2 ส.ค. 2023 เวลา 13:00 • ครอบครัว & เด็ก
พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า อพวช.

พิพิธภัณฑ์ที่สนุกที่สุด

<เค้าไม่ได้จ่าย>
ถ้าพูดถึงพิพิธภัณฑ์ คุณจะนึกถึงอะไรครับ?
น่าจะนึกถึงสถานที่อึมครึม ที่มีก้อนหินในตู้กระจก มีภาพเก่า ๆ แล้วมีคำอธิบายเป็นตัวหนังสือเล็กจิ๋วใช่ไหมครับ
แต่ที่นี่ไม่ใช่เลย
ที่นี่มีทั้งสไลเดอร์ต้นไม้ยักษ์ มีทั้งไดโนเสาร์ขนาดเท่าของจริงที่ขยับได้ แถมยังมีโรงหนัง 4 มิติ!
ใช่, ผมกำลังพูดถึงพิพิธภัณฑ์พระราม 9 อพวช.
แค่เลี้ยวรถเข้าก็อลังการแล้ว สถานที่ใหญ่มากจนคิดว่าคงไม่มีเอกชนเจ้าไหนกล้าทำ แถมมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
ผมเรียก (เอาเอง) ว่าดงพิพิธภัณฑ์คลอง 5
ผมเลือกไปพิพิธภัณฑ์พระราม 9 เพราะภรรยาไปอ่านรีวิวมาว่าดี แต่ของจริงคือดีมว๊ากกกก
“พ่อ! ไดโนเสาร์” แล้วมาวินวัยห้าขวบก็วิ่งนำพ่อไปทันที
แต่พอเข้าไปใกล้แล้วไดโนเสาร์ขยับได้ เด็กน้อยชะงักทันที แถมพอไดโนเสาร์ร้อง ผมได้ยินเสียง “พ่อ” ดังมาก
ไดโนเสาร์ที่ทำมาวินกลัวคือ สยาโมไทรันนัส อิสานเอสซิส ซึ่งเป็นไดโนเสาร์หน้าตาคล้ายทีเร็กซ์
อีกตัวที่อยู่ข้างกัน ดูเผิน ๆ นึกว่าแบรกคิโอซอรัส แต่แท้จริงแล้วคือ ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน
ทั้งสองคือไดโนเสาร์ที่พบในเมืองไทย มีขนาดเท่าของจริง ร้องและขยับได้ อลังการ!
ถัดไปนิดนึงมีประตูขั้วโลก ที่พอเดินผ่านแล้วจะมีลมเย็นจากสองข้างทางเสียงดังวู้ ๆ เพื่อให้ผู้เข้าชมสัมผัสว่าอากาศที่ขั้วโลกเย็นแค่ไหน
สิบห้านาทีแรกของมาวิน วิ่งไปวิ่งมาระหว่างไดโนเสาร์และประตูขั้วโลก หัวเราะเอิ๊กอ๊ากทุกครั้งที่ประตูขั้วโลกทำงาน เด็กน้อยสนุก
แต่พ่อหนาวมาก 😅
มุมที่ผมชอบที่สุดคือ มุมมนุษย์โบราณ ที่จัดแสดงมนุษย์สายพันธุ์ต่าง ๆ
ที่ชอบเพราะผมอ่านหนังสือเรื่องเซเปียนส์ ซึ่งมีกล่าวถึงมนุษย์โบราณสายพันธุ์อื่น เช่น โฮโม นีแอนเดอร์ทัลเอนซิส, โฮโม อีเร็กตัส, โฮโม ฟลอเรซิเอ็นซิส (ที่เป็นต้นแบบของฮอบบิตในเรื่อง Lord of the ring)
ตอนอ่านผมนึกภาพไม่ออกว่ามนุษย์สายพันธุ์เหล่านี้หน้าตายังไง แต่พอเห็นในพิพิธภัณฑ์ กระจ่างเลย! แถมมีรายละเอียดอื่น ๆ เช่น กระโหลกศีรษะและฟันให้ดูด้วย
ขณะที่พ่อกำลังศึกษาอย่างขะมักเขม้น ลูกชายก็ตะโกน “พ่อ! ไปที่อื่นกัน”
“เฮ้อ!”
ลงมาชั้นล่างดูมุมทะเลทราย อธิบายว่าทรายแม่น้ำ ทรายทะเล และทรายทะเลทรายนั้นแตกต่างกัน โดยทรายทะเลทรายมีเม็ดละเอียดที่สุด มีขวดโหลใส่ทรายตั้งให้เห็นความแตกต่างชัดเจน
ขณะที่ผมกำลังศึกษาเรื่องทรายอย่างเมามัน ก็ได้ยินเสียง “พ่อ สไลเดอร์ยักษ์!”
สิ่งที่มาวินพูดถึงคือ บ้านต้นไม้ที่ดัดแปลงเป็นสไลเดอร์ขนาดใหญ่ เปิดให้เด็ก (และผู้ใหญ่) ขึ้นไปเล่นได้ แถมมีถุงผ้า (คล้าย ๆ ถุงวิ่งกระสอบ) ให้ยืมด้วย เวลาลื่นลงมาจะลื่นและสนุกมาก (ภาพประกอบของบทความนี้)
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามาวินอยู่มุมนั้นนานที่สุด นานจนเจ้าหน้าที่บอกว่า “เอ่อ.. ทางเราจะปิดรอบแล้วครับ 😅”
หลังจากนั้นไปดูหนังสี่มิติ (4D) โรงหนังทำเป็นท้องฟ้าเวิ้งว้าง แถมมีลมเป่าจากด้านหลังเป็นเอฟเฟกต์ประกอบ
เป็นเรื่องกำเนิดโลก ตั้งแต่บิ๊กแบงจนกระทั่งเย็นตัวลงและกลายเป็นโลกของเราในปัจจุบัน มาวินสนใจมาก ถามพ่อเป็นระยะว่า “นี่คืออะไร นั่นคืออะไร” นั่งดูตาแป๋วจนหนังจบ
โดยรวมแล้วเป็นสถานที่พาลูกเที่ยวที่ดีมาก ๆ น่าจะดีที่สุดตั้งแต่เคยพาลูกไป
สถานที่โปร่ง เพดานสูง มัลติมีเดียเยอะ แสง สี เสียง ครบครัน
การให้ข้อมูลก็เพียบพร้อม ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แถมมีจอแอลซีดีให้กดดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ด้วย
ภาพต่าง ๆ ก็ทำได้สวย แถมอยู่ในสภาพที่ดีมาก ไม่มีเก่า ไม่มีเหลืองซีดเลย
รูปปั้นต่าง ๆ ก็ทำได้ละเอียดจนแทบจะเรียกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์งานศิลป์ ถ้าเป็นรูปปั้นคนก็มีรอยเหี่ยวย่นของผิวหนังชัดเจน ถ้าเป็นรูปปั้นสัตว์ก็มีรายละเอียดของขนที่เด่นชัด รูปปั้นนกอินทรี รูปปั้นหมีขาว รูปปั้นอูฐ สวยงามมาก
ค่าเข้าชมเพียงคนละ 200 บาท แถมเด็กและผู้สูงอายุเข้าฟรีอีกต่างหาก
มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตรงโรงหนังสี่มิติ แต่ก็เสียเพิ่มเพียงคนละ 10 บาท
ผมไปกับภรรยาและลูกอีก 2 คน รวมทั้งพาคุณแม่ไปด้วย ค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จ (รวมค่าดูหนังสี่มิติ) คือ 450 บาท คุ้มจนกลัวพิพิธภัณฑ์อยู่ไม่ได้
เจ้าหน้าที่ทุกคนก็น่ารัก ให้คำแนะนำแถมช่วยดูแลลูกชายจอมซนให้ด้วย 🙂
สถานที่คุณภาพแบบนี้ อยากชวนให้มาเที่ยวกัน มาแล้วอยู่ได้ทั้งวัน มีอะไรให้ดู มีอะไรให้ทำเยอะมาก
“มาวินชอบอะไรมากที่สุดครับ?” ผมถาม
“วินชอบ… (ทำท่าคิดนิดนึง) โรงหนัง” แล้วเด็กน้อยก็ส่งยิ้มหวาน 😊
โฆษณา