1 ส.ค. 2023 เวลา 11:31 • ท่องเที่ยว
ญี่ปุ่น

ของหายที่ญี่ปุ่น อาจ ไม่ได้คืนเสมอไป

อันนี้เป็นเรื่องน่าอัดอั้นตันใจ และอยากเขียนมากๆมานานแล้วค่ะประเทศญี่ปุ่นมีอิมเมจว่าของหายได้คืนเสมอคนญี่ปุ่นเป็นคนดี ซื่อสัตย์ทุกคน
ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดอย่างร้ายแรง
ต้องพูดว่าของหายที่ญี่ปุ่นมีโอกาสได้คืนสูงแต่ไม่เสมอไปค่ะ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศๆหนึ่งที่มีความปลอดภัยสูงในระดับนึง แต่คนญี่ปุ่นเองก็เป็นมนุษย์ที่มีทั้งคนดีและไม่ดีผสมกันไป นอกจากนี้ในประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ยังมีคนต่างชาติอยู่มากมายทั้งอยู่ระยะยาว(เรียน ทำงาน) และนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ประเทศญี่ปุ่นไม่ได้มีแต่คนญี่ปุ่น และคนญี่ปุ่นเองก็ไม่ใช่คนดีทุกคนค่ะ
เอาเป็นว่าไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลก แม้ประเทศนั้นจะขึ้นชื่อว่าปลอดภัยยังไง ก็ควรจะระวังทรัพย์สินของมีค่าของตัวเองให้ดีอย่าประมาทค่ะ
โดยส่วนตัวแล้วเราก็อยู่ญี่ปุ่นมาเป็นระยะเวลานึง แน่นอนว่าช่วงแรกๆก็คิดแบบนั้นค่ะว่า ที่ญี่ปุ่นของหายได้คืน เลยระวังบ้างไม่ระวังบ้างจึงทำให้มีประสบการณ์ลืมของ ของหายอยู่ไม่น้อย ได้คืนบ้างไม่ได้คืนขอเล่าประสบการณ์ที่ตัวเองและเพื่อนๆรอบตัวเจอมานะคะ
เคสที่ทำหายแบบไม่รู้ตัวว่าหายตอนไหน หายที่ไหนนั้น เปอร์เซ็นต์ที่จะได้คืนแทบจะ 0% เลยทีเดียว(แต่ก็ดันไม่0ค่ะ) ขอยกตัวอย่างเคสของตัวเองและของคนรอบตัวนะคะ
เราทำแว่นตาหล่นหายที่ไหนก็ไม่แน่ใจ พอรู้สึกตัวก็รีบไปตามทั้งสถานที่ที่คิดว่าน่าจะหาย เช่นร้านอาหารที่ไปในวันนั้น และสถานีรถไฟที่ใช้บริการในวันนั้นก็ไม่เจอค่ะ ต้องตัดใจ
กับอีกเคสเพื่อนสาวเราไปเที่ยวที่ชิบูย่า รู้สึกตัวอีกทีกระเป๋าเป้ของเพื่อนก็เปิดและกระเป๋าตังค์ก็หายไป พยายามมองโลกในแง่ดีว่าซิบกระเป๋าตังค์คงจะเลื่อนลงมาเองและกระเป๋าตังค์ตกไปเอง แน่นอนค่ะของหายในที่ ที่คนเยอะๆ และไม่รู้ว่าหายที่ไหนกันแน่จะเหลือหรอคะ ก็ไม่ได้คืนค่ะ(แน่นอนว่าก่อนตัดใจทั้งแจ้งทางสถานี และสถานีตำรวจแล้ว)
และย้อนกลับไปสมัยที่เราเป็นนักเรียน เรามีเพื่อนญี่ปุ่นที่ชมรมคนนึงขึ้นชื่อเรื่องขี้ลืมมากๆๆๆ ระยะเวลาที่รู้จักกันมาครึ่งปี เค้าทำกระเป๋าตังค์หายไปแปดรอบ……..เอากับเค้าสิ ได้คืนบ้างไม่ได้คืนบ้าง บางครั้งได้คืนแค่กระเป๋ากับบัตร แต่เงินหายก็มี ครั้งที่ได้คืนครบทุกอย่างแบบงดงามก็มี
อีกเคสนึง เคสนี้เป็นเคสของเพื่อนสาวไปดูคอนเสิร์ตมา แน่นอนว่าต้องซื้อแพมเฟลตมาด้วย แล้วนางลืมก็แพมเฟลตไว้ที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง
หลังจากออกจากร้านมาไม่ถึง 5 นาที นึกขึ้นได้จึงรีบกลับไปที่ร้าน ปรากฏว่าไม่มีไม่เจอไม่อยู่บนโต๊ะ ส่องใต้โต๊ะก็ไม่มี พนักงานไม่รู้ไม่เห็น……. ก็ได้แต่ทำใจ คิดซะว่าสะสารก็คงสามารถละลายหายไปได้
พูดถึงเคสแย่ๆไปแล้ว มาพูดถึงเรื่องดีดีกันบ้าง เคสที่ของหายแล้วได้คืนก็มีไม่น้อย บางอย่างก็แทบจะได้คืนแบบปาฏิหาริย์
เราเคยทำมือถือหล่นหายก็ไปแจ้งความเอาไว้แต่ก็ไม่เจอ จนซื้อเครื่องใหม่เปลี่ยนเบอร์ใหม่เรียบร้อย ผ่านไปสามเดือน ตำรวจโทรมาให้ไปรับมือถือคืนเพราะมีคนเก็บได้เอามาส่ง…….
