27 ก.ค. 2023 เวลา 15:27 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

เครื่องสร้างภาพเอไอ

เครื่องสร้างภาพเอไอ (AI image generators) เป็นตัวแทนของเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่จุดบรรจบกันของปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) และการมองเห็นของคอมพิวเตอร์ (computer vision) โดยอัลกอริธึมขั้นสูง (advanced algorithms) เหล่านี้ ซึ่งขับเคลื่อนโดยการเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) และแบบจำลองเชิงสร้างสรรค์ (generative models) ที่มีความสามารถโดดเด่นในการสร้างภาพที่เหมือนจริง (lifelike images) และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
ด้วยการใช้ประโยชน์จากชุดข้อมูลจำนวนมหาศาล และการเรียนรู้จากรูปแบบในเนื้อหาภาพที่มีอยู่ เครื่องสร้างภาพเอไอ จึงสามารถสร้างงานศิลปะ ปรับปรุงภาพถ่าย และแม้แต่จำลองสไตล์ของศิลปะ (artistic styles) ได้โดยอัตโนมัติ
บทนำ
(Introduction)
เครื่องสร้างภาพเอไอ ใช้เครือข่ายประสาทเทียม (artificial neural networks) ที่ได้รับการฝึกฝนเพื่อสร้างภาพตั้งแต่แรกเริ่ม เครื่องมือเหล่านี้มีความสามารถในการสร้างภาพต้นฉบับที่เหมือนจริง โดยอิงจากการป้อนข้อความในภาษาธรรมชาติ (natural language) สิ่งที่ทำให้พวกเขาโดดเด่นเป็นพิเศษ ก็คือ ความสามารถในการหลอมรวม (fuse) สไตล์ (styles) แนวคิด (concepts) และลักษณะ (attributes) ต่างๆ เพื่อสร้างภาพทางศิลปะในบริบทที่เกี่ยวข้อง (contextually relevant)
เครื่องสร้างภาพเอไอ ได้รับการฝึกฝน (trained) จากข้อมูลปริมาณมาก (extensive amount of data) ซึ่งประกอบด้วยชุดข้อมูลขนาดใหญ่ของภาพ อัลกอริทึมจะเรียนรู้รูปแบบและลักษณะต่างๆ ของรูปภาพในชุดข้อมูลผ่านขั้นตอนการฝึกฝน เป็นผลให้สามารถสร้างภาพใหม่ที่มีรูปแบบ (style) และเนื้อหา (content) คล้ายคลึงกับภาพที่พบในข้อมูลการฝึกฝน
AI Image Generator
แนวคิดของตัวสร้างภาพเอไอ ได้ขยายขอบเขตแบบจำลองเชิงสร้างสรรค์ให้กว้างขึ้น มีเป้าหมายเพื่อสร้างข้อมูลใหม่ ที่คล้ายกับชุดข้อมูลที่มีอยู่ ภายในกรอบงาน (framework) นี้ ตัวสร้างภาพเอไอได้กลายเป็นแอปพลิเคชันที่โดดเด่น และได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีศักยภาพในด้านต่างๆ รวมถึงศิลปะ การออกแบบ ความบันเทิง และอื่นๆ
กลไกที่อยู่เบื้องหลัง
(The mechanism behind)
หลักการสำคัญที่อยู่เบื้องหลังตัวสร้างภาพเอไอ เกี่ยวข้องกับการใช้โครงข่ายประสาทเทียม (neural networks) โดยเฉพาะ Generative Adversarial Networks (GANs) และ Variational Autoencoders (VAEs) เริ่มจาก GANs ซึ่งประกอบด้วยโครงข่ายประสาทเทียม 2 เครือข่าย คือ เครื่องสร้าง (generator) และเครื่องจำแนก (discriminator) ซึ่งทั้งสองเครือข่าย จะทำการแข่งขันกันเองในกระบวนการฝึกฝน (training process)
