ประวัติศาสตร์แกงเขียวหวาน แกงไทยไปเมืองนอก l Line สาระ อาหารรอบโลก
สวัสดีคับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บทความของ Line สาระ สาระดีๆ มีได้ที่บทความของ Line สาระคับ
เมื่อพูดถึงแกงของไทย ผมเชื่อว่าแกงไทยบ้านเรามีหลากหลายเมนูมาก และนอกจากจะเป็นที่นิยมในประเทศไทยแล้ว ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ก็ชอบแกงของไทยด้วยเหมือนกัน ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงแกงยอดฮิตที่ไม่มีใครไม่รู้จัก นั่นก็คือแกงเขียวหวานนั่นเองคับ
ประวัติศาสตร์ของแกงเขียวหวาน
สำหรับที่มาของแกงเขียวหวานนั้นก็อาจจะยังไม่ชัดเจนมากคับ แต่คาดว่าน่าจะเกิดในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2452-2469 ในช่วงรัชกาลที่ 6-7 ที่เป็นการวิเคราะห์จากหลักฐานคือตำราแม่ครัวหัวป่าก์ และคู่มือแม่ครัวในปี พ.ศ. 2469
แกงตามแบบฉบับของคนไทยนั้น จะเป็นแกงประเภทน้ำใส เช่น แกงเลียง หรือ แกงป่า พูดอีกอย่างก็คือ แรกเริ่มเดิมที คนไทยไม่ทานแกงที่ใส่กะทิ ทานแต่แกงที่เป็นน้ำใส ใช้วิธีการต้ม ใส่ส่วนผสมต่างๆ และพริกหลากชนิดตำละเอียดเพียงเท่านั้น ต่อมาเริ่มมีการใช้กะทิเป็นส่วนผสมในอาหาร และนี่เองแหละคับ ที่เป็นจุดที่เครื่องแกงได้ถือกำเนิดขึ้น
ในยุคนั้นได้เกิด “แกงแดง” หรือ “แกงเผ็ด” ขึ้น เพราะมาจากเครื่องแกงกะทิที่ใช้พริกแดง และต่อมาเครื่องแกงนี้เองก็ถูกนำมาดัดแปลงเปลี่ยนจากพริกสีแดงเป็นพริกสีเขียวแทน และนั่นก็เป็นที่มาของชื่อ แกงเขียวหวาน
ชื่อแกงเขียวหวาน จริงๆแล้วไม่ได้มาจากรสชาติ แต่มาจากสีของแกงที่มีสีเขียวออกนวล เมื่อนำพริกแกงสีเขียวมาปรุงใส่หัวกะทิแตกมัน ใส่ผัก และเนื้อสัตว์ต่างๆ ลงไป จึงได้เป็นน้ำแกงสีเขียวอ่อนๆ ดูแล้ว หวานละมุนนั่นเอง
ในปัจจุบันแกงเขียวหวานถูกนำมาดัดแปลงให้มีลูกเล่นที่มากขึ้น ประยุกต์เป็นเมนูต่างๆ มากมายตามแต่ความชอบ ไม่ว่าจะเป็น แกงเขียวหวานไข่เค็ม ที่ใช้เนื้อปลากรายห่อไข่แดงเค็มเอาไว้ ซึ่งแบบนี้จะต้องเลือกไข่ที่มีความเค็มมาก เพราะเวลารับประทานกับแกงราดข้าวหรือขนมจีน จะได้เค็มกลมกล่อมพอดี
แกงเขียวหวานปลาหมึกยัดไส้ก็มีคนทำเหมือนกันคับ โดยนำเอาปลาหมึกยัดไส้ ที่ใช้แกงจืดมาแกงเป็นแกงเขียวหวาน เปลี่ยนจากเส้นขนมจีน มาเป็นโรตีและทำแกงให้ข้นสักนิดเป็นเหมือนเครื่องจิ้มแทน หรือเมนูที่กำลังเป็นที่นิยมก็คือ เอาน้ำพริกแกงเขียวหวานไปผัดกับข้าวแล้วกินคู่กับไข่เค็ม ก็จะเป็นข้าวผัดน้ำพริกแกงเขียวหวานนั่นเอง
เมื่ออ่านเมนูทั้งหมดนี้แล้ว ผมว่าเพื่อนๆก็คงต้องเริ่มหิวกันบ้างแล้วหล่ะคับ ไม่ใช่เพียงคนไทยเท่านั้นที่ชอบ แต่แกงเขียวหวานก็เป็นที่นิยมในชาวต่างชาติเช่นกัน ในชื่อของ Thai Green Curry ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลับบ้านไปพร้อมความประทับใจในแกงเขียวหวานบ้านเรา
จึงเกิดเป็นเมนูแกงเขียวหวานแบบอินเตอร์ขึ้น โดยพวกเขานำเครื่องแกงของไทยไปประยุกต์ ลดความเผ็ดร้อนลง ลดเครื่องเทศบางชนิด และทำให้ใสมากขึ้น เพื่อซดเป็นซุปแบบที่คุ้นเคยกันดีในวัฒนธรรมชาติตะวันตก แทนที่จะเป็นแกงทานคู่กับข้าวหรือแป้งประเภทอื่นๆ นั่นเองคับ
ประโยชน์ของแกงเขียวหวาน
ทีนี้มาถึงคุณประโยชน์ของแกงเขียวหวานกันคับ ประโยชน์ของแกงเขียวหวานนั้นไม่ได้น้อยไปกว่าหน้าตาที่สวยงามของอาหารจานนี้เลย เพราะมีส่วนผสมหลักเป็นเครื่องแกงที่เต็มไปด้วยสมุนไพรพื้นบ้านของไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- ✓ใบโหระพา แก้จุกเสียด ท้องอืด แน่นท้อง
- ✓ใบมะกรูด พริกแดงพริกเขียว ช่วยให้เจริญอาหาร แก้หวัด
- ✓กระเทียม ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
- ✓ข่า ช่วยขับลม แก้อาการแน่น จุกเสียด ท้องอืด ท้องเฟ้อ
- ✓ตะไคร้ ลดอาการจุกเสียด แน่นท้อง
- ✓รากผักชี ช่วยขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย แก้โรคกระเพาะ
- ✓พริกไทย ช่วยย่อยอาหาร ทำให้รู้สึกสบายท้อง ลดความร้อนในร่างกาย
- ✓ยี่หร่า ช่วยขับลม
- ✓มีโปรตีนและไขมันจากเนื้อสัตว์ และอีกอื่นๆ มากมาย
เนื่องจากเป็นแกงกะทิจึงอาจมีแคลอรีค่อนข้างสูง แต่หากเลือกใช้เนื้อสัตว์ให้เหมาะสมและไม่ปรุงรสจนเค็มจัดหรือมันจัดเกินไป แกงเขียวหวานนี้ก็เป็นหนึ่งในอาหารสุขภาพจานโปรดได้ไม่ยากนัก
หากเทียบแกงเขียวหวานในปัจจุบันกับแกงเขียวหวานในสมัยเริ่มแรกแล้ว ก็เรียกได้ว่าแกงเขียวหวานมีการพัฒนาเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง มีการดัดแปลงให้เข้ากับลักษณะการกินของคนไทยในทุกยุคทุกสมัย เป็นอีกหนึ่งแกงคู่ครัวไทยที่ทานกับอะไรก็อร่อย ทานตอนไหนก็ไม่มีเบื่อเลยแหละคับ
และนี่ก็คือประวัติของแกงเขียวหวาน แกงสุดแสนอร่อยของคนไทยเรา หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ในที่นี้ด้วยนะคับ ยังไงถ้าชอบ ฝากกดไลค์ กดแชร์ หรือคอมเมนต์มาพูดคุยกันได้เลยคับ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้า เพราะสาระดีๆ มีที่บทความของไลน์สาระคับ
ที่มา
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
