พาหลานไปขึ้นเขียง🐶🐶
…กว่าจะปรึกษาหารือ ข้อดี ข้อเสีย ความเป็นไปได้ทุกสิ่งอย่าง ทั้งตาทั้งยาย ก็ตัดสินใจว่า ..โอเค จะต้องพาหลานไปทำหมันแล้วหล่ะ 😘😘 ก่อนที่หลานจะสูงวัยแข่งกับตายายขึ้นไปเรื่อยๆ
😊😊ในความคิดป้าตอนนั้น แอบเป็นห่วงหลานสุดหัวใจ หลานอายุ8ขวบแล้ว ถือว่าสูงวัยสำหรับการทำหมัน ปกติเท่าที่หาข้อมูลมา ส่วนมากถ้าไม่อยากให้มีลูก ก็ควรทำหมัน ตั้งแต่อายุน้อยๆ แต่ด้วยความที่
😝😝ตอนหลานอายุน้อย เค้าสามารถ กินเอง เล่นเอง นอนเอง ฉี่เอง อึเอง ช่วงกลางวันได้ไง เค้าน่ารัก ร่าเริงแจ่มใสเกินลิมิต ถ้าผ่าตัดช่วงนั้น ป้าก็สงสาร กลัวหลานเจ็บ แล้วหลังผ่าใครจะดูแล เพราะทุกคนไปทำงานกันหมด โอ้ยสารพัดความคิด สรุปแล้ว 8ขวบจนได้สิน่าาา แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้คนดูแลพร้อมแล้ว กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันได้ท้างวัน ทุกอย่างจึงเริ่มขึ้น….
😍😍 หลานป้าผ่านกระบวนการทุกอย่าง 🤭ทั้งทำหมัน ทั้งสัญกรรม(ตูด) ทีเดียวพร้อมกันไปเลย เพราะชอบเบ่งแรงๆจนเนื้อปลิ้น คุณหมอบอกว่า จะดูหน้างานให้ ถ้าทุกอย่างปกติก็จะทำพร้อมกันไปเลย ..ส่งหลานเข้าสู่ขั้นตอนของโรงยาบาล ส่วนป้า กลับบ้านด้วยภาพ มโน ในหัวของตัวเอง บอกเลย..มากมายก่ายกอง..คืนนั้น…นอนไม่หลับเลย ^~^
หมอบอกว่า ข้อดีของการทำหมันคือ
1. ป้องกันมะเร็ง
2. ป้องกันมดลูกอักเสบ
ข้อเสียหากไม่ทำหมันคือ
1. สุนัขเพศเมียอาจจะมีโอกาสติดเชื้อแบคทีเรียจากตัวผู้หากผสมพันธุ์แล้ว ซึ่งน่าจะนำมาหลายโรค
ถึงแม้ว่า… เราจะไม่คิดให้เค้ามีลูกก็เถอะ เค้าก็เสี่ยงอยู่ดี เมื่ออายุเพิ่มขึ้น..วิธีที่ปลอดภัยที่สุด ก็คือทำหมัน ฉีดยาคุก็มีความเสี่ยง ยาหรือวัคซีน ก็ไม่มี
ป้าก็เลย ..จำยอม..
