25 ศาสดา(นบี)ในศาสนาอิสลาม องค์ที่5
ถ้าพระเจ้ามีจริงต้องทำตามเราสั่งได้
ในปาฏิหาริย์ ที่เรียกร้อง
5 ศาสดาซอและห์
เป็นศาสดาในเชื่อสายอาหรับ ที่รับช่วง
ต่อจาก นบี(ศาสดาหรือศาสนทูต)ฮูด (ขอสันติจงมีแด่ท่าน)
ที่ยังคงมีเผ่าพันธ์ุอาหรับที่ร่างกายใหญ่โต
ที่ต่อจากเผ่าอาด ที่มีเชื้อสายกันอีกครั้ง
และในความได้เรียบของรูปร่างและสุขภาพ
อันแข็งแรง พวกเขาก็กลับไปสู่การ
รุกรานและทำร้ายผู้คนรอบข้างและที่ผ่านไปมา
ศาสดาท่านนี้ไม่มีเอ่ยในไบเบิ้ลเดิมของยิวและคริสต์
แต่พระเจ้านำชื่อท่านมาเอ่ย ในอัลกุรอานเพื่อยืนยัน
และเป็นผู้ที่เชื่อมประวัติศาสตร์ ก่อนเข้ายุคอารยธรรมสากล
พวกเขาเปลี่ยนจากการกางกระโจมในทะเลทราย
มาเป็นขุดหน้าผาภูเขาทำเป็นบ้านอันมั่นคง
และไม่คิดว่าใครจะทำร้ายพวกเขาได้
ต่อการอธรรมต่อผู้คน ที่พวกเขาได้สร้างไว้
พระเจ้าได้ส่ง นบีซอและห์ มาชี้ทางนำที่ถูกต้อง
พวกเขาเห็นว่า นบีซอและห์ เป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้
มีอะไรดีไปกว่าพวกเขา ข้อถกเถียงมาถึงบทสรุปว่า
ถ้าพระเจ้ามีจริงและจะให้เราเชื่อและทำตามคำสอนนั้น
ก็ต้องแสดง ปาฏิหารย์ให้เราเห็นกันทุกคน
“ให้พระเจ้าที่ท่านว่านั้น ส่งอูฐ ตัวเมียให้ออกมา
จากหน้าผานี้ ในสภาพที่ท้องและมาออกลูกตรงหน้า
นี้ให้เราเห็น เราจะเชื่อเลย ง่ายๆแค่นี้”
ท่านนบีซอและห์จึงขอต่อพระเจ้าให้ประทาน
ในสิ่งที่คนเหล่านี้ร้องขอ เพื่อให้ศาสนาของพระเจ้า
คงอยู่ในหมู่ชนเหล่านี้สืบไป มิให้สูญหาย
แล้วพระเจ้าก็ประทานให้มีอูฐยักษ์ ตัวเมียออกมาจาก
หน้าผาและมาออกลูกให้พวกเขาเห็นกันทุกคน
และมีกฎว่า บ่อน้ำในเมืองที่เป็นศูนย์กลางนั้น
ให้พลัดกันกินน้ำคนละวัน ระหว่างอูฐยักษ์และลูกวันนึง
และชาวเมืองก็วันนึง สลับกัน
ในวันที่อูฐกินน้ำชาวเมืองก็มาเอานมอูฐ
ไปกินได้ด้วยแต่ห้ามตักน้ำในบ่อมากินใช้ส่วนตัว
ในวัน ที่เป็นสิทธิของอูฐ
มีบางกลุ่มที่เชื่อในพระเจ้า แต่บรรดาหัวโจก
และลิ่วล้อ ต่างไม่ยอมศรัทธาตามที่เรียกร้องไป
เห็นแต่ว่าอูฐสร้างความเดือดร้อนที่มาแย่งน้ำ
ในที่สุดพวกเขาก็ ตัดขาตัดหางแม่อูฐ และฆ่ามัน
อย่างทรมานเพื่อเย้ยหยัน และแสดงให้ชาวเมืองได้เห็นว่า
พระเจ้าที่นบี ซอและห์ บอกและชี้ทางนำให้นั้น
ไม่ได้มีอำนาจอะไรจริงหรอก
เมื่อถึงเวลากำหนดพระเจ้าได้ให้นบีซอและห์
อพยพผู้คนออกจากที่อาศัยไปหาที่อยู่แห่งใหม่
และเกิดพายุ และเสียงที่รุนแรง ฆ่าผู้คนในเมืองนี้
ทั้งหมด และถือว่าเป็นอาหรับโบราณ สองเผ่า
ที่ได้สาปสูญไปนับแต่นั้นมา คือ อาด และษะมูด
และศาสนาของพระเจ้าองค์เดียวผู้สร้าง
ทุกสรรพสิ่งและมนุษย์คนแรก ก็เงียบหายไป
ในทะเลทรายแห่งอาราเบียจรดซีเรีย
ไม่มีข่าวคราวแห่งศาสดาหรือศาสนาแห่งพระเจ้าอีกเลย
แม้แต่ผู้คนที่เคยศรัทธา ก็หายไปจากความทรงจำของผู้คน
เหลือแต่เพียงตำนาน ที่ไม่ได้มีหลักฐานใดๆ
หรือศาสดาคนใดมารื้อฟื้นต่ออีก
ในขณะที่ผู้คนมากมายขึ้น มีความรู้มากขึ้น
ในอีกหลายร้อยปีหรือพันปี ต่อมาโลกก็ได้
ค่อยเข้าสู่ยุคที่เรียกว่า ยุคแห่งอารยธรรม
ตามหลักสากล
ในเวลานั้นศาสนาของพระเจ้า ไม่ได้มีความ
กระจ่างชัดใดๆอีกในความทรงจำของผู้คน
ที่สื่อการอ่านและเขียนไปยันวัสดุที่จะใช้
เขียน ก็ยังบากลำบาก กลายเป็นเพียง
ตำนาน ที่เล่าขานกันไปตามแต่ใคร
จะจำได้หรือต่อเติม หรือเป็นที่ยอมรับจดจำ
ไปเล่าต่อๆกันไป
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
