31 ก.ค. 2023 เวลา 09:55 • ความคิดเห็น
เอาเป็นว่า
ผมขอตอบในฐานะของคนที่ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนธรรมะธัมโมแต่อย่างใด
1
- การให้ทาน:
คือการลดอัตตา เมื่ออัตตาเล็กลง ใจเบาขึ้น
คนที่อัตตาเล็ก ตัวกูของกูเล็ก จะคิดถึงผู้อื่นมากขึ้น จิตใจมั่นคงขึ้น
1
มันคล้ายๆกับรถ Ferrari เตี้ยๆ ที่มีจุดศูนย์ถ่วง (centre of gravity)ตำ่ จึงทำให้เข้าโค้งได้มั่นคงกว่า รถสูงๆที่เปรียบได้กับคนที่มีอัตตาเยอะ ในย่านอัตราเร็วสูงๆ
1
- การรักษาศีล:
ผมขออนุญาติเปรียบเทียบ “ศีล” ว่าเป็น
เส้นทางที่ชอบที่ควร
เหมือนกันกับ “ถนนคอนกรีตชั้นเลิศ” ที่แทบจะปูด้วยทองฝังเพชร!
1
เป็นเส้นทางที่จะไม่นำเราไปสู่ความตกตำ่ทั้งในชาตินี้ และภพภูมิภาคหน้า
ถึงชีวิตจะไม่ได้มั่งคั่งร่ำรวย แต่กระแส
ความเย็นแห่งนิพพาน
ก็อาจฉายรังสีทาบทับจิตใจของผู้ที่รักษาศีลได้ไม่มากก็น้อย
ส่วนคนที่ไม่รักษาศีล ก็เปรียบได้กับคนที่ตีตั๋วไปขับบนเส้นทางแบบ
Off-Road
ที่ไม่ใช่แค่เพียงทางฝุ่นหรือทางลูกรังและกรวดทั่วๆไป แต่มันจะมี
แม่น้ำแห่งลาวา
อันเชี่ยวกราก
ที่ไหลบ่ามาจาก
ขุมนรก
รอคอยคนพวกนั้นให้ต้องข้ามผ่าน!
sooner
or
later!
- และเมื่อคุณใช้ชีวิตบนเส้นทางที่นำไปสู่ความเจริญของศีลแล้ว
จิตใจพร้อมจะดำดิ่งสู่ความสงบ เพราะไม่มีภัยจากการทำผิดศีลมารบกวนเป็นนิจ
1
การมีสมาธิจดจ่อกับ “งานอันเป็นประโยชน์” จึงนำมาซึ่ง
1
การพัฒนาจิตเพื่อไปความมีสติรู้เท่าทัน
ความไม่เที่ยงแห่งชีวิต
และนั่นคือ
ปัญญาที่เปรียบเหมือน
อาวุธ
อันทรงพลานุภาพ
ที่ใช้ประหัตประหาร
อวิชชาความไม่รู้
อันเป็นรากเหง้าแห่งทุกข์
ให้มลายสิ้น!
• ปัญญาที่ผมค้นพบจากชีวิตจริงๆของผม
1) ผมชอบคำกล่าวนี้
Everything that has the beginning
has an end.
The Oracle, The Matrix
คือ ทุกอย่างที่มีจุดเริ่มต้น ย่อมมีจุดสิ้นสุด
โดยจุดเริ่มต้น ผมจะเรียกมันว่า
Clock in
และจุดสิ้นสุดคือ
Clock out
โดยระหว่าง Clock in และ out ผมเรียกมันว่า
drama!
และ ดราม่า นี่แหละครับ คือสาเหตุแห่งทุกข์!
แต่ผมก็ชอบที่จะมองว่าทุกข์ก็มีองค์ประกอบคล้ายๆ
การก่อไฟ!
คือมันต้องมี
“ เชื้อเพลิง, Oxygen, และ ความร้อน “
ถ้าครบทั้งสาม: ไฟก็ติด
ถ้าขาดสิ่งใด: ไฟก็มอด!
2) “กาล”
ชีวิตของเราเดินทางผ่านจุดสามจุด คือ
อดีต, ปัจจุบัน, และ อนาคต
โดย
อดีต: ใช้คาดการณ์อนาคตได้
ปัจจุบัน: คือจุดเชื่อมต่อระหว่างอดีตกับอนาคต
อนาคต: อันนี้ผมขอแชร์มุมมองของผมดังนี้ครับ
- ในอนาคต
เราจะได้มาในสิ่งที่เรายังไม่เคยได้
เช่น
ตีนกา, ผิวหนังเหี่ยวย่น, ฟันปลอม!
แล้ว
เราจะสูญเสียในสิ่งที่เราเคยมี
เช่น
ชื่อเสียงเกียรติยศเงินทอง
อำนาจวาสนา
ในวันที่ลมหายใจสุดท้ายมาถึง!
3) “ดวงตาเห็นธรรม”
เมื่อเรามองเห็นว่า แท้จริงแล้ว ทุกอย่างมีจุด
clock in และ clock out
และระหว่างทั้งสองจุดคือ drama อันเป็นความไม่เที่ยงและเป็นทุกข์
เราก็เริ่มเข้าใจว่า
เราสามารถเห็นสิ่งต่างๆรอบตัวได้สองแบบคือ
• Central vision
คือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราทั้งใกล้และไกล
เช่น เมื่อเราขับรถ เราจะเห็นถนนด้านหน้า, ท้ายรถคันถัดๆไป, แนวเสาไฟฟ้าแนวต้นไม้ริมถนน
• Peripheral vision
คือ การมองเห็นภาพรวมด้านข้างที่นอกเหนือจากที่คุณ focus ใน Central vision
เช่น ถ้าคุณขับรถ คุณควรเห็นคนที่กำลังจะข้ามถนน, หรือ รถที่กำลังจะถอยออกจากซอยข้างทาง
1
นี่แหละครับ
“drama” จะทำให้เราเกิดทุกข์ได้ และทุกข์จะทำให้เราเกิด
Tunnel vision!
Tunnel vision คือการที่เรามองอะไร
แคบๆ,
ใกล้ๆ
จนมันทำให้เราไม่สามารถมองเห็น
ภาพรวมแห่งชีวิต
ที่ ณ วันหนึ่ง เมื่อคุณผ่านจุด Clock in แล้ว จุด Clock out จะต้องมาอย่างแน่นอน
Sooner
or
later!
และเมื่อนั้น
ไม่ว่าคุณจะรักใครหรือเกลียดใครสุดหัวใจของคุณ
เมื่อถึงเวลาจาก
ก็ต้องจาก!
1
4) “You gotta roll with it!”
คำถามคือ
เราจะใช้ชีวิตในช่วง
drama
หรือ
Turbulence of life
อย่างไร
ให้ทุกข์น้อยที่สุด?
• ผมชอบภาพยนตร์ที่กำกับโดย
Michael Mann
อยู่หลายเรื่อง และ
Collateral 2004
คือ หนึ่งในดวงใจของผม
Tom Cruise รับบท Vincent, Contract killer ที่มีทักษะการใช้อาวุธและสติปัญญาในระดับที่ผมเรียกว่า
Ex-special force!
ส่วน Jamie Foxx รับบท Max, Cab driver ผู้มีจิตใจงดงาม
Vincent จ้าง Max ให้ขับรถพาเขาไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อไล่ “เก็บ” พยานบุคคลในคดี High profile ที่เกี่ยวโยงกับองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่เป็นผู้จ้างวาน Vincent
หลังจากที่ Max รู้แล้วว่า Vincent กำลังทำอะไร เขาพยายามหนี แต่ก็ไม่พ้น จนในที่สุดเขาตัดสินใจนำกระเป๋าของ Vincent ที่มี flash drive ซึ่งภายในบรรจุรายชื่อและที่อยู่ของเป้าหมายรายต่อๆไปเอาไปทิ้ง!
Vincent โกรธ Max มาก แต่เขาก็ยังต้องพึ่ง Max อยู่ เขาเลยตัดสินใจพา Max ไปหา Crime boss ผู้จ้างวานเขา เพื่อขอ flash drive อันใหม่! โดยเขาบังคับ Max ให้สวมรอยเป็นเขา แล้วเขาคอยดูต้นทางอยู่นอก Pub ของ Crime Boss
เมื่อ Boss รู้ว่า flash drive สูญหายในระหว่างภารกิจที่ยังค้างคาอยู่ เขาโกรธ Max มาก! โดยเขาคิดว่า Max คือ Vincent
ลิ่วล้อของ Boss ขยับเข้าใกล้ Max พร้อมชักปืนพกออกมาคุกคาม
แต่ Max ตั้งสติได้ และเขาลอกเลียนแบบคำพูดของ Vincent ประมาณว่า
Vincent:
We are into Plan B. Still breathing? Now we gotta make the best of it,
“improvise, adapt to the environment, Darwin, shit happens, I Ching, whatever man, we gotta roll with it.”
• ครับ
We gotta roll with it!
คือ ประโยคที่เป็นคำตอบว่า
เราจะ deal
กับทุกข์และ
Turbulence of life
อย่างไร!
Darwin ไม่ได้บอกว่า คนที่แข็งแกร่งที่สุดคือคนที่อยู่รอด
หากแต่
คนที่เรียนรู้ที่จะปรับตัว
กับทุกข์ที่พวกเขาต้องเผชิญ
คือ
คนที่จะอยู่รอด!
• คำถาม
มันง่ายหรือครับ
ที่คุณต้องอยู่ต่อไปโดยไม่มี
คนรักอยู่เคียงข้าง
มันง่ายหรือครับ
ที่คุณต้องอยู่กับคนที่คุณไม่ได้รัก
มันง่ายหรือครับ
ที่คุณต้องสูญเสียลาภยศสรรเสริญ
ไปกับสิ่งที่เรียกว่า
‘โลกธรรมแปด’
อันเป็นความจริงแห่งชีวิต!
มันง่ายตรงไหนไม่ทราบ!
• คำตอบ
ทาน, ศีล, ภาวนา, ปัญญาญาณ
จะช่วยคุณหาคำตอบ จนคุณสามารถกระซิบกับตัวเองในใจได้ว่า
I know how to roll with
the mother fucker
called
Life!
the End!
• ผมชอบคำกล่าวนี้
Do not go where the path may lead, go instead where there is no path and leave a trail.
Ralph Waldo Emerson
• คุณได้พ้นทุกข์แน่! ถ้าคุณไปยุ่งกับกระเป๋าเอกสารของ Vincent!
โฆษณา