โดยเครื่องสร้างจะมีเป้าหมายเพื่อสร้างภาพที่เหมือนจริงเพื่อหลอกเครื่องจำแนก ในขณะที่เครื่องจำแนกจะพยายามแยกแยะความแตกต่าง ระหว่างภาพจริงและภาพที่สร้างขึ้นอย่างแม่นยำ ด้วยการฝึกฝนฝ่ายตรงข้ามนี้ เครื่องสร้างจะสามารถปรับปรุงความสามารถของตนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างภาพที่น่าเชื่อถือ (convincing) และเชื่อมโยงกัน (coherent)
รูปที่ 1 แสดงการทำงานของ GANs
ในทางกลับกัน VAEs จะใช้กระบวนการเข้ารหัส (encoding) และถอดรหัส (decoding) เพิ่อที่จะตรวจสอบความคล้ายคลึงกันภายในภาพ โดยผ่านการเข้ารหัสให้เกิดพื้นที่แฝง (latent space) จากนั้นจึงถอดรหัสกลับเป็นรูปแบบภาพต้นฉบับ VAEs ช่วยให้สามารถสำรวจส่วนที่คล้ายคลึงกันภายในภาพได้อย่างราบรื่น ซึ่งช่วยให้สามารถจัดการรูปภาพที่สร้างขึ้น ผ่านการปรับคุณลักษณะเฉพาะ โดยไม่ต้องมีการฝึกฝนใหม่ จึงทำให้สามารถสร้างภาพที่หลากหลายและมีส่วนเชื่อมโยงถึงกันได้
รูปที่ 2 แสดงการทำงานของ VAEs
เครื่องสร้างภาพเอไอ AI ได้รับการนำไปใช้งานอย่างกว้างขวางในด้านศิลปะและการออกแบบ ช่วยให้ศิลปินและนักออกแบบสามารถทดลองสไตล์ต่างๆ สร้างผลงานศิลปะแปลกใหม่ และสำรวจพรมแดนการสร้างสรรค์ที่ยังไม่มีใครเคยทำ นอกจากนี้ อัลกอริทึมเหล่านี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกในกระบวนการแก้ไขและกู้คืนรูปภาพ ช่วยให้งานต่างๆ เช่น การเพิ่มสเกลภาพ (image upscaling) การลดสัญญาณรบกวน (noise reduction) และการปรับสี (colorization) ด้วยความแม่นยำและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น
ขอบเขตความสามารถ
(Scope of capabilities)
เครื่องสร้างภาพเอไอ ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของการเรียนรู้จักรกล (machine learning) โดยเฉพาะการเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) ผ่านเครือข่ายประสาท (neural networks) ซึ่งเป็นแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ (mathematical models) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการเชื่อมต่อระบบประสาทของสมองมนุษย์ เครือข่ายประสาทที่มีบทบาทสำคัญในอัลกอริทึมเหล่านี้คือ Convolutional Neural Networks (CNNs)
ซึ่งจะปรากฏอยู่ทั่วไปภายในการทำงานของเครื่องสร้างภาพเอไอ โดยเฉพาะในงานสร้างภาพ จากความสามารถในการเรียนรู้และแสดงรูปแบบภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจากองค์ประกอบเหล่านี้ จึงทำให้เครื่องสร้างภาพเอไอ มีคุณสมบัติในการสร้างงานศิลป์อันหลากหลาย กล่าวคือ
1.การถ่ายโอนสไตล์ (Style Transfer) เครื่องสร้างภาพเอไอ สามารถถ่ายโอนสไตล์ของภาพหนึ่งไปยังอีกภาพหนึ่ง ทำให้เกิดภาพใหม่ที่คงเนื้อหาของภาพต้นฉบับไว้ ในขณะที่นำสไตล์ของภาพอื่นมาใช้ เทคนิคนี้ทำได้โดยการรวมเนื้อหาและการแสดงรูปแบบที่เรียนรู้โดยโครงข่ายประสาทเทียม
2.การแปลภาพต่อภาพ: (Image-to-Image Translation) การแปลรูปภาพเป็นรูปภาพ ถือเป็นแอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพของเครื่องสร้างภาพเอไอ โดยสามารถแปลงรูปภาพจากโดเมน (domain) หนึ่งไปยังอีกโดเมนหนึ่งได้ ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนภาพสเก็ตช์ ไปเป็นภาพเหมือนจริง หรือเปลี่ยนภาพถ่ายขาวดำเป็นภาพสี