🤭🤭เมื่อทุกอย่างผ่านไป ตอนนี้ก็ประมาณ6เดือนแล้วหล่ะ สิ่งที่ตามมาหลังจากผ่าตัด ซึ่งเคสคนอื่น อาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้ คือว่า
🫢 หลานไม่ยอมกินน้ำเปล่าเลย แค่ดมๆแล้วก็เมินหน้าหนี
🤭 หลานเบ่งอึเองไม่ค่อยออก ตอนแรกป้าคิดว่า หลานน่าจะเจ็บแผล คงต้องใช้เวลาหน่อย ลุ้นทุกครั้งที่หลานเริ่มเบ่ง
🤭กลับไปปรึกษาคุณหมอ คำแนะนำคือ ให้น้องดื่มน้ำเยอะๆ แล้วให้ทานยาระบายร่วมด้วย อึจะได้อ่อนตัว น้องจะได้เบ่งง่ายขึ้น
..ป้าปฎิบัติตามคำแนะนำทุกสิ่งอย่าง ไม่สำเร็จ ทุกๆสามวัน ต้องพาหลานไปให้คุณหมอล้วง …เสียงร้องโอดโอยของหลาน มันทำให้ป้าจิตตกมาก เริ่มโทษตัวเอง ที่พาหลานไปเจอเหตุการณ์แบบนี้
คิด คิด..หรือเราลองเปลี่ยนหมอ เผื่อจะมีคำแนะนำที่แตกต่างออกไปอีก สรุปคือ หมออีกโรงพยาบาล อธิบายว่า
หลานอายุประมาณนี้ เอกซเรย์ดูแล้ว เห็นว่า กล้ามเนื้อตรงก้น เริ่มหย่อน ทำให้เวลามี “อึ” เคลื่อนตัวมา มันจะมารวมกันอยู่ตรงถุงด้านข้าง ทำให้การเบ่ง ต้องใช้แรงเพิ่มขึ้น “อึ” ออกได้นิดหน่อย ที่เหลือคือ ..ต้องล้วง..และเปลี่ยนอาหาร เอาละสิ เดินหน้าอย่างเดียว ทุกรอบที่พบหมอ
ป้าคอยสังเกตุวิธี เวลาที่คุณหมอล้วง ขั้นตอนเป็นยังไง สามารถทำเองที่บ้านได้หรือเปล่า สอบถามข้อสงสัย
ทุกสิ่งจิงกาเบล เพื่อจะได้ช่วยหลานรักได้ อีกอย่างคือ ..เซฟตังในเป๋าไปได้เยอะเลย5555
ทุกวันนี้ ป้าทำเองได้คล่องเลยแหละ ใช้วิชานอกตำรา แก้ปัญหาของหลานรักคือ
😍 ไม่ยอมกินน้ำเปล่าใช่ม่ะ ..ก็เอาโยเกริต์ 1ช้อน อาหารเปียก 1ช้อน ผสมน้ำเปล่า ใช้จินตลีลาร่วมด้วยนิดหน่อย คนให้มีเสียง เรียกร้องความสนใจ ปรากฎว่า หลานซดน้ำ หมดถ้วยเลยจ้าาา สำเร็จไปหนึ่งเรื่อง
😍 “อึ” เองไม่ค่อยได้ใช่ม่ะ ป้าช่วยบีบเวลาเค้าเบ่ง ช่วยได้เยอะเลยค่ะ “อึ” คงกลัว ..ป้า มะ หา ปะ ไร..พากันเผ่นออกจากถ้ำกันอย่างไม่คิดชีวิต
😃😃 ..ทุกวันนี้ปัญหาที่พบเพิ่มขึ้นมาคือ หลานมีความอยากเบ่งบ่อยๆ 5555
ปกติคือ เช้า เย็น ..แต่ตอนนี้คือ เช้า สาย บ่าย เย็น ดึดดื่น5555 ยกเว้นตอนหลับ เหมือนมีอาการ ..หูรูดไร้ประสิทธิภาพ.. ประมาณว่า ..แล้วไงอ่ะ ก็อยากเบ่ง จะทำไม.. ป้าก็พูดคำเดียวเลย ..ช้าน รักเค้าาา.. ..ยอมมมมม ช้าน ยอม เจ็บ ปวดดดดด….
..ทุกอย่างกลายเป็นงานหลักไปแล้ว ตั้งแต่ตื่นนอน
..ทุกวันหลานต้องมาที่หนึ่ง
..หลานต้องอิ่มก่อนเสมอ ถ้าไม่จำเป็น จะไม่ออกไปไหน ..คอยตรวจเช็ค อาหาร นม กระดาษ ผ้าเปียก หมดรึยังน้าาา
..งดรับแขกไปโดยปริยาย เพราะไม่ว่างงงง จิง จิงงง😘😘😘
..ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ฝากติดตาม ..😀เพจป้าอยากเล่า😀ในเรื่องต่อๆไปด้วยน้าาาา ขอบคุณมากมายย 😍บายค่ะ😍
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
