8 ส.ค. 2023 เวลา 05:00 • หนังสือ

ยุทธศาสตร์หักเหลี่ยมโหด ยืมมือศัตรูฆ่าเบี้ยของฝ่ายตน

มาคุยเรื่อง สามก๊ก ต่อจากที่เล่าค้างไว้ ก่อนที่จะโดน Oppenheimer กลบ ครั้งก่อนเล่าถึงตอนเล่าปี่พบท่านสุมาเต็กโช ผู้ให้ชื่อคนสองคนที่เขาอาจใช้ทำการใหญ่ได้
คือฮกหลง (มังกรซุ่ม) ขงเบ้ง กับฮองซู (หงส์ดรุณ) บังทอง
บังทองเป็นคนอาภัพ เก่งแต่บุคลิกไม่ดี เมื่อไปสมัครงานที่ค่ายซุนกวน ซุนกวนไม่ประทับใจใน first impression เพราะบังทองหน้าตาอัปลักษณ์ คิ้วหนา หน้าดำ หนวดเครารุงรัง แต่งตัวรุ่งริ่ง
แต่ที่ปรึกษาโลซกมองเห็นความเก่ง ก็เขียน recommendation letter ให้บังทอง
ก่อนจะเล่าต่อ ขอบอกว่าบังทองไม่ได้มีเชื้อสายอินเดีย ไม่ใช่อาบัง และก็ไม่มีทอง ชื่อจีนคือ 龐統 (ผังถ่ง) ไทยเราเรียกว่าบังทอง
บังทองไปสมัครงานที่ค่ายเล่าปี่ต่อ พกจดหมายรับรองจากขงเบ้งไปด้วย
1
แต่เล่าปี่ก็มองคนที่เปลือกนอก ลืมไปว่าในศึกเซ็กเพ็ก แผนห่วงโซ่สัมพันธ์ทำลายกองทัพเรือของโจโฉพินาศเป็นความคิดของบังทอง ผู้โน้มน้าวใจให้โจโฉผูกเรือเข้าด้วยกัน
1
บังทองเห็นกิริยาเล่าปี่ต้อนรับตนอย่างเสียมิได้เช่นนั้น ก็มิได้ยื่นจดหมายฝากฝังของขงเบ้งกับโลซกให้เล่าปี่ ไม่รับก็ไม่รับ
1
อย่างไรก็ตาม เล่าปี่จำคำของอาจารย์สุมาเต็กโชที่บอกความสำคัญของฮกหลง-ฮองซู จึงกล่าวว่า “เวลานี้เมืองลอยเอี๋ยงยังขาดเจ้าเมือง ท่านอาบังไปว่าราชการที่นั่นก่อนเป็นไร เมื่อเกงจิ๋วต้องการตัวท่าน ข้าพเจ้าจะเรียกตัวท่านอาบังมาทันที”
บังทองก็ไปรับตำแหน่งเจ้าเมืองลอยเอี๋ยง ด้วยความน้อยใจ จึงไม่ว่าราชการ วัน ๆ ดื่มสุราจนเมามาย จนชาวเมืองร้องเรียนต่อเล่าปี่ เล่าปี่โกรธ ก็ส่งเตียวหุยไปตรวจสอบ หมายจะปลดกลางอากาศ
เตียวหุยเดินทางไปถึงลอยเอี๋ยง เห็นบังทองดื่มสุรา ก็ด่าทอบังทองอย่างรุนแรงว่า “ท่านเป็นถึงเจ้าเมือง แต่ไม่ทำงาน เสียชื่อท่านเล่าปี่หมด”
บังทองบอกเตียวหุย “ท่านให้คนอย่างข้าพเจ้าทำงานเล็กเช่นนี้ เหมือนฆ่าไก่ใช้มีดโค”
“งานเล็กอันใด? งานปกครองลอยเอี๋ยงมิใช่งานเล็ก”
1
บังทองหัวเราะ “เช่นนั้นหรือ?” แล้วออกว่าราชการ สั่งเสมียนนำงานค้างทั้งหมดออกมา สั่งงานอย่างรวดเร็วจนเสร็จสิ้น ตัดสินคดีที่คาค้าง ใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็เสร็จสิ้นและไร้ข้อผิดพลาด ทำให้ทุกคนที่เห็นตะลึงตาค้าง
1
ทันใดนั้นเล่าปี่ก็รู้ว่าตนมีเพชรในมือ จึงแต่งตั้งบังทองเป็นกุนซือใหญ่ในการบุกเสฉวน
และบังทองก็แสดงความสามารถ ยึดด่านโปยสิก๋วนแห่งเสฉวนมาได้ เป้าหมายถัดไปคือลกเสีย
เล่าปี่ถามที่ปรึกษาหวดเจ้ง “เจ้ารู้จักเส้นทางแถบนี้ดี เราควรรุกลกเสียในเส้นทางใด?”
