1 ก.ย. 2023 เวลา 00:00 • หนังสือ

ไม่ชอบเข้าสังคมเป็นไรไหม?

สมัยหนุ่ม ๆ ผมเคยได้ยินผู้ใหญ่สอนว่า เราต้องเรียนรู้วิธีเข้าสังคม “หัดดื่มเหล้าบ้างนะ จะได้เข้าสังคมเป็น”
‘เข้าสังคม’ หมายถึงการมีเพื่อน มีกลุ่ม ไม่ถูกทิ้งโดดเดี่ยวเดียวดาย ไม่มีใครคบหาด้วย
ผมเรียนรู้เมื่อเรียนจบและเริ่มทำงานว่า นอกจากเหล้าแล้ว ยังมีเครื่องมืออีกหลายชิ้นที่ช่วยเรื่องการเข้าสังคม เช่น งานอดิเรก ความรู้รอบตัว ไปจนถึงการตีกอล์ฟ
กิจกรรมเช่นการตีกอล์ฟมักใช้เป็นเครื่องมือเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกค้ามากกว่าการเข้าสังคมในบริบท ‘ไม่ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว’
เคยไหมที่คุณไปงานเลี้ยง ผู้คนมากมาย แต่รู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดาย? บางทีเกิดขึ้นเพราะคุณต่อต้านการเข้าสังคมตั้งแต่ก่อนไป อาจเพราะการไปร่วมงานเป็นภาคบังคับ บ้างมีเพื่อนหรือญาติเชิญไป ไม่ไปก็เหมือนไม่ให้เกียรติเขา แต่ไปก็ไม่มีความสุข
คนพันธุ์นี้เรียกว่า introvert (คนเก็บตัว)
2
คือพวกที่ชอบทำอะไรคนเดียว ไม่ชอบเข้าสังคม มีความสุขคนเดียว คิดมาก คบเพื่อนยาก ถ้าคบก็ต้องเข้าใจกันจริง ๆ ฯลฯ
อาการ introvert ไม่ใช่ปัญหาความผิดปกติของบุคลิกแต่อย่างใด เป็นคนปกตินี่แหละ เพียงแต่ไม่ชอบออกไปเจอคนมาก ๆ
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม แต่ก็เป็นสัตว์โลกที่ต้องการความสงัดเช่นกัน เพียงแต่คนบางคนมีสัดส่วนของความสงัดสูงหน่อย
introvert จำนวนมากสบายใจกว่าเมื่ออยู่กับแมว หมา หรือต้นไม้
1
ผมเป็นชาว introvert มาตั้งแต่เกิด เคยตั้งคำถามว่า จำเป็นแค่ไหนที่เราต้องเข้าสังคม? เราอยู่ในโลกโดยไม่มีเพื่อนได้ไหม?
1
บ้างมองว่าเกิดเป็นคนก็ต้องเข้าสังคม ในเมื่อมนุษย์เป็นสัตว์สังคม บ้างว่าการเข้าสังคมคือการได้งาน แต่บ้างก็ว่าไม่จำเป็น อยู่คนเดียวก็ได้
เป็นคำถามที่ผมขบคิดมานานปี ในที่สุดก็พบว่า บางทีไม่ว่าจะเข้าหรือไม่เข้าสังคม ก็อาจสุดโต่งทั้งคู่
ลองมองอีกมุมหนึ่ง การอยู่คนเดียวไม่ได้แปลว่าจะอยู่คนเดียวได้จริง ๆ เราอาจเก็บตัวคนเดียวในป่า เป็นมนุษย์คนเดียว ณ ที่นั้น แต่อาจไม่ได้อยู่คนเดียว ยังมีพืช สัตว์ ซึ่งก็เป็นชีวิตที่มีปฏิสัมพันธ์กับเรา ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
ดังนั้นการไปอยู่ป่าคนเดียวอาจไม่ใช่อยู่คนเดียวจริง ๆ เรายังอยู่กับพืชและสัตว์ ยังเห็นนกบินผ่าน ได้ยินเสียงนก เสียงแมลง อาจถือว่าเป็นการเข้าสังคมอย่างหนึ่ง เป็นสังคมที่กว้างกว่าสังคมในกรอบคิดของมนุษย์
ดังนั้นวลี ‘การเข้าสังคม’ ซึ่งมีนัยของคนกับคน แต่อาจไม่ครอบคลุมครบถ้วน เพราะโลกนี้มิได้มีแต่ชาวมนุษย์ ยังมีพืชมีสัตว์ เราเป็นเพียงส่วนหนึ่งของวงจรชีวิต
1
ดังนั้นเวลาบอกว่าเก็บตัว มันอาจคือเก็บใจ! นี่แปลว่าการอยู่คนเดียวคือสภาวะทางใจมากกว่าทางกาย
และเมื่อเป็นเรื่องทางใจ ก็ต้องอาศัยการละวางการยึดติด เพื่อให้เป็นอิสระ
เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงหลักไมล์ท้าย ๆ ของชีวิต ผมปล่อยวางลงไปมากกว่าเก่าแล้ว ไม่ถามแล้วว่า จำเป็นแค่ไหนที่เราต้องเข้าสังคม
อิสรภาพที่แท้จริงของชีวิตน่าจะอยู่ที่ “เข้าสังคมก็ได้ ไม่เข้าสังคมก็ได้” และไม่ให้มันกระทบต่อชีวิตจนทำให้เราไร้สุข
อยากเข้าสังคมก็เข้า ไม่อยากเข้าสังคมก็ไม่ต้องเข้า
2
อย่างไรก็ตาม ชีวิตคือการรักษาสมดุลขององค์ประกอบต่าง ๆ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ และปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวเรากับตัวเรา
บางทีเมื่อไม่ยึดมั่นถือมั่นว่า เรื่องหนึ่ง ๆ เป็นการเข้าสังคมหรือไม่เข้าสังคม เราก็เป็นอิสระ
ในโลกนี้มีชีวิตราว 8.7 ล้านสายพันธุ์ ไม่มีทางอยู่คนเดียวจริง ๆ โดยไม่พบชีวิตอื่น ต้องสวนทางกันบ้าง
ในเมื่อคนในโลกนี้มีถึงเจ็ดพันล้านคน ย่อมต้องเดินชนกัน มีปฏิสัมพันธ์กัน แต่แทนที่จะหนี เราสามารถมองสังคมภายนอกเป็นแค่การไหลของสายน้ำ เราไม่จำเป็นต้องทวนน้ำเสมอไป เราสามารถกลมกลืนกับสังคมมนุษย์ ทั้งที่เรารู้จักและไม่รู้จัก สามารถยิ้มให้คนแปลกหน้า คุยกับคนแปลกหน้าได้เสมอ ไม่มีกฎว่าห้ามคุยกับคนที่เราไม่รู้จัก หรือยิ้มให้คนไม่รู้จักไม่ได้
เจอต้นไม้ริมทางที่ไหน ก็สามารถทักทายสวัสดีกับมัน เพราะมันก็คือเพื่อนร่วมโลก
และนี่ก็คืออิสรภาพ
จากหนังสือ ตัวสุขอยู่ในหัวใจ ตอนนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษ สั่งได้ที่เว็บ winbookclub.com หรือ Shopee (ค้นคำ namol113
#ให้การอ่านหนังสือกลับคืนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
โฆษณา