7 ส.ค. 2023 เวลา 05:47 • ปรัชญา
วัดพระธรรมกาย

🌟ความฝันของหลวงพ่อ (ฝันเดินบนถนนเศษแก้ว) เรียบเรียงจากทบทวนโอวาท พ.ศ.2552🌟

ในสมัยที่คุณครูไม่ใหญ่ยังเป็นคฤหัสถ์อยู่ มีอยู่คืนหนึ่งพอนั่งสมาธิเสร็จแล้วก็เข้านอน แล้วก็ฝันไปว่า..ได้เห็นถนนเส้นหนึ่ง ยาวไปไกลสุดตา ปลายถนนนั้นมีความสว่างเจิดจ้า และพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านก็อยู่บริเวณทางซ้ายมือ ท่านเรียกชื่อคุณครูไม่ใหญ่ซึ่งเป็นชื่อก่อนจะบวช แล้วก็บอกให้เดินไปบนถนนสายยาวเส้นนั้น
พอมองไปที่ถนนที่ท่านบอกให้เดิน ก็พบว่ามีเศษแก้วแตกปูเรียงแน่นเต็มถนนยาวจนสุดปลายทาง แต่ด้วยความเคารพบูชาเทิดทูนพระเดชพระคุณหลวงปู่ ก็เดินไป ในความรู้สึกคือเหมือนเดินเท้าเปล่าแล้วเหยียบไปบนลูกรังหยุ่น ๆ ทิ่มลงไปบนฝ่าเท้า แต่ไม่ตำจนเกิดแผล คุณครูไม่ใหญ่ได้เดินไปตลอดเส้นทางยาวไกลสายนั้น ที่มีแต่เศษแก้วมีคมที่อัดแน่น โดยมีพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านคอยให้กำลังใจไปเรื่อย อยู่ข้าง จนเดินไปถึงสุดถนน
ที่ปลายทางเป็นชายหาด และสุดชายหาดก็เป็นท้องทะเลที่มองไม่เห็นอีกฝั่ง พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านบอกให้เดินต่อไปอีก เมื่อเท้าสัมผัสทรายก็รับรู้ได้ถึงความร้อน แต่ก็ยังเดินต่อเพราะหลวงปู่ท่านก็ยังอยู่ข้าง ๆ พอเดินจนสุดชายหาดก็ถึงทะเล พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านยังคงเรียกชื่อคุณครูไม่ใหญ่ และบอกให้เดินต่อไปในน้ำทะเล พอคุณครูไม่ใหญ่เดิน หลวงปู่ท่านก็เดินไปด้วย โดยที่ท่านจะเดินลอย ๆ เหนือน้ำขึ้นมา แต่ครูไม่ใหญ่เดินบนผิวน้ำ
คุณครูไม่ใหญ่เดินบนผิวน้ำทะเลไปเรื่อย ๆ จนไกลจากชายหาดไปทุกที ๆ แต่พระเดชพระคุณหลวงปู่ก็ยังบอกให้เดินต่อไปอีก จนมาถึงที่ ๆ หนึ่ง ท่านบอกคุณครูไม่ใหญ่ว่า “ตรงนี้เป็นศูนย์กลางทะเลแล้ว ให้หยุดตรงนี้ แล้วก็ให้ปักหลัก” คุณครูไม่ใหญ่ก็สงสัยว่า เราจะไปเอาหลักที่ไหนมาปักกลางทะเลได้ แต่แค่พอนึกเท่านั้น ก็มีเสาใหญ่ ๆ มาจากไหนก็ไม่ทราบ ลอยมาทางอากาศ พอมาถึง เสานั้นก็ปักลงไปถึงก้นทะเลลึก และไม่ได้มาเพียงเสาเดียว แต่เป็นหลายเสา หลายหลัก เยอะแยะเต็มไปหมดทุกต้นได้ปักลงลึกไปถึงก้นทะเล