Scope of capabilities
3.การปรับรายละเอียดและขนาดภาพ (Super-Resolution and Upscaling) เครื่องสร้างภาพเอไอ สามารถเพิ่มความละเอียดและคุณภาพของภาพได้ด้วยการปรับขนาดภาพใหม่ กระบวนการนี้ใช้โมเดลการเรียนรู้เชิงลึกเพื่อสร้างรูปภาพความละเอียดสูงจากภาพที่มีความละเอียดต่ำกว่า
4.การเติมภาพและการลงสี (Image Completion and Inpainting) ความสามารถอีกอย่างของเครื่องสร้างภาพเอไอ คือ การเติมส่วนที่ขาดหายไปของภาพ หรือลบวัตถุ รวมไปถึงข้อบกพร่อง (imperfections.) ที่ไม่ต้องการออก โมเดลเหล่านี้สามารถเติมเต็มภาพตามบริบทโดยรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนำไปสู่ผลงานการวาดภาพที่น่าประทับใจ
การร่วมประสานมนุษย์กับเอไอ
(Human-AI Collaboration)
เพื่อให้การใช้งานเครื่องสร้างภาพเอไอ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงต้องมาพูดถึงเรื่องของ การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับเอไอ (Human-AI Collaboration) ในบริบทของเครื่องสร้างภาพเอไอ จะหมายถึง กระบวนการร่วมมือ และโต้ตอบระหว่างศิลปิน หรือนักออกแบบที่เป็นมนุษย์ กับอัลกอริทึมของเอไอ เพื่อสร้างเนื้อหาภาพ
โดยเครื่องสร้างภาพเอไอ จะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเสริม และปรับปรุงกระบวนการสร้างสรรค์ แต่มิได้แทนที่ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ โดยการนำเสนอความเป็นไปได้ใหม่ๆ ข้อมูลเชิงลึก และประสิทธิภาพ ต่อไปนี้คือรายละเอียดที่สำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับเอไอ ในขอบเขตของเครื่องสร้างภาพเอไอ กล่าวคือ
1.ความช่วยเหลือเชิงสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ (Creative Assistance and Inspiration) เครื่องสร้างภาพเอไอ สามารถใช้เป็นแหล่งความช่วยเหลือที่ช่วยสร้างสรรค์และเพิ่มแรงบันดาลใจ สำหรับศิลปินและนักออกแบบ ด้วยการสร้างภาพที่หลากหลายตามสไตล์ที่เฉพาะเจาะจง เอไอสามารถช่วยศิลปินสำรวจแนวคิด ทดลองกับองค์ประกอบภาพต่างๆ และค้นพบความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่พวกเขาอาจมองข้าม
2.การสร้างต้นแบบอย่างรวดเร็วและการทำซ้ำ (Rapid Prototyping and Iteration) เครื่องสร้างภาพ เอไอ ช่วยให้สามารถสร้างต้นแบบ และกระบวนการออกแบบซ้ำ ได้อย่างรวดเร็ว ศิลปินสามารถสร้างรูปแบบต่างๆ ของภาพ หรืองานออกแบบใหม่ๆ ตลอดเวลา ทำให้พวกเขาสามารถสำรวจองค์ประกอบ โทนสี และสไตล์ต่างๆ ได้ในเสี้ยวเวลาที่ต้องทำด้วยวิธีการแบบดั้งเดิม
3.เสริมสร้างการแสดงออกทางศิลปะ (Enhancing Artistic Expression) เครื่องสร้างภาพเอไอ สามารถใช้เพื่อปรับปรุงวิสัยทัศน์ และการแสดงออกทางศิลปะของศิลปิน เมื่อเข้าใจสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของศิลปิน โมเดลเอไอก็จะสามารถสร้างภาพที่สอดคล้อง กับความชอบด้านสุนทรีย์ของศิลปิน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ต่อไป
