19 ก.ค. 2023 เวลา 10:46 • การเมือง

รีวิวห้องพักว่า ที่นอนยวบ สปริงล้ม จะผิดพรบ.คอมพิวเตอร์หรือไม่

“ดิฉันทำธุรกิจห้องเช่า มีลูกค้ามาทำการเช่าห้องพัก แล้วไปรีวิวลงในโซเชียล บอกว่า ที่นอนยวบ นอนลงไปแล้วสัมผัสได้ว่าสปริงล้ม แต่เมื่อทางเราได้ตรวจสอบพบว่า ห้องนั้นไม่ได้ใช้ที่นอนสปริง แต่เป็นที่นอนที่พึ่งเปลี่ยนใหม่ จึงไม่มีการยวบหรือยุบตัว” เราสามารถฟ้องคนรีวิวที่นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ได้หรือไม่ ?
ทั้งนี้ คนรีวิวแจ้งว่า ใช้ความรู้สึกส่วนตัวมารีวิว เพราะบอกว่าความชอบของแต่ละคน นอนที่นอนไม่เหมือนกัน
ข้อความดังกล่าว คือ คำร้องที่ประชาชนทั่วไปได้ร้องเข้ามาขอคำปรึกษากับทางคลินิกกฎหมาย ที่จัดทำโดยคณะนิติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยซึ่งผู้เขียนกำลังศึกษาอยู่ และด้วยตัวผู้เขียนนั้นก็เป็นนักศึกษากฎหมายที่ได้ให้ความช่วยเหลือดังกล่าว โดยทำงานร่วมกับพี่ทนายความของทางคณะนิติศาสตร์ในโครงการ“คลินิกกฎหมาย” ซึ่งเป็นโครงการที่ให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่ประชาชนทั่วไป
ทั้งนี้ โดยที่ผู้เขียนเห็นว่า การให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายดังกล่าวนั้นเป็นประโยชน์แก่ประชาชนอื่นๆด้วย จึงนำมาเผยแพร่ให้ทราบเป็นการทั่วไป ดังนี้ครับ
สำหรับการให้คำปรึกษา
1.จากข้อเท็จจริง มีข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือ มาตรา 14 แห่งพรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 อันบัญญัติว่า
ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
(2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(3) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง (1) มิได้กระทำต่อประชาชน แต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ผู้กระทำ ผู้เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้เป็นความผิดอันยอมความได้
โดยการกระทำที่จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ได้นั้นจะต้องเป็นการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยมีเจตนาเพื่อหลอกลวงหรือหรือมีเจตนาทุจริต จึงจะเป็นความผิดตามมาตรา 14 ของพระราชบัญญัติฉบับนี้ เช่น การหลอกขายสินค้าปลอมบนระบบคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้ การที่ลูกค้ารีวิวเข้าใช้บริการห้องพักดังกล่าวนั้น อาจมิใช่กรณีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ทั้งนี้ เพราะ เป็นการรีวิวโดยที่ไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงหรือทุจริต แม้การรีวิวดังกล่าวจะเป็นความเท็จ เพราะ ที่นอนในห้องนอนดังกล่าวไม่ได้เป็นที่นอนสปริงตามที่ลูกค้ารีวิวก็ตาม
2. แต่กระนั้น ในมาตรา 14 นั้นได้ยกเว้นว่าการกระทำที่จะผิดมาตรา 14 ได้จะต้องมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา กล่าวคือ หากเข้าข้อยกเว้นเป็นการหมิ่นประมาท แม้จะได้ทำผ่านระบบคอมพิวเตอร์ก็จะไม่ใช่ความผิดตามพระราชบัญญัติฉบับนี้
จึงต้องพิจารณาความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือไม่ ซึ่ง มาตรา 326 ประมวลกฎหมายอาญา ได้บัญญัติว่า
ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และมาตรา 329 ที่เป็นข้อยกเว้นสำหรับความผิดได้บัญญัติว่า
ผู้ใดแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริต
(3) ติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ
ผู้นั้นไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
ทั้งนี้ สำหรับข้อเท็จจริงดังกล่าว ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นการหมิ่นประมาทหรือไม่ เนื่องจาก การหมิ่นประมาทจะต้องเป็นการใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม ซึ่งการใส่ความจะต้องเป็นการยืนยันข้อเท็จจริง ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นของผู้กล่าว เช่น การบอกว่าอาหารอร่อยหรือไม่อร่อย ย่อมไม่ใช่การหมิ่นประมาท เพราะเป็นการแสดงความคิดเห็น แต่หากกล่าวว่า อาหารไม่สะอาด เป็นการยืนยันข้อเท็จจริง อาจเป็นการใส่ความได้
ฉะนั้น กรณีดังกล่าวที่ลูกค้าได้แสดงความคิดเห็นจากการใช้บริการนั้นจึงยังไม่ชัดว่าจะเป็นการหมิ่นประมาทหรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับช้อเท็จจริงและการวินิจฉันของศาลหากมีการฟ้องคดีเกิดขึ้น
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า แม้การแสดงความคิดเห็นจะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญก็ตาม แต่การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวนั้นก็ควรที่จะอยู่บนพื้นฐานของความสุริต ทั้งนี้ เพื่อมิให้เป็นการรบกวนสิทธิของผู้อื่นนั่นเองครับ
โฆษณา