เคสต่อมา ผ้าพันคอหายในห้างแห่งหนึ่ง ไม่รู้ว่าหายตอนไหน รู้สึกตัวอีกทีก็หายไปแล้ว ก็ไปตามหาตามที่ ที่เดินผ่านมา รวมทั้งร้านอาหารที่ไปกินมาแต่ก็ไม่เจอ จึงไปแจ้งแผนกของหายของทางห้าง วันนั้นไม่มีใครเก็บผ้าพันคอลักษณะแบบเดียวกับที่เราทำหายมาส่ง จนเราคอตกกลับบ้าน แต่ทว่าผ่านไปสามวัน ทางห้างก็โทรมาว่าเจอผ้าพันคอแล้วให้ไปรับคืนได้
นอกจากนี้เรายังเคยทำบัตรนักเรียนของโรงเรียนสอนทำอาหารหาย คาดว่าน่าจะหล่นหายตอนที่หยิบเงินแล้วบัตรปลิวลงมา(เป็นบัตรกระดาษบางๆ) ไม่รู้ตัวด้วยว่าหายไปตอนไหน อยู่ๆก็มีโทรศัพท์จากทางโรงเรียนเข้ามา ว่าเราทำบัตรหายที่สถานีแถวบ้าน นายสถานีโทรมาแจ้งทางโรงเรียน ให้เราไปรับคืนที่สถานีด้วย อะเมซซิ่งมากค่ะ
พอเจอเคสนี้ไปก็ย้อนกลับไปนึกถึงเคสที่เพื่อนทำกระเป๋าตังค์ ในกระเป๋าตังค์ก็มีบัตรมากมายที่จะบ่งบอกถึงเจ้าของกระเป๋า แต่ก็ไม่ได้คืน ก็คิดว่าน่าจะจงใจไม่คืนแล้วแหละ
สรุปแล้วของหายในประเทศญี่ปุ่นนั้น อาจได้คืนมาแบบปาฏิหาริย์ และอาจไม่ได้คืนกลับมาเลยก็ได้ ทางที่ดีระวังและมีสติ เช็คของมีค่าของตัวเองก่อนออกจากสถานที่ต่างๆ(เพราะบางครั้งเราถือของรุงรัง กระเป๋าแน่นๆ เวลาหยิบของชิ้นนึง แล้วของอีกชิ้นมันหล่นลงมาค่ะ) ไม่วางของทิ้งไว้ดีที่สุด และหากไปสถานที่ท่องเที่ยวคนเยอะๆก็ระวังของมีค่าให้ดีๆด้วยค่ะ
แต่ถ้าของหายไปแล้ว ก็ควรรีบกลับไปเอาค่ะ ถ้าไม่เจอก็ควรรีบแจ้งแผนกของหายในสถานที่นั้นนั้น เพราะอาจมีคนเก็บมาส่งแล้วก็ได้ และถ้าเป็นของมีค่าอย่างเช่นกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์มือถือ ก็ควรแจ้งความด้วยค่ะ
เพื่อนๆมีประสบการณ์ของหายแล้วได้คืนหรือไม่ได้คืนอย่างไรกันบ้าง มาเล่าสู่กันฟังทีค่ะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา