5 ส.ค. 2023 เวลา 06:39 • ธุรกิจ
ออกตัวก่อนว่าผมยังไม่มีอิสรภาพทางการเงินในแบบที่ผมต้องการ
แต่มาได้ครึ่งทางในไลฟสไตล์แบบประหยัดสุดๆแล้ว
เป้าหมายของผมคือมีอิสรภาพในแบบที่ผมต้องการใช้ชีวิต ก็คงต้องใช้เวลาอีกเป็นสิบปีแหละครับ😅
“ความมั่งคั่ง” คือ เงินที่เหลืออยู่หลังจากที่นําทรัพย์สินทั้งหมด ลบด้วยหนี้สินทั้งหมดของคุณ ยิ่งคุณมีทรัพย์สินสุทธิมากเท่าใด โอกาสที่จะนําเงินไปต่อยอดสร้างความมั่งคั่งก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามั่งคั่งแล้ว?
 
ก่อนจะมั่งคั่ง เราต้องอยู่รอดให้ได้ก่อน ดูง่ายๆ จาก “อัตราส่วนความอยู่รอด” (Survival Ratio)
อัตราส่วนความอยู่รอด = รายได้/รายจ่าย
*รายได้ทั้ง passive income และ active income*
ถ้ามากกว่า 1 เท่ากับอยู่รอดได้
อยู่รอดได้แล้ว ความมั่งคั่งล่ะดูจากอะไร
ดูจาก“อัตราส่วนความมั่งคั่ง” (Wealth Ratio)ซึ่ง
อัตราส่วนความมั่งคั่ง = รายได้จากทรัพย์สิน/รายจ่าย
แล้วถ้ามากกว่า 1 อย่างนี้จะเรียกว่า “อิสรภาพทางการเงิน”
จริงๆถ้าดูจากการจำกัดความคำว่ามั่งคั่งแล้วมันก็แค่
เงินที่เหลืออยู่หลังจากที่นําทรัพย์สินทั้งหมด ลบด้วยหนี้สินทั้งหมดของคุณ ซึ่งถ้ามันเป็นบวกเพียงแค่ 1บาทนั่นก็ถือเป็นความมั่งคั่งแล้ว
และมันก็สามารถติดลบได้ แปลว่าทุกมีความมั่งคั่งได้หมด
สิ่งที่อยากให้ลองโฟกัสเพิ่มคือความมั่งคั่งที่มากพอที่จะใช้คำว่า “อิสรภาพทางการเงินครับ”กับตัวเราได้ โดยเริ่มจากข้างต้นที่กล่าวมาครับ
ถ้าสรุปง่ายๆสั้นคือ
1.อยู่รอดให้ได้ก่อน
#อัตราส่วนความอยู่รอดต้องมากกว่า 1
2.ลดหนี้สินที่ไม่จำเป็น
#พยายามทำให้ความมั่งคั่สุทธิเป็นบวก
3.นำเงินส่วนต่างไปสร้างสินทรัพย์
#ลงทุนเพื่อให้เงินทำงาน
4.ปกป้องความมั่งคั่งสุทธิให้เป็นบวกเสมอ
#ทำประกันเพื่อปกป้องความมั่งสุทธิโดยคำนวนว่า
จำนวนเงินเอาประกันภัย=(หนี้สิน+รายได้ต่อปีx5)-ทรัพย์สิน
ถ้าไม่ไหวสามารถใช้รายได้ต่อปีx2,x3 ได้
5.สำรวจตัวเองทุกๆครึ่งปี
#ปรับแผน
6.ทำไปเรื่อยๆจนเรามีอิสรภาพทางการเงิน
#อัตราส่วนความมั่งคั่งมากกว่า 1
โฆษณา