4.การปรับแต่งและสร้างอัตตลักษณ์ (Customization and Personalization) เครื่องสร้างภาพเอไอ สามารถสร้างภาพแบบกำหนดเอง ที่ปรับให้เหมาะกับข้อกำหนด (preferences) และความต้องการ (requirements) เฉพาะ ศิลปินสามารถป้อนตัวแปร (parameters) หรือลักษณะ (attributes) บางอย่าง ที่พวกเขาต้องการเห็นในภาพที่สร้างขึ้น ซึ่งช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นส่วนตัวและปรับแต่งได้สูง
5.เชื่อมช่องว่างทักษะ (Bridging the Skill Gap) เครื่องสร้างภาพเอไอ สามารถช่วยลดช่องว่างด้านทักษะ สำหรับศิลปินและนักออกแบบ ที่มีประสบการณ์น้อย ด้วยการช่วยทำงานที่ซับซ้อนบางอย่างโดยอัตโนมัติ เช่น การแปลงภาพ (render) ที่เหมือนจริง รวมไปถึงการออกแบบที่ซับซ้อน เอไอจะช่วยให้ผู้สร้างมือใหม่บรรลุผลลัพธ์คุณภาพระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น
Human-AI Collaboration
6.เพิ่มความเป็นจริงและสื่อผสม (Augmented Reality and Mixed Media) การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับเอไอ ในเครื่องสร้างภาพเอไอ สามารถขยายไปสู่โครงการความจริงเสริม (AR) และสื่อผสมได้ เนื่องจากรูปภาพที่สร้างโดยเอไอ สามารถรวมเข้ากับสภาพแวดล้อมในโลกแห่งความเป็นจริง (real-world environments) ได้อย่างแนบเนียน เพิ่มความเป็นไปได้ในการสร้างระบบปฏิสัมพันธ์แบบโต้ตอบ (interactive) ศิลปะดิจิทัล (digital art) และประสบการณ์ที่สมจริง (mmersive experiences)
7.ผลตอบรับและคำติชมที่สร้างสรรค์ (Creative Feedback and Critique) เครื่องสร้างภาพเอไอ ยังสามารถให้ข้อเสนอแนะ และคำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์แก่ศิลปิน ด้วยการวิเคราะห์รูปแบบในผลงานของศิลปิน โมเดลเอไอสามารถเสนอคำแนะนำ สำหรับการปรับปรุง ช่วยให้ศิลปินปรับแต่งสไตล์และเทคนิคของพวกเขาได้
8.การสร้างเนื้อหาอย่างมีจริยธรรมและมีความรับผิดชอบ (Ethical and Responsible Content Creation) การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับเอไอ ยังช่วยให้ศิลปินสามารถสร้างเนื้อหา ที่มีความรับผิดชอบ และมีจริยธรรม ศิลปินสามารถป้องกันเนื้อหาที่สร้างโดยเอไอ จากการสร้างอคติ (perpetuating biases) แบบแผน (stereotypes) หรือข้อมูลที่เป็นอันตราย (harmful misinformation) ได้ด้วยการมีมนุษย์คอยควบคุมดูแล
9.รูปแบบศิลปะแบบผสมผสาน (Hybrid Art Forms) เครื่องสร้างภาพเอไอ ได้เปิดพรมแดนใหม่ในงานศิลปะ ทำให้เกิดรูปแบบศิลปะแบบผสมผสาน ที่ประสานความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ เข้ากับองค์ประกอบที่สร้างโดยเอไอ ซึ่งการผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์และเอไอนี้ จะนำไปสู่งานศิลปะที่น่าตื่นเต้น และแปลกใหม่ ที่ทำให้เส้นแบ่งระหว่างศิลปะแบบดั้งเดิม และเทคโนโลยี ไม่ชัดเจนอีกต่อไป
10.การสำรวจพรมแดนใหม่ (Exploring Uncharted Territory:) เครื่องสร้างภาพเอไอ ช่วยให้ศิลปินได้ผจญภัยไปในดินแดนทางศิลปะ ที่ไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน ได้ทดลองกับแนวคิด สไตล์ และธีม (themes) ใหม่ๆ ที่ขยายขอบเขตของการแสดงออกทางภาพ