แล้วพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านก็เรียกชื่อคุณครูไม่ใหญ่อีก บอกให้คอยอยู่ตรงนี้ แล้วท่านก็เดินเหนือผิวน้ำไปสุดสายตาที่น้ำจรดขอบฟ้านั้น แล้วก็ยืนเหนือผิวน้ำท่ามกลางเสาหลักที่เยอะแยะเต็มไปหมด แล้วพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านก็พูดประกาศก้องให้สัตว์ในน้ำ มาตรงเสาหลักที่ปักตรงที่ครูไม่ใหญ่ยืนอยู่ บอกเหล่าสัตว์น้ำว่าให้ไปตรงนั้น แต่อย่าไปอีกฝั่งที่เป็นที่ของพญามาร น่าแปลกที่พระเดชพระคุณหลวงปู่พูดอยู่สุดขอบฟ้า แต่เสียงของท่านมาถึงครูไม่ใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงเสาหลักที่กลางทะเล
พอพระเดชพระคุณหลวงปู่ป่าวกระกาศดังนั้นแล้ว สัตว์น้ำจากทั่วสารทิศก็มากันอย่างโกลาหล เยอะแยะเต็มไปหมด แล้วภาพของพระเดชพระคุณหลวงปู่หายไป เหลือเพียงแต่สัตว์น้ำทั้งปลาใหญ่ ปลาเล็ก ที่ว่ายน้ำตะเกียกตะกายมาถึงหลักที่คุณครูไม่ใหญ่อยู่ พอมาถึงหลักแล้วก็กลายร่างเป็นคน แต่ก็ยังมีส่วนน้อยที่ยังเป็นปลาต่อ แล้วคุณครูไม่ใหญ่ก็ตื่นขึ้น
พอตื่นแล้ว คุณครูไม่ใหญ่ก็นำเรื่องความฝันในวันนั้นไปเล่าให้คุณยายอาจารย์ฟัง เมื่อคุณยายอาจารย์ได้ฟังแล้วท่านก็ทำสมาธิ หลับตา โดยที่คุณยายอาจารย์ไม่ได้มองว่าฝันของเด็กหนุ่มคนหนึ่งจะเป็นเรื่องไร้สาระ โดยที่ครั้งนี้ท่านนั่งหลับตาทำสมาธินานกว่าความฝันอื่นที่คุณครูไม่ใหญ่เคยถาม
ความฝันอื่นท่านจะนั่งเพียงประมาณ ๕ นาที แต่ฝันครั้งนี้ท่านหลับตาประมาณ ๑๐ นาที แล้วก็พูดในขณะที่ท่านกำลังหลับตาอยู่ ลักษณะคล้ายคุณยายอาจารย์ท่านกำลังดูอะไรสักอย่าง ผ่านแสงสว่างภายใน เหมือนท่านไปอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่งแล้วพูดออกมาให้คุณครูไม่ใหญ่ฟัง ว่า..
ในอนาคต คุณครูไม่ใหญ่จะปักหลักเป็นศูนย์กลางเผยแผ่ธรรมะ แต่เส้นทางที่จะเดินทางไปเพื่อจะไปตั้งหลักให้เกิดขึ้นได้นั้น จะเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย แต่ก็จะเดินต่อไปได้ เพราะมีพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านคอยดูแลอยู่ จนกระทั่งหมดอุปสรรคเกี่ยวกับเรื่องของมีคม แหลม ๆ คม ๆ ที่คอยทิ่มตำ แต่จะทิ่มจะตำอย่างไรก็ไม่เข้า เพราะผิวหนังมีภูมิต้านทาน
ในฝันที่คุณครูไม่ใหญ่เดินไปบนผิวน้ำ คุณยายอาจารย์ท่านบอกว่า น้ำ ก็คือ กาม เหมือนชาวโลกทั้งหลายที่เขาติดกามคือการครองเรือนทางโลก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เคยตรัสเปรียบเปรยเช่นกันว่า “ห้วงน้ำคือกาม” แต่เนื่องจากคุณยายอาจารย์ท่านไม่รู้ภาษาหนังสือ ท่านจึงบอกว่า การที่เดินบนผิวน้ำนั้น หมายถึงคือคุณครูไม่ใหญ่จะไม่ต้องไปติดการครองเรือนแบบชาวโลก โดยมีพระเดชพระคุณหลวงปู่เป็นผู้คอยประคับประคองให้
จนกระทั่งคุณครูไม่ใหญ่เดินไปถึงกลางทะเล คือสถานที่ที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านเห็นว่าเหมาะสม แล้วท่านบอกให้หยุด ซึ่งก็คือสถานที่ที่จะเป็นที่เผยแผ่ธรรมที่เนื่องด้วยพระเดชพระคุณหลวงปู่ ก็คือพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย แล้วเสาหลักที่มาปักไปถึงก้นทะเลก็คือการสร้างสถานที่ขึ้นมา แต่มันจะไม่ได้เกิดขึ้นในตอนนี้ จะเกิดขึ้นในอนาคต ถึงจะมีอุปสรรคอย่างไรก็สำเร็จ เพราะเสาหลักนั้นได้ปักหลักลงอย่างมั่นคง
คุณยายอาจารย์ยังอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า เสาที่ที่ปักลงกลางทะเล คือทะเลแห่งความรู้ การที่เสาปักไปถึงก้นทะเล แปลว่าคุณครูไม่ใหญ่จะแทงตลอดในธรรมะ ในวิชชาธรรมกาย
การที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านประกาศก้องอยู่ตรงสุดปลายขอบฟ้า แล้วสัตว์น้ำจำนวนมหาศาลต่างว่ายมาถึงหลักที่คุณครูไม่ใหญ่อยู่ ก็หมายถึงการที่ท่านจะไปช่วยตามมนุษย์ผู้มีบุญให้มาถึงสถานที่เผยแผ่ธรรม แต่ยังมนุษย์เหล่านั้นยังมีกิเลสอยู่ เหมือนปลาที่ว่ายน้ำอยู่ในทะเล
เพราะฉะนั้น..สัตว์น้ำทั้งหลายที่ตกอยู่ในห้วงแห่งกามสุขครองเรือนแบบชาวโลกนั้น จริง ๆ แล้วก็คือมนุษย์ แต่ใจยังไม่หลุดจากการครองเรือน ทั้ง ๆ ที่มีทุกข์มีอะไรต่าง ๆ สารพัด ก็จะถูกท่านไปตามมา แล้วบอกว่าให้มาที่หลัก
คือเมื่อมาถึงสถานที่ ๆ คุณครูไม่ใหญ่ได้สร้างรากฐานขึ้นมาแล้ว บางส่วนที่มาถึงหลักแล้วก็ได้กลายเป็นคน แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่แค่มาถึงแล้วก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม คือบางคนได้มาถึงแล้วเรียนรู้ธรรมจนมีจิตใจสูงส่งขึ้น หรือบางคนก็แค่มาดูแล้วก็กลับไป หรือบางคนมาปฏิบัติจนเข้าถึงธรรมแล้วก็กลับไปใช้ชีวิตอย่างเดิมก็มี
ซึ่งทั้งหมดนี้ คุณยายอาจารย์ท่านบอกว่าต่อไปในอนาคตคุณครูไม่ใหญ่จะไปปักหลักสอนธรรมะ ทั้ง ๆ ที่ในตอนนั้นคุณครูไม่ใหญ่ยังไม่เคยคิดที่จะตั้งศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม หรือจะสร้างวัดใด ๆ เลย (เรียบเรียงจากทบทวนโอวาท พ.ศ.2552)
🌟รับธรรมะดี ๆ ที่เป็นประโยชน์และเป็นกำลังใจในการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าถึงความสุขภายในได้ที่นี่
โฆษณา