“มีสองเส้นทางคือสายใต้กับสายตะวันตก ทางสายใต้เป็นทางแคบ ๆ ผ่านซอกเขา ทางสายตะวันตกเป็นทางกว้าง ต้องเดินข้ามเขา เราควรแยกเป็นสองทัพ เข้าตีเมืองสองฟากพร้อมกัน ฝ่ายตรงข้ามจะระส่ำระสาย จุดนี้ฝ่ายเสฉวนก็รู้ ดังนั้นพวกเขาอาจซ่อนกำลังที่ซอกเขาเพื่อทำสงครามจรยุทธ์ ลอบฆ่าเรา”
1
ก่อนการบุกลกเสีย ม้าเร็วส่งจดหมายจากขงเบ้งมาถึง เล่าปี่อ่านจดหมายแล้วบอกบังทองว่า “ขงเบ้งตรวจดูโชคชะตาในการรบครั้งนี้แล้วบอกว่า เราจะเสียคนระดับแม่ทัพ ท่านบังทองควรอยู่รักษาด่านโปยสีก๋วน ข้าฯจะยกทัพไปตีเมืองลกเสียเอง”
บังทองแค่นหัวเราะ บอกเล่าปี่ว่า “ขงเบ้งเป็นศิษย์ผู้น้องของข้าฯ งมงายในเรื่องโชคชะตาฟ้าดิน ท่านเล่าปี่จะทำการใหญ่ ไยเชื่อเรื่องโชคลาง เราควรรุกหน้าต่อ”
2
หวดเจ้งมองบังทองวูบเดียวก็อ่านใจบังทองออกว่ากำลังคิดว่า ขงเบ้งไม่ต้องการให้ตนได้หน้า
เล่าปี่บอกบังทอง “ท่านเป็นกุนซือ ไม่เชี่ยวชาญการรบ ท่านจงใช้เส้นทางตะวันตกเถิด เพราะปลอดภัยกว่า ส่วนข้าฯชำนาญการรบแบบประชิด ขอไปทางสายแคบด้านใต้เอง”
“จะดีหรือ?”
เล่าปี่ยิ้ม กล่าวว่า “หากขงเบ้งอยู่ที่นี่ ก็คงใช้ยุทธศาสตร์นี้”
นัยน์ตาบังทองฉายแววหงุดหงิดทันที
“แต่ขงเบ้งมิได้อยู่ที่นี่ ในความเห็นของข้าพเจ้า ท่านเล่าปี่รุกทางทิศตะวันตกจะเหมาะสมกว่า ท่านเป็นแม่ทัพใหญ่ ไปทางใหญ่ย่อมดูสง่างามสมศักดิ์ศรีกว่า หรือมิใช่?”
“แต่หากขงเบ้ง...”
“ท่านเล่าปี่เชื่อข้าพเจ้าเถิด ความคิดอ่านของข้าพเจ้ามิด้อยกว่าขงเบ้ง”
“ถ้าเช่นนั้นท่านอาบังก็จงระวังตัว ท่านขงเบ้งตรวจดูโชคชะตาแล้วบอกว่า...”
1
บังทองตัดบทว่า “จะทำการใหญ่ มิควรปล่อยให้ชีวิตผูกกับโชคชะตา”
ก่อนเคลื่อนพล ม้าที่บังทองขี่พยศ สะบัดบังทองตกจากหลังม้า เล่าปี่บอกบังทองว่า “ท่านจงเปลี่ยนม้าเถิด ใช้ม้าของข้าฯ ม้าเต๊กเลาชำนาญทางวิบาก อีกทั้งเคยช่วยชีวิตข้าฯมาแล้ว”
บังทองจึงขึ้นขี่ม้าเต๊กเลา คุมกำลังแยกทางไป
ผ่านไปหลายชั่วยาม ม้าเร็ววิ่งมาส่งข่าวว่า “ทัพบังทองถูกโจมตีที่ช่องเขา”
1
เล่าปี่ถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“เราเดินทัพเข้าไปในช่องเขา พอพ้นทางโค้งไป พลันได้ยินเสียงหวีดหวิวแหวกอากาศ ลูกเกาทัณฑ์หลายร้อยดอกแล่นมาจากบนยอดผา ทหารเสฉวนจำนวนหนึ่งบัญชาการโดยเตียวหยิมยิงพวกเราจากข้างบนและซอกหลืบของผา พวกเราเดินเข้าสู่กับดักของฝ่ายเสฉวน เกาทัณฑ์ปักร่างท่านบังทองบนหลังม้าท่วมตัว ตายพร้อมเหล่าทหารจำนวนมาก ที่เหลือถอยออกมาตั้งหลัก ข้าฯผู้น้อยจึงรีบมารายงาน”
2
พวกเขาบุกเข้าไปตลบหลังทัพเตียวหยิมจนล่าถอยไป เล่าปี่และเหล่าทหารรายล้อมมองดูศพของบังทอง เล่าปี่หลั่งน้ำตา คร่ำครวญว่า “กองทัพสูญเสียคนดี ๆ อย่างท่าน”
หวดเจ้งสั่งให้ทหารขุดหลุมฝังศพของทหารที่ตาย เขาหยุดที่ซากศพม้าเต๊กเลาที่นอนตายตาเบิกโพลง พูดกับเต๊กเลาว่า “เจ้าเป็นต้นเหตุให้บังทองถูกฆ่าแทนท่านเล่าปี่ เจ้ามีรูปลักษณ์โดดเด่นจากม้าอื่น ใคร ๆ ก็รู้ว่าเป็นม้าของท่านเล่าปี่ ทหารเสฉวนยิงบังทองเพราะเห็นเจ้า เข้าใจผิดว่าผู้ขี่เจ้าคือเล่าปี่...