กล่าวโดยสรุปแล้ว ศิลปินและนักออกแบบ ล้วนสามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของเครื่องสร้างภาพเอไอ ในขณะที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ และวิสัยทัศน์ทางศิลปะ ด้วยการยอมรับการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับเอไอ เพราะความร่วมมือระหว่างความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์และเทคโนโลยีเอไอ มีศักยภาพมหาศาลในการขับเคลื่อนนวัตกรรม และสร้างเนื้อหาภาพ ที่น่าสนใจซึ่งดึงดูดผู้ชมในอุตสาหกรรมต่างๆ
ความท้าทายและอนาคต
(Challenges and Future Prospects)
ในด้านความท้าทายและอนาคตของเครื่องสร้างภาพเอไอ (Challenges and Future Prospects) ดังที่ทราบกันดีแล้วว่า เครื่องสร้างภาพเอไอ มีความก้าวหน้าอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการเช่นกัน การเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ จะมีความสำคัญต่อการปลดล็อกศักยภาพของเทคโนโลยีนี้อย่างเต็มที่ และสร้างโอกาสใหม่ๆ ในอนาคต
ความท้าทาย ประการแรก เครื่องสร้างภาพเอไอ จำเป็นต้องการคำนวณสูงและหน่วยความจำจำนวนมาก เพื่อตอบสนองแบบจำลองที่ซับซ้อน ในการสร้างภาพที่มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น ประการถัดไป ข้อมูลที่ใช้ในการฝึกฝนเอไอ หากมีอคติหรือไม่สมบูรณ์ ก็สามารถนำไปสู่ภาพที่เอไอสร้างขึ้น ซึ่งมีอคติและไม่ถูกต้องตามไป
ประการถัดไป ปัญหาด้านจำข้อมูลเฉพาะ (overfitting) อันเป็นผลจากการฝึก ทำให้ภาพที่เอไอสร้างมีความจำเจ การสร้างภาพนอกเหนือจากข้อมูล จึงถือเป็นความท้าทายอีกอย่างหนึ่ง และประการสุดท้าย การสร้างภาพให้มีความละเอียดสูงและมีความคมชัด ยังคงเป็นสิ่งที่ท้าทายเอไอเช่นกัน
Challenges and Future Prospects
โอกาสในอนาคต ประการแรก ความก้าวหน้าในการวิจัยเอไอ และพลังการประมวลผลคาดว่า จะนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพของภาพและความสมจริงให้เพิ่มมากขึ้น ประการถัดไป ศิลปินและผู้ใช้ อาจมีความสามารถในการควบคุม และปรับแต่งลักษณะต่างๆ ของภาพที่สร้างได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ประการถัดไป การรวมภาพเข้ากับข้อความ หรือเสียง เพื่อเปิดโอกาสสร้างสรรค์ใหม่ๆ และการประยุกต์ใช้ในการสร้างเนื้อหามัลติมีเดีย
ประการถัดไป งานการสร้างภาพเอไอ แบบตามเวลาจริง (real time )ทำให้สามารถใช้แอปพลิเคชันเชิงโต้ตอบในเกม ความจริงเสมือน และเหตุการณ์สด และประการสุดท้าย การมีตัวสร้างภาพเอไอที่โปร่งใสและอธิบายได้ (transparent and explainable) มากขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจว่า จากการทำงานของโมเดลมาถึงผลลัพธ์ที่แน่นอนได้อย่างไร จึงทำให้ง่ายต่อการจัดการกับข้อกังวลด้านจริยธรรม
ข้อพิจารณาทางจริยธรรม
(Ethical considerations)
การใช้รูปภาพที่สร้างโดยเอไอ ทำให้เกิดคำถามด้านจริยธรรมที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ในบริบทที่ต้องการความถูกต้อง (authenticity) และเที่ยงธรรม (objectivity) เช่น ภาพที่ใช้ในงาน วารสารศาสตร์ (journalism) และเอกสารทางประวัติศาสตร์ (historical documentation) นอกจากนั้น ก็ยังมีปัญหาเกี่ยวกับ ความคล้ายคลึง (Resemblance) กับเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ (copyrighted material)
