เล่าเบื้องหลัง แคมเปญ “กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม”
เริ่มต้นจากการประชุมยุทธศาสตร์ใหญ่ของพรรคก้าวไกล ซึ่งมีทั้ง ทีมแคมเปญ และ ทีมนโยบาย ของพรรคก้าวไกล ในช่วง ม.ค 66 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกพรรคการเมืองต่างเตรียมความพร้อมเข้าสู่ สนามเลือกตั้งอย่างเต็มตัว
ในขณะที่พรรคการเมืองใหญ่ พรรคเพื่อไทย เปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่ว่า “คิดใหญ่ ทำเป็น” แต่ในขณะที่ก้าวไกลในช่วงเวลานั้นยังใช้ Narrative (Motto) แคมเปญว่า “ต้องก้าวไกล ให้ไทยก้าวหน้า” ทำให้เป็นโจทย์ใหญ่ของพรรคก้าวไกล ว่าควรที่จะเปลี่ยน motto แคมเปญ หรือไม่
ทุกคนรู้ดีว่าเป็นการแข่งขันครั้งสำคัญระหว่าง พรรคเพื่อไทย และ พรรคก้าวไกล ซึ่งต่างฝ่ายต่างงัดจุดแข็งของตัวเองขึ้นมานำเสนอ เพื่อช่วงชิงคะแนนเสียงของประชาชน ว่าทำไมถึงต้องเลือก พรรคก้าวไกล แทนที่ จะเลือก พรรคเพื่อไทย
ข้อเสียเปรียบของพรรคก้าวไกล เมื่อเทียบกับพรรคการเมืองอื่น ก็คือ ยังไม่มีผลงานในฐานะฝ่ายบริหาร ดังนั้น จึงเป็นโจทย์ที่ไม่ง่ายของพรรคก้าวไกล แต่จุดแข็งที่เป็นที่ยอมรับของพรรคก้าวไกล คือ จุดยืน อุดมการณ์ที่หนักแน่น ชัดเจน ตรงไปตรงมา และผลงานในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติที่สะท้อนตัวตนของพรรคก้าวไกลได้ชัดเจนว่า พรรคก้าวไกล ต้องการเห็นประเทศพัฒนาไปในทิศทางใด
ในขณะเดียวกัน เสียงสะท้อนจากประชาชน ผ่านแกนนำและผู้สมัครทุกคน ในการลงพื้นที่ พบปะ ประชาชนในทุกพื้นที่ สะท้อน ความรู้สึก เบื่อหน่ายในการเลือกตั้งอย่างชัดเจนว่า “เลือกใครไป ก็เหมือนเดิม” “เลือกตั้งที่ครั้ง ก็เหมือนเดิม” ส่วย คอรัปชั่น ของแพง ค่าแรงถูก ความต้องการปฏิรูปประเทศ ไม่เคยสำเร็จ ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ตาม
ดังนั้นผมจึงมีการเสนอว่า พรรคก้าวไกล ควรจะชู Motto ที่ฉีกจากพรรคอื่น ที่ฉายภาพใหญ่ว่า เป้าหมายของพรรคก้าวไกล คือ การสร้างความเปลี่ยนแปลง ทำให้ประเทศไทยไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม และสอดคล้องในการเปลี่ยนจุดอ่อนของพรรคก้าวไกล ให้กลายเป็นจุดแข็งที่ว่า พรรคก้าวไกล ยังไม่เคยได้มีโอกาสบริหารประเทศเลย ถ้าประชาชนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ต้องให้โอกาสพรรคก้าวไกลบริหารประเทศดู
จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ การตัดสินใจ โดยทีมแคมเปญ ในการใช้ Motto “กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” และกลายเป็นแคมเปญที่ ชนกันกับ “คิดใหญ่ ทำเป็น”
เสริมกับความเป็นจริงในหลากหลาย นโยบาย ของพรรคก้าวไกล ที่ประเมินแล้ว มั่นใจว่า หลายนโยบายที่พรรคก้าวไกลนำเสนอ ถ้าทำสำเร็จแล้ว จะเป็นสิ่งที่ ไม่มีวันย้อนกลับไปเหมือนเดิมได้อีกต่อไป
ไม่ว่าจะเป็น ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร, สวัสดิการถ้วนหน้า, ทลายทุนผูกขาด, ผู้ว่าฯเลือกตั้ง, สมรสเท่าเทียม เพราะนโยบายต่างๆ เหล่านี้ ถ้าทำสำเร็จแล้ว จะไม่มีรัฐบาลไหน กล้าเปลี่ยนแปลงกลับไปเหมือนเดิมแน่นอน เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนและได้ประโยชน์แน่ๆ
ซึ่งผมเองเคยใช้เป็น คำปราศรัยในหลากหลายโอกาส ในการณรงค์นโยบายกระจายอำนาจ เพื่อให้เกิด ผู้ว่าฯเลือกตั้ง ทุกจังหวัด เพราะถ้าทำได้สำเร็จแล้ว ขอโอกาสเพียงครั้งเดียว จะไม่มีรัฐบาลไหน ย้อนกลับ มาทำให้ผู้ว่าฯ มาจากการแต่งตั้งได้อีก ดังนั้นสิ่งที่พรรคก้าวไกลต้องการ จึงเป็นเพียงโอกาสแค่เพียงครั้งเดียว ในการทำ นโยบายที่ ประชาชนคนส่วนใหญ่ คาดหวัง และต้องการให้เกิดขึ้นมานานมากแล้วให้สำเร็จ
และผลเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. 66 ล้วนพิสูจน์ว่า ประชาชนคนไทย ตัดสินใจเลือก ที่จะอยากเห็นประเทศไทย ที่มีการเปลี่ยนแปลง ประเทศไทย ที่ไม่เหมือนเดิม แต่น่าเสียดายสิ่งที่ประชาชนได้เห็น ภายในไม่กี่เดือนหลังการเลือกตั้งชัดเจน คือ “การเมือง” ที่อาจจะยังคงเหมือนเดิม แต่ประชาชนจะเป็นคนบอกนักการเมืองในอนาคตเองว่า “ผลลัพธ์” จะจบไม่เหมือนเดิม #กาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิม
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
