2 ส.ค. 2023 เวลา 03:48 • นิยาย เรื่องสั้น

นิทานเรื่อง: ช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสี

คือครั้งกระโน้น ในกรุงพาราณสี ยังมีทนายความผู้หันมาเอาดีทางด้านงานช่างตัดรองเท้าอยู่ผู้หนึ่ง เรามิพักต้องเอ่ยนามว่าเขาคือใคร เพียงแค่เอ่ยปากว่า "ช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสี" เท่านั้น ทุกคนในโลกนิทาน(โลกนิทานของนาย ช. ภูพินิจน่ะนะ)เป็นต้องรู้จักเขาดี
ร้านของเขาใหญ่โตโอ่อ่า ตั้งอยู่หน้าประตูตะวันตกของพระราชวังของท้าวพาราณสีพอดิบพอดี แขกไปไทยมา พม่ามอญลาวชาวฝรั่ง หรือไม่ว่าใครๆ ก็ตาม ก็ต้องเห็นต้องรู้จักร้านของนายช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสีผู้นี้ด้วยกันทั้งนั้น เมื่อเป็นอย่างนั้น "เจนจิรา" จะไม่รู้จักร้านของนายช่างตัดรองเท้าผู้มีชื่อเสียงนี้ได้อย่างไร
เจนจิราเป็นสาวชาวบ้านนอก เธอกำลังจะแต่งงานกับวราวุธผู้เป็นบุตรชาวนาผู้มีอันจะกินผู้หนึ่งของบ้านส่วยหมู่บ้านหนึ่งของท้าวพาราณสี ท้าวเธอมีพระราชานุญาตให้ตระกูลของวราวุธนี่เองเป็นนายบ้าน ทำหน้าที่ดูแลสารทุกข์สุกดิบของหมู่บ้านแห่งนี้ให้ดีด้วยยุติธรรม
ทีนี้เมื่อจะแต่งสะใภ้เข้าบ้าน นายบ้านจึงได้จัดงานเป็นการใหญ่ มีมหรสพสมโภชตลอดสามวันเจ็ดวัน ของกำนนกำนัลมิต้องมีใครนำมา เพราะตูข้านายบ้านจะเลี้ยงดูท่านเอง ฉะนั้นแล ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวจึงต้องวิจิตรงามพร้อม ตัดจากแพรไหมชั้นดีจากเมืองจีน ทั้งสรรพศิลปินช่างวัด ช่างตัด ช่างออกแบบเสื้อผ้าแพรพันต่างๆ ถูกจ้างตัวมาตัดชุดให้กับเจ้าสาวเจ้าบ่าวใส่ในวันวิวาห์
แต่ถึงชุดเจ้าสาวจะสวยสดเพียงใด เจนจิราก็ยังไม่มีรองเท้าเจ้าสาวสำหรับใส่ให้เหมาะเจาะกับชุดแต่งงาน เพราะฉะนั้นแหละ ทั้งสองจึงต้องมาอยู่ต่อหน้าช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสี
เมื่อบอกปัญหาและความประสงค์แก่ช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสีเสร็จสรรพ ช่างตัดรองเท้า ผู้มีทั้งฝีมือ มากประสบการณ์ เปี่ยมด้วยชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ มีระเบียบวินัยเคร่งครัด ทั้งซื่อสัตย์ต่อจารีตจรรยาแห่งวิชาชีพของตน จึงได้บอกสาวเจ้าผู้งามชดช้อนสะโอดสะองยื่นเท้าออกมาเพื่อจะได้วัดเท้าเพื่อตัดรองเท้า สาวงามได้เหยียดเท้าขวาที่เปลือยเปล่าขาวผ่อง ออกไปจรดลงบนกระดานวัดเท้าที่ออกแบบมาอย่างดีของช่างตัดรองเท้า เพียงปราดเดียวที่สายตาจับจด ช่างตัดรองเท้าก็รู้ได้ว่านี่คือเท้าที่งามที่สุดข้างหนึ่งเท่าที่เขาเคยพบ
เขาดีใจตามันวาวเมื่อจะได้รับใช้เจ้าของเท้าข้างนี้ และด้วยความจำนงค์ใจอันเต็มเปี่ยมด้วยพละกำลัง ที่จะรังสรรค์รองเท้าเจ้าสาวที่งามงดที่สุดที่ไม่มีคู่ใดจะเสมอเหมือน แม้แต่รองเท้าขององค์ราชินีก็ตาม