เนื่องจากรูปภาพที่สร้างโดยเอไอ อาจมีลักษณะคล้ายกับเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ (legal issues regarding infringement) โดยเฉพาะ ในเรื่องของกรรมสิทธิ์ (Ownership) เพราะการพิจารณาว่า ใครเป็นเจ้าของสิทธิ์ในรูปภาพที่สร้างโดยเอไอ ยังคงอยู่ในพื้นที่สีเทา (gray area) ที่ไร้ข้อสรุปที่ชัดเจน
Ethical considerations
แม้จะมีความสามารถที่น่าประทับใจ แต่เครื่องสร้างภาพเอไอ ก็ยังมีส่วนที่ต้องคำนึงถึงทางด้านจริยธรรมด้วย โดยเฉพาะ ข้อกังวลเกี่ยวกับอคติของข้อมูล (data bias) เทคโนโลยีปลอมแปลงเชิงลึก (deepfake technology) และการใช้ศักยภาพในทางที่ผิด (potential misuse) ซึ่งล้วนเน้นย้ำถึงความสำคัญ ในทิศทางของการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีนี้อย่างมีความรับผิดชอบ
ในบริบทนี้ บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเจาะลึกโลกของเครื่องสร้างภาพเอไอ เพื่อทำการสำรวจเทคโนโลยีพื้นฐาน การประยุกต์ใช้ในงานศิลปะและการออกแบบ ความท้าทาย และโอกาสในอนาคต เมื่อเข้าใจถึงศักยภาพของเครื่องสร้างภาพเอไอและการจัดการกับผลกระทบทางจริยธรรมแล้ว เราจึงจะสามารถควบคุมเทคโนโลยีนี้อย่างมีความรับผิดชอบ และใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ
บทสรุป
(Conclusion)
เมื่อเทคโนโลยีการสร้างภาพด้วยเอไอพัฒนามากขึ้น คำถามก็คือ: ในที่สุดระบบเอไอเหล่านี้ จะมาแทนที่ศิลปินมืออาชีพหรือไม่ คำตอบสั้น ๆ ก็คือ ไม่น่าจะใช่ แม้ว่าเอไอ จะมีความก้าวหน้าอย่างน่าทึ่ง แต่ก็ยังขาดความคิดสร้างสรรค์และอารมณ์ที่ศิลปินมนุษย์นำมาสู่ผลงานของพวกเขา นอกจากนี้ เครื่องสร้างภาพเอไอยังถูกจำกัดด้วยการพึ่งพาข้อความ (prompt) สำหรับใช้เป็นคำบรรยาย หรือข้อกำหนดเบื้องต้นในการสร้างภาพ ซึ่งงานศิลปะที่แท้จริงนั้น ไม่อาจบรรยายได้เพียงคำพูดไม่กี่คำ
ดังนั้นจึงเป็นไปได้มากกว่าที่เอไอจะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือ ในการช่วยเหลือ และส่งเสริม (empower) ศิลปิน ในความพยายามสร้างสรรค์ (creative endeavors) แทนที่จะเข้ามาแทนที่ ด้วยศักยภาพในการเพิ่มคุณค่า (enrich) ให้กับกระบวนการทางศิลปะ ผ่านการนำเสนอช่องทางใหม่ (new avenues) สำหรับการสำรวจและอำนวยความสะดวก (exploration and facilitating) ในการผลิตงานศิลปะคุณภาพสูง
ท้ายสุดนี้ คงต้องยอมรับว่า อนาคตของเครื่องสร้างภาพเอไอนั้น น่าตื่นเต้นและมีศักยภาพมหาศาล สำหรับผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต่างๆ ในขณะที่การวิจัยและพัฒนายังคงดำเนินต่อไป การจัดการกับความท้าทายและข้อพิจารณาด้านจริยธรรม จะมีความสำคัญต่อการกำหนดรูปแบบการใช้เทคโนโลยีนี้ อย่างรับผิดชอบและเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง
(วิทยาการสานฝัน ep.1 เครื่องสร้างภาพเอไอ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา