“ฉิบหายแน่”

(26/1)
รัสเซียและจีนนั้น ต่างเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่มากกก…
และอยู่บนผืนแผ่นดินที่เรียกว่า ยูเรเซีย ด้วยกัน
ต่างมีเขตแดนด้านตะวันออกของประเทศ ยาวออกไปจนถึงปลายสุด
ของยูเรเซีย ที่สามารถออกไปสู่มหาสมุทรแปซิฟิกได้เหมือนกัน
และทั้ง 2 ประเทศยังมีเขตแดนติดต่อกัน เปรียบเหมือนเป็นเพื่อนบ้าน
ประเภทใช้รั้วร่วมกันยาวประมาณ 4,200 กม !!!
โดยบ้านรัสเซียอยู่ด้านเหนือของรั้ว และบ้านจีนอยู่ด้านใต้ของรั้ว
ระหว่างเส้นทางของรั้วยาวเหยียดดังกล่าว ยังมีช่องทางเปิดติดต่อ
ไปมาหาสู่กัน ได้อย่างสะดวก ทั้งทางรถไฟ ทางรถ และ ทางข้ามแม่น้ำ
1
และ ทั้ง 2 ประเทศนั้น ยังมีทรัพยากรของดี …
ตั้งแต่ดีธรรมดา จนถึงดีวิเศษยิ่งหลากหลายประเภท
แอบซ่อนอยู่ใต้ดินของบริเวณบ้านตัวอย่างล้นเหลืออีกด้วย
แบบนี้ ทั้ง รัสเซีย และ จีน…แค่นั่งกระดิกเท้าอยู่ในบ้านเฉยๆ
โดยไม่ได้กระดิกตัว ออกไปทำซ่าที่ไหนแต่อย่างไร
และไม่ได้แต่งตัวหรูใส่แว่นดำเดินทำท่าหล่อ(แต่เสือกหกล้มบ่อย)
เหมือนใคร…แต่ถึงอย่างนั้น …ทั้งรัสเซียและจีน ก็เป็นที่อิจฉาตาร้อน
ของใครๆ จนแทบจะทนไม่ได้ปิดไม่มิด…
1
นอกจากเป็นที่อิจฉาแล้ว …ไอ้พวกขี้อิจฉา มันยังอยาก
ให้ 2 ประเทศนั้น เขาไม่เป็นมิตรกัน…
และถ้าทำให้พวกเขาทะเลาะกันตีกันเองได้อีกด้วยยิ่งดีใหญ่
2 ประเทศนั้นมันจะได้ฉิบหายเหี้ยน ไปทั้งคู่ไงล่ะ
1
ไอ้พวกขี้อิจฉา มันเป็นใครกัน (บ้าง)
ท่านผู้อ่านนิทานคงรู้ หรือ คาดเดาออกนะครับ …
เพราะมีบริเวณบ้านอยู่ติดต่อกัน… จีนและรัสเซียจึงมีความสัมพันธ์กัน
มานานแบบนับย้อนไปได้ตั้งแต่ศตวรรษ ที่ 17 สมัยราชวงศ์ชิงของจีน
ซึ่งสมัยนั้นพวกตะวันตกทั้งหลาย รวมทั้งรัสเซียด้วย
ต่างก็มองจีนเหมือนเป็นอาหารจานใหญ่ ที่ดูอร่อยน่ากินอย่างสุดๆ
ทำเอาน้ำลายไหลหยด อยากลิ้มรสจนทนไม่ไหว
ถึงกับลงมือสมคบกัน เพื่อทำลายจีนจนแหลก
และ แย่งชิงแบ่งสมบัติอันล้ำค่าของจีนไปมากมาย
สมัยเมื่อหลายร้อยปีก่อน มุมมองของผู้คนส่วนใหญ่ในสมัยนั้น
ก็อาจเป็นอย่างหนึ่ง …มาถึงสมัยนี้ ก็อาจเป็นอีกอย่างหนึ่ง
มันเป็นเรื่องธรรมดาของความเปลี่ยนแปลงในโลก
แต่สิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้ หรือเปลี่ยนได้ยากมาก…
คือ บริเวณที่ตั้งของแต่ละประเทศ …ทางภูมิศาสตร์
และมุมมองของไอ้พวกขี้อิจฉาจนน้ำลายยืด
ที่เคยเห็นผืนแผ่นดินใหญ่ที่แสนจะอุดมสมบูรณ์ยาวติดต่อกัน
กันเป็นพืด และปัจจุบันแผ่นดินนั้น ก็ยังอุดมสมบูรณ์อยู่…
จึงยากที่จะเปลี่ยนมุมที่เคยมองของพวกมัน…
น้ำลายเคยยืดหยดยังไง เคยอิจฉายังไง
จนความอิจฉาเพิ่มดีกรี กลายเป็นเกลียดจนอกกลัดหนองยังไง
ปัจจุบันนี้ มันก็ยังคิดอย่างนั้น …เป็นอยู่อย่างนั้น…
ถ้าเข้าใจเรื่องนี้ได้ ก็จะเข้าใจเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
กับแผ่นดินนั้น และเรื่องที่กำลังเป็นไปอยู่ในโลกนี่ได้ไม่ยากนัก
1
ในช่วงปี คศ 1960 กว่าๆ …จีน กับ สหภาพโซเวียต
มีเรื่องขัดใจกันหลายครั้ง โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องการเป็นผู้นำ
ของกลุ่มประเทศ …ที่มีการปกครอง ด้วยระบอบคอมมิวนิสม์…
รวมทั้งเรื่องความขัดแย้ง เกี่ยวกับเขตแดนระหว่างกัน
1
การขัดแย้งดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นจากความไม่เข้าใจกันเอง
และ เกิดขึ้นจากการยุแยงของพวกตะวันตก
ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ
เมื่อพวกตะวันตก ทั้งต้มทั้งแยงจนสหภาพโซเวียตแตก
และแหลกสลายไปได้จริงใน ปี คศ 1991 …
พวกตะวันตกดีใจ จนแทบจะระงับไม่อยู่
ถ้าพวกมันลงไปนอนกลิ้งเกลือกกับพื้นได้ มันคงทำแล้ว
ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามที่พวกมันวางแผน …
คือ สหภาพโซเวียต จะหายวับไปจากโลกนี้ …
1
โฮ๊ย สะใจ(พวก) กูจริ๊ง…
หลังจากสหภาพโซเวียตแหลกสมใจ …พวกไอ้ปากเหม็น ไอ้นิ้วก้อย ฯลฯ
ก็หลอกต้มเอา นายบอริส เยลต์ซิน (Boris Yeltsin) นักการเมืองของรัสเซีย
ที่สื่อฝ่ายตะวันตกบรรยาย ว่าเขาเป็นคนขี้เหล้า ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
และปั่นหัวได้ง่าย…ให้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ของรัสเซีย
ที่เหลืออยู่จากสหภาพโซเวียตที่แหลกไป
(ไอ้คนหลอกต้ม ก็ คือ ไอ้บุชคนพ่อ ของพวกปากเหม็นละครับ)
1
ส่วนทางฝั่งจีน ก็มีการเปลี่ยนแปลงวุ่นวายเหมือนกัน
หลังจากท่านประธานเหมาถึงแก่กรรม ในปี คศ 1976…
ทางจีนก็มีเรื่องต้องทำความสะอาดกวาดล้างบ้านอยู่นานหลายปี
ช่วงนั้น ก็เลยเป็นช่องโหว่ให้พวกตะวันตก
สามารถเข้าไปแทรกแซงจีนได้ด้วย
คนที่เข้าไปจัดแจง(ตั้งหม้อต้มทิ้งไว้)ในจีนอย่างเนียน
ก็ คือ ไอ้หนังเหนี่ยว เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ …
ซึ่งเริ่มบทบาททางการเมืองของบ้านไอ้ปากเหม็น
ด้วยการเป็นที่ปรึกษาใหญ่ ของท่านถั่ว (ปธน จิมมี่ คาร์เตอร์)
ที่ CFR อุ้มเอามานั่งเป็นประธานาธิบดีหุ่นเชิด ในช่วงปี คศ 1977-1981
ไอ้หนังเหนียวคิสซิงเจอร์นั้น มันเป็นเด็กสร้างตัวสำคัญของ CFR
ที่ไอ้ร็อกกี้หินร่วง บรรจงสร้าง ขัดสีฉวีวรรณด้วยมือตนเอง
มันจึงแสบ ซ่า และ สามารถแส่ เข้าไปเกือบทุกที่ในโลก
และทำให้โลกเละ…ได้สมใจ(คนสร้างมัน) ตั้งแต่บัดนั้น
จนถึงเดี๋ยวนี้ อายุ 100 ปี … ก็ยังมีชีวิตอยู่ และยังเสือกแส่ได้อยู่
ในปี คศ 1992 … ปธน บอริส เยลต์ซิน ได้เดินทางไปเยี่ยม
สาธารณประชาชนจีน ซึ่งในตอนนั้น มี นายเจียง เจ๋อหมิง (Jiang Zemin)
เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ที่เหมือนกับคุมบังเหียนของจีนตอนนั้น
และ มี นายหยาง ช่างคุณ (Yang Shangkun) เป็นประธานาธิบดี
ทำให้รัสเซีย กับ จีน …สองประเทศใหญ่ของยูเรเซีย
ได้จับมือ เจริญสัมพันธไมตรีกันใหม่ …
1
นำความความปลื้มปิติโสมนัสอย่างยิ่ง มาสู่พวกตะวันตก
ที่เป็นผู้กำกับฯ…และจัดการให้มือของพวกยูเรเซียเขามาจับกันได้
โดยผู้กำกับฯ หวังเต็มร้อย ว่าจะให้ รัสเซียและจีน
“จับมือกันและเดินตามต้อยๆ” …ตามแต่ผู้กำกับฯ จะชี้นิ้ว !!!!