ชื่อเสียงของช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสีนั้นมิใช่จะได้มาด้วยโชค การอุปถัมภ์ พระเจ้าดลบันดาล หรือเพียงเพราะผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินพระราชทานให้แต่อย่างใด หากได้มาด้วยฝีมือความสามารถความฉลาดเฉลียวและน้ำพักน้ำแรงของตนเองโดยแท้ ชายผู้นี้มีความชำนาญในเรื่องเท้าอันดียิ่ง เพียงเห็นข้างซ้าย เขาจะรู้จักข้างขวา เพียงเห็นข้างขวาจะรู้จักข้างซ้าย หากเห็นลายที่ฝ่าเท้าเขาจะสามารถระบุได้ว่านี่คือเท้าของหญิงหรือชาย ชั้นสูงหรือชั้นต่ำ สามัญหรืออภิชน เจ้าหรือไพร่ มีชีวิตความเป็นมาอย่างไร
เป็นอันว่าเขาจะสามารถรู้เห็นชีวิตความเป็นมาและเป็นไปของใครๆ ได้หมด ขอเพียงแค่ได้เห็นเท้าของคนๆ นั้นเท่านั้น ด้วยภูมิปัญญาแตกฉานอันลึกซึ้งในบาทศาสตร์นี่เอง นายหัตถกรผู้เลิศล้ำ จึงมิได้ให้เจนจิราต้องจรดบาทวิจิตรของเธอบนกระดานวัดเท้าด้วยเท้าที่สอง
เมื่อส่งลูกค้าออกจากร้านโดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยรับเงินมัดจำมากึ่งหนึ่งแล้ว นายช่างหัตถศิลป์จึงริเริ่มลงมือประกอบกิจแห่งตนโดยพลัน ล้วนวัตถุดิบชั้นดีที่หนึ่ง หมุดทุกตัว แผ่นหนังทุกแผ่น ชิ้นไม้ทุกชิ้น นายช่างล้วนเลือกมาด้วยความพิถีพิถัน จากเช้าจรดเช้า จากค่ำจรดค่ำ ตลอดทั้งคืนทั้งวัน ช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสีไม่เคยละเลยความใส่ใจในผลงานชิ้นนี้ แม้แต่ลมหายใจเดียว หนึ่งเดือนผ่านไป รองเท้าเจ้าสาวคู่งามจึงสำเร็จรูปออกมา
วันวิวาห์ใกล้มาถึงแล้ว ฤดูกาลช่างเป็นใจ มวลวิหกนกน้อยและแมกไม้ ช่างเชื้อเชิญคู่วิวาห์บ่าวสาวว่าถึงเวลาที่ทั้งสองจะได้ครองคู่กันโดยธรรม เป็น ของกันและกันโดยธรรมได้แล้ว ทั้งสองจึงไปยังร้านของช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสี เพื่อรับสิ่งประดิษฐ์อันงามวิจิตร เพื่อที่จะสวมใส่สิ่งประดิษฐ์อันงามวิจิตรนั้นแก่เท้าอันงามที่คู่ควรกับมัน
ช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสีแย้มยิ้มต้อนรับอาคันตุกะผู้เป็นลูกค้าอย่างหยาดเยิ้ม แต่ก็เปี่ยมด้วยความทรนงในศักดิ์ศรีและฝีมือของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกค้าของเขาน้ำตาจะไหลพรากเมื่อได้ยลผลงานอันงามล้ำจากฝีมือของเขา และบัดนี้พวกเขาจะได้เป็นเจ้าของและสวมใส่มัน ช่างเป็นน้ำตาอันน่ายินดีเสียนี่กระไร พวกเขากำลังจะได้รองเท้าเจ้าสาวคู่งามไปสวมใส่ในวันวิวาห์ของตนแล้ว
ธรรมดาลูกค้าผู้รอบคอบ ย่อมทดลองสินค้าของตนก่อนฉันใด เจนจิราก็ทดลองสวมใส่รองเท้าแต่งงานของเธอก่อนฉันนั้น เมื่อเธอสอดเท้าข้างขวาใส่ลงไปในรองเท้าข้างขวาอันงาม รองเท้าอันงามก็ได้ขับส่งเท้าที่งดงามอยู่แล้วให้งามงดยิ่งๆ ขึ้นไปอีก รังสิประภาในยามเช้า เสริมส่งความวิจิตรแห่งดวงทิวาได้ฉันใด รองเท้าของช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสีก็ขับส่งความงามของเท้าของเจนจิราได้ฉันนั้น
หรือไม่เช่นนั้นก็เรือนแหวนอันเกิดจากทองคำก็ดี จากเงินก็ดี หรือจากโลหะมีค่าใดๆ ก็ดี ช่วยหนุนส่งความงามของอัญมณีคือเพชรให้งดงามยิ่งๆ ขึ้นไปฉันใด รองเท้าของช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสีก็ช่วยหนุนส่งความงามของเท้าของเจนจิราให้เฉิดฉายออกมาได้มากยิ่งๆ ขึ้นไปได้ฉันนั้นเหมือนกัน ทั้งเจนจิรา วราวุธ และช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสี หรือไม่ว่าใครต่อใคร ต่างปริ่มเปรมใจที่ได้สวมรองเท้าข้างนั้น และได้เห็นเธอสวมรองเท้าข้างนั้น
ดังนั้นเองเธอจึงได้เปลื้องเท้าของเธออีกข้างหนึ่งออมมาสวมใส่ลงไปในรองเท้าข้างซ้ายบ้าง แต่แม้ว่าเธอพยายามอย่างไรๆ ก็ไม่เป็นผล ใบหน้าอันเคยเปรมปรีดิ์บัดนี้กลับมีแววหมองหม่นเศร้าโศก ช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสียิ่งฉงนต่อเหตุการณ์อันไม่เคยมีมาก่อนนี้เข้าไปใหญ่ มีดบินของลี้คิมฮวงไม่เคยพลาดเป้าฉันใด รองเท้าที่เขาตัดก็ไม่เคยสวมใส่ไม่ได้ฉันนั้น เขาไม่เคยคิดและไม่คิดว่าจะมีที่ใดๆ ในผลงานของตนให้มีที่ติ
ช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสีได้ก้มลงเพ่งพินิจเท้าของสาวงามข้างนั้นด้วยดวงตาอันสำรวจยิ่ง เขาไล่ตาไปปตามนิ้วเท้าทีละนิ้วๆ แล้วไล่จากหัวแม่เท้าไปจรดส้นเท้า แล้วไล่กลับคืนมาเป็นคำรพสอง แล้วหันมาพิจารณาที่ตาตุ่มทั้งสองข้าง จากนั้นพิจารณาส่วนเว้าโค้งของโครงเท้าทุกส่วนสัด มันเป็นเท้าที่งดงามยิ่งเหมือนกับคู่ของมัน แต่เมื่อสังเกตดีๆ จะพบว่ามันใหญ่กว่าคู่ของมันอยู่นิ้วก้อยหนึ่ง
ช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสีเงยหน้าขึ้นมาด้วยความฉุนเฉียวในความผิดพราดนี้ "ไม่ถูกต้องๆ" เขาบ่นอุบอิบด้วยท่าทีอันโกรธจัด เขาไม่เคยทำงานผิดพราดมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียวในการประกอบวิชาชีพของตน เขาได้ยึดมั่นต่อแบบแผน ขนบพิธีอันดีงามทุกๆ สิ่งที่ช่างตัดรองเท้าจะพึงมี เป็นไปไม่ได้! ผิดปรกติ! ไม่ยุติธรรมอย่างที่สุด! เขาจะต้องหาทางยุติความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นนี้ให้จงได้ และรวจเร็วอย่างที่สุดด้วย ให้สมกับปรัชญาความยุติธรรมที่เขาเคยเรียนมาเมื่อครั้งเป็นนักศึกษาวิชากฎหมาย
คือ ความยุติธรรม คือการทำให้เรื่องมันยุติ!
เขาลุกขึ้นแล้วรี่เข้าไปในห้องเก็บเครื่องมืออย่างเคืองขุ่น ขว้ากรรไกรตัดหนังดวงโตได้เล่มหนึ่ง กลับออกมาด้วยสีหน้าอันเคร่งเครียดสุดจะเอ่ย นั่งลงแล้วฉวยข้อเท้าของสาวงามเอาไว้มั่น แล้วใช้กรรไกรหนีบไปที่ส่วนเกินของเท้าของเธออย่างฉับพลัน เพียงฉับเดียว นิ้วเท้าทั้งห้าขาดกระเด็น โลหิตสีแดงไหลหลั่ง ความเจ็บปวดมิอาจทันแล่นเข้าสู่ห่วงใจของสาวงามเท่าความตื่นตระหนก เธอตกใจตาย และชายหนุ่มก็ขาดใจตายเพราะความเศร้าโศกที่ปิดขั้วหัวใจ
ช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสีถูกเจ้าพนักงานนำตัวไป พระเจ้าพาราณสีตัดสินให้ประหารชีวิตแล้ว ยังประจานความโง่เขลา และยังริบทรัพย์ของเขาเข้าท้องพระคลัง
ช่างที่ดีปลูกเรือนรู้จักใจผู้อยู่
ครูที่ดีสอนศิษย์รู้จักใจลูกศิษย์
ธรรมดาคนตัดเกือกใส่เท้า
พาลชนคิดตัดเท้าใส่เกือก
.
ช่างตัดรองเท้าแห่งกรุงพาราณสี
ต้องสูญเสียยศ ทรัพย์ และชีวิต
ก็เพราะความเขลาอันนี้
สาธุชนทั้งหลายเอ๋ยสาธุชนทั้งหลาย
ยุคสมัยของเรามีไหมหนอหรือไม่มี
พาลชนผู้ตัดคนใส่กฎหมายและวัฒนธรรมอันดีงาม?
นิทานเรื่องนี้จบลงด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล😜
ช. ภูพินิจ
(ภาพปกเอามาจากจากเว็บไซต์: https://www.mdia2free.com/cartoon-clothes-high-heels/)
โฆษณา