ย้อนวันเวลา ที่คน Gen X Y Z หาไม่เจอ บ้านก๋งยี่ บ้านโบราณ สไตล์สยามวิคตอเรียน

สปอยมาจากโพสต์ "กินเที่ยวเลี้ยวเข้ามหา'ลัย" ว่าจะพามาเที่ยวบ้านโบราณในจังหวัดนครนายก ที่แม่เหน่งมาพักอาศัยอยู่นานเนา ๒๐ กว่าปี แต่ไม่เคยมาเยี่ยมเยือนเลยสักครั้ง
ก๋งยี่ บ้านโบราณ ที่แม่เหน่งแอบเอาภาพมาสปอยไว้ในโพสต์ "กินเที่ยวเลี้ยวเข้ามหา'ลัย" 👇
ก็พอดีเมื่อวานแม่เหน่งลากิจครึ่งวันบ่าย เพื่อไปทำธุระเรื่องที่ดิน ณ ที่ดินจังหวัด เสร็จธุระแล้ว แม่เหน่งก็ให้คุณสามีขับรถพาไปหา ก๋งยี่ บ้านโบราณ
ความที่ไม่เคยไป คุณสามีก็เลยต้องเข้าแผนที่ google เท่านั้นแหละ คุณสามีก็ตบเข่าดังฉาดใหญ่ อยู่ใกล้ประปาท่าทรายนี่เอง "พ่อเคยไปจดหน่วย"
คุณสามีท่านทำงานแผนกมิเตอร์การไฟฟ้าภูมิภาคค่ะ สิ้นเดือนก็ไปจดหน่วยมิเตอร์ไฟฟ้า เพื่อแปลงเป็นเงินตรา เรียกเก็บค่าไฟนั่นแหละค่ะ
"เดี๋ยว พ่อพาไปทางลัด ไม่ต้องอ้อมไกล" คุณสามีบอก "ทางลัดแน่นะพ่อ อย่าเป็นทางหลงนา ร้านเขาปิดห้าโมงเย็น"
เส้นทางที่คุณสามีพาไป ข้างทางมีดอกบัวขึ้นตามธรรมชาติ ถูกใจคนชอบดอกบัวอย่างแม่เหน่งยิ่งนัก
แวะถ่ายไปเรื่อยตามประสาคนชอบบัว
ประมาณ ๒๐ นาที เราก็ถึงที่หมาย แม้จะต้องงวยงงกับทางเลี้ยวซอกซอยต่างๆบ้าง
ป้ายทางเข้า
แม่เหน่งตรงไปที่คาเฟ่ของบ้านก๋งยี่ก่อน เพื่อซื้อบัตรเข้าชมภายในบ้าน สนนราคาหัวละ 50 บาท เด็กไม่เก็บค่าเข้าชม
ภายใน คาเฟ่บ้านก๋งยี่
พี่อาคม ทายาทคนปัจจุบันของก๋งยี่ และเป็นไกด์พาชมบ้าน
พี่อาคมพาเราเดินไปตามทางที่มีดอกลีลาวดีร่วงโรยเต็มสนามหญ้า
ลีลาวดีนำทางสู่ ก๋งยี่
มองบ้านผ่านน้ำพุ
บ้านก๋งยี่ คู้หยง
๕ ๕ ๕...การเขียนโพสต์ครั้งนี้ เนื้อหาอาจไม่มาก แม่เหน่งขอให้ภาพเล่าเรื่องราว บ้านก๋งยี่ บ้านโบราณที่มีอายุเกือบ ๑๐๐ ปี นะคะ พี่อาคม บอกว่าปีนี้บ้านมีอายุ ๙๒ ปีแล้ว
ตอนที่เราเข้าชมภายในตัวบ้าน มีแค่แม่เหน่งกับคุณสามีเท่านั้น พี่อาคมบอกว่าวันเสาร์ อาทิตย์ ถึงจะมีคนเข้าชมเยอะ
ก่อนจะยิงภาพรัวๆ ที่ถ่ายด้วยฝีมือช่างภาพโนเนมอย่างแม่เหน่ง ขอเล่าประวัติของบ้านโบราณนี้สักนิดนะคะ
บ้านก๋งยี่ เป็นเรือนไม้โบราณ ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออกกับตะวันตก กลายเป็นบ้านแบบสยามวิคตอเรียน สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๗ ปี พ.ศ.๒๔๗๔
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนครนายก บ้านมีการฉลุลายขนมปังขิงอย่างสวยงาม ตัวบ้านที่ได้รับการบูรณะโดยทายาทรุ่นปัจจุบันแล้วทางสีเขียวมะกอก เจ้าของบ้านผู้สร้าง คือ นายยี่ คู้หย่ง
นายยี่ คู้หย่ง เป็นคาทอลิกชาวจีน ย้ายจาก อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี มาทำมาหากินในจังหวัดนครนายก ได้พบรักกับ นางติ้ม ทรงสัตย์ ทั้งสองช่วยกันทำมาหากินโดยการหาบขนมถ้วยขาย ประกอบกับการค้าขายหนังสัตว์ เมื่อมีฐานะมั่นคงจึงสร้างบ้านขึ้น
ภาพวาดบอกเล่าเรื่องราว นางติ้ม ผู้ภรรยานึ่งขนมถ้วย นายยี่ เป็นผู้หาบขนมไปขาย
ภาพวาดวิถีชีวิตของผู้คนชุมชน ริมน้ำ
พี่อาคมพาเราเข้าสู่ตัวบ้าน คุณสามีกลายเป็นมัคคุเทศก์เสียเอง "แม่ๆ นี่งัยโอ่งกังไส พอเคยเห็นที่บ้านอยุธยา"
โอ่งกังไส สีเขียวราวหยก เนื้อดี
ถ้วยโถโอชามโบราณ ที่พี่อาคมบอกว่าบางชิ้นก็มีมาแต่ยุคคุณทวด บางชิ้นก็มาสะสมเพิ่มเติม
ภาพข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อน อีกสักช็อตนะคะ
แล้วโปรดตามผู้ช่วยมัคคุเทศก์มาคะ...อิอิ...สามีแม่เหน่งเอง
คุณสามีชวนเข้าไปดูในครัว
ครัวบ้านก๋งยี่
พี่อาคมพาเราขึ้นไปชมบ้านชั้นบน โห! บันไดขึ้นชั้นบนชันมากเลยค่ะ ไม่รู้พื้นบันไดแคบ หรือเท้าแม่เหน่งใหญ่
ก่อนขึ้นไปชมชั้นบน แม่เหน่งสะดุดตากับของเล่นโบราณที่ตั้งอยู่ทางขึ้นไปชั้นบน
พี่อาคม ลองกดกลไกของเล่น ว่าสามารถเล่นได้จริงๆ
๒ เครื่องสี่เหลี่ยมตั้งคู่กันเป็นคอมพิวเตอร์ยุคแรกๆ
เดินขึ้นไป อันดับแรกจะเห็นรูปบรรพบุรุษของพี่อาคม แขวนอยู่บนฝาผนัง เรียงตั้งแต่นายยี่ คู้หยง มาถึงรุ่นคุณป้าๆของพี่อาคม
รูปบรรพบุรุษแขวนอยู่เหนือขึ้นไปที่แม่เหน่งถ่ายแค่เห็นริมๆกรอบรูป เพราะมัวสนใจกับชามตราไก่ในตู้
ชั้นบนนี้แม่เหน่งยอมตนเป็นนางแบบให้คุณสามีถ่ายรูป สงกะสัยว่า คุณสามีคงจะเห็นว่านางแบบไม่ค่อยสวย เลยซ่อน แม่เหน่งในเงามืดตลอด
นางแบบในเงามืด รูปที่ ๑
นางแบบในเงามืด รูปที่ ๒ กำลังเล่นเปียโน
นางแบบในเงามืด รูปที่ ๓ กำลังนั่งพิมพ์ดีด ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดโบราณฉบับกระเป๋า
นางแบบในเงามืด รูปที่ ๔ เริ่มมีแสงสว่างมารำไร
ข้างบนมีภาพวาดรูปบ้านก๋งยี่ ก่อนบูรณะ กับหลังบูรณะแล้ว วาดโดยจิตรกร ชื่ออะไร แม่เหน่งต้องขออภัยพี่อาคมไว้ ณ ที่นี้ ที่จำไม่ได้จริงๆ
ด้านบนภาพวาดบ้านก๋งยี่ก่อนบูรณะ ด้านล่างหลังบูรณะ
ภาพถ่ายที่ถ่ายภาพวาดอาจไม่ค่อยชัดนะคะ เพราะมีแสงแดดสาดส่องเข้ามา ทำให้เกิดเงาสะท้อน พี่อาคมบอกว่า เดี๋ยวตอนออกไปหน้าบ้านจะให้ดูภาพถ่ายจริงๆที่จิตรกรเอามาเป็นแบบวาดภาพ
มุมต่างๆของชั้นบน
ในรูปด้านบน ☝️ ล่างสุด เห็นม่านสีขาวไหวๆ คือ ห้องนอนขนาดกะทัดรัดอยู่ชั้นบนกั้นเป็นสัดส่วน
แม่เหน่งกดมือถือบันทึกภาพไว้ทั้งในแกลลอรี่ของแม่เหน่งและในความทรงจำของแม่เหน่ง
ถ้ามีกระจกอย่างในทวิภพอยากย้อนเวลากลับไปหายุคสมัย ร.๕ - ร.๗ จังเลยค่ะ เฮ้อ ! แต่ที่ทำได้ คือ สัมผัสกลิ่นอายจางๆ เท่านั้นเอง...อย่าหัวเราะคนช่างฝันอย่างแม่เหน่งเลยนะคะ
ภาพถ่ายจริง ก๋งยี่ ก่อนบูรณะ และหลังบูรณะ
ภาพถ่าย vs ภาพวาด
มาเที่ยวกับแม่เหน่งต้องไม่พลาดการหาของรับประทาน ชมบ้านเสร็จแล้ว แม่เหน่งก็มาอุดหนุนเครื่องดื่มกับอาหารว่างพี่อาคมกับภรรยา ค่ะ
คาเฟ่ หรือภัตตาคารก๋งยี่ ที่สร้างขึ้นใหม่
แม่เหน่งสั่งมะยงชิดปั่น น้ำอ้อยมะกรูด ก๋งยี่สี่สหาย บัวลอยญวน ระหว่างรออาหารว่าง แม่เหน่งก็พาเจ้ามือถือโน๊ต ๘ เก็บภาพรอบๆ
นางแบบในเงามืด รูปที่ ๕ เจอแสงสว่างแล้วค่ะ
กระท่อมน้อยคอยรัก
เรือนหลังใหญ่ของญาติๆพี่อาคมที่สร้างกลมกลืนไปกับบ้านหลังเก่าอย่าง ก๋งยี่
มาแล้วค่ะ เมนูอาหารว่างที่แม่เหน่งสั่ง แล้วมานั่งรับประทานที่ศาลาริมแม่น้ำนครนายก ที่ตอนนี้น้ำแห้งขอด แฮ่ๆๆ แต่ยังงัยก็มีลมโชยพัดมาให้เย็นอุราอยู่ค่ะ
ศาลาริมน้ำที่มานั่งรับประทานอาหาร
เมนูที่สั่ง 🌼 มะยงชิดปั่น 🌸 ก๋งยี่สี่สหาย 🏵 น้ำอ้อยมะกรูด 🌺 ขนมบัวลอยญวน
ภ้ตตาคารก๋งยี่ ยังมีอาหารและเครื่องดื่มอีกหลากหลายเมนู นะคะ แต่ที่เป็น signature ของที่นี่คือ ขนมถ้วย ซึ่งวันธรรมดา อย่างวันศุกร์ ที่แม่เหน่งไป จะไม่ได้ทำ
คุณพี่ผู้หญิง ภรรยาของพี่อาคมบอกว่าขนมถ้วย ต้องใช้เวลากว่าจะทำแต่ละชั้นต้องค่อยๆหยอดและใช้ไฟกำลังดี ก็เลยมีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะคนในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า จะมาช่วยกันทำ เรียกว่าเป็น ธุรกิจครอบครัว ได้เลยนะคะ
Signature อีกเมนู คือ ชาก๋งยี่ คุณพี่ผู้หญิงบอกว่า ชานี้จะเติมสมุนไพรลงไป ว่าแล้วคุยกันถูกคอพี่สาว ก็เลยไปยกชาก๋งยี่มาให้ชิม
ชาก๋งยี่ใส่สมุนไพร ชุ่มคอชื่นใจ
ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา ถึงเวลาต้องบอกลาบ้านก๋งยี่ เสียที
ถ่ายไปเรื่อย แมงกะไซค์ฮาเลย์ ตั้งเค้เก้อยู่หน้าร้านกาแฟโบราณ
ไปละนะเจ้าไก่แจ้ แห่งบ้านก๋งยี่
ก๋งยี่ โมเม้นท์ดีๆที่ควรค่าเก็บไว้ในแกลลอรี่และความทรงจำ
🌺 บางอย่างทรงคุณค่าแต่คว้าไม่ถึง
แค่คำนึงแลตามหาว่าอยู่ไหน 🍂
อดีตที่โหยหาว่าอยู่หนใด
จะใกล้ไกลขอไปสักคราเอย...🥀
โฆษณา