1
“ข้าฯรู้ว่าเจ้าสงสัย เจ้ามีคำถาม ข้าฯก็สงสัยและมีคำถามเช่นกัน เจ้าอยากรู้ว่าท่านเล่าปี่ใช้นิสัยขี้ใจน้อยและขี้อิจฉาของบังทอง ยั่วยุให้เขาเลือกไปตามทางแคบใช่หรือไม่ เจ้าอยากรู้ว่าเจ้านายเจ้าตั้งใจส่งเจ้าไปตายหรือไม่ ข้าฯไม่รู้ ข้าฯรู้เพียงว่าชีวิตของกุนซือใหญ่เช่นบังทองมีค่าต่อกองทัพก็จริง แต่ไม่สำคัญเท่าชีวิตของเจ้านายเจ้า บังทองตายได้ แต่ท่านเล่าปี่มิอาจตาย เจ้าเข้าใจหรือไม่? แน่ละ เจ้าเป็นม้า ย่อมไม่เข้าใจ จิตใจคนสลับซับซ้อน อ่านยาก...”
1
หวดเจ้งก้าวออกจากจุดนั้น สั่งทหาร “ขุดหลุมฝังศพม้าด้วย”
คำขยายความ : สามก๊ก เวอร์ชั่นนี้ ตอนนี้ อาจต่างจากเวอร์ชั่นอื่นๆ ในเวอร์ชั่นนี้ผมเสนอทฤษฎีว่า เล่าปี่อาจเจตนาใช้บังทองเป็นเบี้ยให้ตายแทนตน เพราะเบี้ยไม่ว่าตำแหน่งสูงแค่ไหนก็ตายได้ แต่ขุนต้องอยู่
2
นี่อาจบอกเราทางอ้อมว่า บางทีซุนกวนกับเล่าปี่ไม่ได้มี first impression ที่ไม่ดีต่อบังทอง แต่อ่านออกว่าบังทองฉลาดมาก จนวันหนึ่งอาจขึ้นมายึดอำนาจตน (ทางฝั่งโจโฉก็มีกรณีเอียวสิ้ว ฉลาดเกินไป โจโฉจึงกุดหัวเสีย)
1
นี่เป็นทฤษฎีให้คิดเล่นๆ เท่านั้น แต่บังเอิญมาตรงกับสถานการณ์การเมืองของหลายประเทศในปัจจุบัน ในการเมืองสหรัฐฯตอนนี้ เราเห็นภาพนักการเมืองรุ่นพี่เตะขารุ่นน้องพรรคเดียวกัน เช่น ทรัมป์พยายามสกัด ไมก์ เพนซ์ กับ Ron DeSantis อดีตลูกน้องที่บังอาจทาบรัศมี แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะเสือหลายตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้
2
บางครั้งเตะขาตรงๆ บางครั้งก็ต้องหักเหลี่ยมโหด ยืมมือศัตรูฆ่าเบี้ยของฝ่ายตน
ปัญหาคือเสือบางตัวไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเบี้ยมาตลอด
1
ย่อความบางส่วนมาจาก สามก๊ก ฉบับ วินทร์ เลียววาริณ มีจำหน่ายในเว็บไซต์ winbookclub.com / ส่วนชุดโปรโมชั่นรวมมิตร (R1-R2) มีจำหน่ายทั้งในเว็บและ Shopee (ค้นคำ namol113)
โฆษณา