(หมายเหตุ: นายเจียง นั้น … มีข่าวว่าเขาเอนไปทางตะวันตก
อย่างเกือบเต็มตัวแบบเงียบเฉียบ และเอียงอยู่ได้ยาวนาน
อย่างไม่น่าเชื่อ …นายเจียงเพิ่งมาตายไป เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง …
และ อาเฮียฉี ของพี่ปู ถึงได้ติดปีกบินได้อย่างสะดวกใจ
ผมละเหนื่อยใจจริงๆ กับไอ้พวกหลบในเนี่ย …
ให้มันรู้แจ้งแดงส้มออกมาให้ชัดๆ …ยังจะเข้าใจ(และจัดการ) ได้ง่ายกว่า)
1
แต่คนคำนวณ คงไม่สู้ฟ้าลิขิต
เขาว่า นายบอริส เยลต์ซินนั้น รู้ตัวดีว่าพวกตะวันตกกำลังคิดอะไร
และ กำลังเล่นอะไรกับรัสเซีย …และไม่ว่าสื่อตะะวันตกจะเขียน
ว่า นายเยลต์ซินนั้น ขี้เมาอย่างแสนจะน่าทุเรศอย่างไร
ความจริงเป็นอย่างไร… คงมีไม่กี่คนที่จะล่วงรู้ได้
แต่นายเยลต์ซิน คนนั้นแหล่ะ … ที่เป็นผู้เลือก…
และเรียกให้คนชื่อ ปูติน ใ้ห้เข้ามาทำงานในคณะรัฐบาลของเขา
พร้อมกับฝากให้ ปูติน …รับหน้าที่ดูแลรักษาประเทศรัสเซีย
ให้รอดอยู่ต่อไป… อย่าได้ไปเสียเชิงไอ้พวกตะวันตกมันเป็นอันขาดเชียว
1
และ เขาว่าทุกๆปี ตั้งแต่วันที่นายเยลต์ซินเสียชีวิตไป จนถึงทุกวันนี้
คนชื่อ ปูติน จะไปแสดงความเคารพ ณ สถานที่ ที่ร่างของนายเยลต์ซินฝังอยู่
เรื่องราวในโลกนี้ มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนเกือบทั้งนั้นครับ
ที่เห็นอาจจะไม่ใช่ …ที่ใช่อาจจะไม่เห็น…
ในปี คศ 1996 … นาย ลี่ เป็ง (Li Peng) นายกรัฐมนตรีของจีน
ได้เดินทางไปเยี่ยมรัสเซียอย่างเป็นทางการ …
ครั้งนั้น ผู้ที่ได้มาร่วมรับรองจีน พร้อมกับ ปธน เยลต์ซิน ด้วย
ก็ คือคุณพี่ปูติน …ซึ่งตอนนั้น มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ
ด้านความมั่นคงของรัสเซียแล้ว
1
การกลับไปเยี่ยมกัน ของ 2 ประเทศใหญ่แห่งยูเรเซียในครั้งนั้น
ทำให้ฝ่ายตะวันตก รู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล
หรือมีเหตุผล…แต่เปิดเผยไม่ได้
ปี คศ 1999 คุณพี่ปูติน ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย
และ ใน ปี คศ 2001 … รัสเซีย กับ จีน ก็ได้ตกลงทำสัญญากระชับ
ความสัมพันธ์ระหว่างกัน ในฐานะเป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกันและพึ่งพากันได้
“… equal and reliable partnership…”
การทำสัญญาดังกล่าว มาจากความเห็นร่วมกันของคู่สัญญา
ว่า “อเมริกา” นั้น……คือ ประเทศที่พวกเขา “ควรระวัง”
เพราะ อเมริกาจะเป็นตัวการสำคัญ ในทุกฉากของการเมืองโลก
1
ก่อนการทำสัญญาข้างต้น …รัสเซีย กับจีน ได้จับมือกัน
ตั้งกลุ่ม SCO เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ หรือ Shanghai Cooperation Organization
ซึ่งเป็นการนำเอาพวกกลุ่มประเทศในเอเซียกลาง
ที่มีบริเวณกระจายอยู่ระหว่าง รัสเซีย กับ จีน …
เข้ามาร่วมเป็นพรรคพวก จับมือกันไว้ด้วย
คือ ประเทศ Kazakhstan, Kyrgyzstan, Tajikistan และ Uzbekistan
ซึ่งเป็นประเทศที่โคตรรวยแหล่งนำมัน อย่างน่าอิจฉาทั้งนั้น…
และทำให้ “ยูเรเซีย” ยิ่งโดดเด่น น่าเขมือบไปทั้งหมดยิ่งขึ้นไปอีก
1
สัญญา SCO เจ้าพ่อเซี่งไฮ้ ยังมีอายุอยู่จนถึงทุกวันนี้ …
และภายใต้สัญญานี้ ทำให้จีนเป็นลูกค้ารายใหญ่ของรัสเซีย
ทางด้านอาวุธ และเครื่องมือทันสมัยทางด้านการทหาร
ในการพัฒนาของกองทัพของจีนรุ่นแรกๆ …
และจีน ก็ยังเป็นลูกค้ารายใหญ่ของรัสเซีย สำหรับน้ำมัน
ที่ส่งมาถึงจีน ผ่านทางท่อส่งของรัสเซีย เส้นทางไซบีเรียตะวันออก
ที่ยาวเหยียดจนถึงมหาสมุทรแปซิฟิก
1
ในปี คศ 2012… เมื่ออาเฮียฉี ได้ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค
คอมมิวนิสต์จีน …พร้อมกับมีอำนาจในการบริหารบ้านเมือง
อย่างเต็มไม้เต็มมือ… หลังจากนั้น จีนก็ยิ่งโตแบบก้าวกระโดด …
แน่นอนการโตเร็วแบบนั้นของจีน ย่อมทำให้ฝ่ายไอ้ปากเหม็น
ตาเหลือกถล่น ไม่พอใจอย่างยิ่ง (ตามเคย)
และ ช่วงนั้น สัมพันธ์ระหว่าง รัสเซีย กับจีน ก็ยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้น
และการปฏิวัติสีส้ม 2 ในยูเครน …จึงชักกรุ่นๆ จวนเริ่มขึ้นอีก
รัสเซียจึงเตรียมความพร้อม และจับมือกับจีนแน่นขึ้นอีก
1
แต่ในปี คศ 2012 นั้นเอง ท่านใบตองแห้งโอบามา
ของบ้านปากเหม็น กลับประกาศเสียงดังฟังชัด
ว่าอเมริกา เตรียมพร้อมที่จะมุ่งหน้ามาแปซิฟิก (Pivot to Asia)
โดยแบ่งกำลังพลระหว่าง แอตแลนติก กับแปซิฟิกเสียใหม่
จาก 60 A : 40 P …มาเป็น 40 A : 60 P
เพื่อมาคุม หรือ ขัดขา การก้าวกระโดดไกลของจีน
1
ไอ้ปากเหม็น มันชอบเล่นเกมสลับขาไปมาแบบนี้
มานานแล้ว และ ตอนนี้ ก็เล่นแบบเดิมๆ
1
แต่คู่แฝดมหัศจรรย์ เขาไม่ต้องเล่นสลับขา
หรือย่ำเท้าอยู่กับที่
ไอ้ปากเหม็น มึงเข้าใจไหม ว่ามันแปลว่าอะไร
1
สวัสดีครับ
จาก คนเล่านิทาน
25 กรกฎาคม 2566
เชิญแชร์กันตามสบาย ถ้าไม่ใช่เพื่อการค้า และโปรดให้เครดิตด้วย
ภาพประกอบจากกูเกิล
โฆษณา