมเกมที่เติบโตมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงวิกฤติโควิดในปี 2563 ที่ทำให้คนส่วนใหญ่อยู่บ้านและเล่นเกมมากขึ้น รวมถึงการเติบโตของคริปโตเคอเรนซี ที่ทำให้มีคนมากว้านซื้อการ์ดจอเพื่อไปทำ “เครื่องขุด” เหรียญคริปโตเป็นจำนวนมาก ดันให้ความต้องการการ์ดจอสูงขึ้นมหาศาล
2. การเติบโตของเทคโนโลยี AI
ด้วยเทคโนโลยีและการทำงานของการ์ดจอ ทำให้ Nvidia สามารถต่อยอดมาใช้ในการทำ Machine Learning และ Deep Learning ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนา AI ให้ใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนา Genarative AI ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะให้มีความสามารถในการ “สร้างใหม่” จากชุดข้อมูลที่มีอยู่ ตัวอย่างเช่น ChatGPT และ Bing AI
📈การเติบโตในช่วง 5 ปีย้อนหลัง (2561 - 2565)
- รายได้ เติบโตเฉลี่ยปีละ 29.7 %
- กำไร เติบโตเฉลี่ยปีละ 34 %
- มูลค่าบริษัท เติบโตเฉลี่ยปีละ 49.6 %
 
โอกาสของการเติบโตหลังจากนี้
🦾 1.เทรนด์เทคโนโลยี AI
ด้วยความสามารถของ Generative AI ทำให้บริษัทในแทบทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก ต่างต้องการพัฒนาประสิทธิภาพของ AI กันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการพัฒนาซอฟต์แวร์ Machine Learning ซึ่ง Nvidia ในฐานะผู้พัฒนาการ์ดจอสำหรับการฝึก AI ทุกประเภท จึงได้ประโยชน์มหาศาลจากเทรนด์นี้
🚙 2.เทรนด์รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ
ปัจจุบันรายได้ของ Nvidia ที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์นี้ มีอยู่เพียง 4% แต่จากการคาดการณ์ของ Grand View Research ตลาดรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ เฉพาะในอเมริกาเหนือ จะมีมูลค่าเติบโตปีละกว่า 50% ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2573 ก็นับเป็นโอกาสเติบโตครั้งใหม่ของ Nvidia ต่อจากเทรนด์ของเทคโนโลยี AI
เมื่อรวมกับอุตสาหกรรมเกมที่เป็นจุดแข็ง และเทรนด์อนาคตอย่าง Metaverse
ก็เรียกได้ว่า Nvidia ได้จับจองแทบทุกเมกะเทรนด์ของโลกอนาคตไว้หมดแล้ว อีกทั้งการมีลูกค้าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เกือบทั้งหมด ก็ล้วนเป็นสาเหตุให้นักลงทุนประเมินมูลค่าของหุ้น Nvidia จนพุ่งสูงอย่างต่อเนื่องในเวลาอันรวดเร็ว
ท่ามกลางสงครามเทคโนโลยี AI ที่ยังไม่แน่ชัดว่าบริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าไหนจะเป็นผู้ชนะ
แต่บริษัทหนึ่งที่ได้รับประโยชน์จากสงครามครั้งนี้ไปแล้วเต็มๆ จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก Nvidia นั่นเอง..
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น โดยไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำด้านการลงทุน บทวิเคราะห์ หรือการเสนอขายแต่อย่างใด
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบ ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
════════════════════
#เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน
════════════════════
Dime! เปลี่ยนเรื่องเงินให้เป็นเรื่องสนุก เพื่อความสุขอย่างเท่าเทียมของทุกคน
 
บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Dime! ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ใบอนุญาตเลขที่ ลก-0007-02
ติดตามเราในช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Facebook - https://www.facebook.com/dimeinvest
Instagram - https://www.instagram.com/dime.finance
Twitter - https://twitter.com/dimefinance
TikTok - https://www.tiktok.com/@dime.finance
LINE - https://lin.ee/4W7j4nG
Blockdit - https://www.blockdit.com/dime.finance
โฆษณา