13 ส.ค. 2023 เวลา 02:38 • ท่องเที่ยว
Cotswold District

ขับรถตะลุยเดี่ยวเที่ยว Cotswolds เมืองในเทพนิยาย…กับทริปที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิต

Chapter 64/1: Cotswolds
ได้มาเที่ยว Cotswolds เมืองในฝันแล้ว ดีใจมากกกกที่สุด แถมทริปนี้ตะลุยเดี่ยวเที่ยวคนเดียวซะด้วย จะเป็นไง จะลุ้นแค่ไหน มาอ่านกันเลยค่ะ
ทริปนี้เกิดมาจากได้ไปเห็นคลิปใน youtube คลิปนึงที่ชื่อ "Cotswolds Most Beautiful Villages to Visit in England" โห…ตั้งชื่อซะต้องเข้าไปดูเลย พอดูจบบอกตัวเองต้องไปละที่นี่ เมืองไรไม่รู้น่ารักโคดๆ หยั่งกะออกมาจากเทพนิยายแน่ะ ละไหนๆ เราก็มีวีซ่าอังกฤษอยู่แล้วต้องใช้ให้มันคุ้มซะหน่อย
ศึกษาข้อมูลอยู่พักใหญ่จากนั้นก็เริ่มทำทริปของตัวเองขึ้นมาว่าจะเดินทางไปยังไง ต้องไปพักที่ไหน และจะไปกี่วันดี
สำหรับทริปนี้เราจะไปอังกฤษ 9 วัน และเราวางแผนที่จะไปเที่ยว Cotswolds 3 วัน กะว่าจะไปเก็บให้ได้ซัก 10 หมู่บ้านที่คัดมาละว่าน่ารัก ส่วนหมู่บ้านอื่นๆ ที่ไม่ได้ไปดูแล้วน่าจะใกล้เคียงกัน โดยวันแรกหลังจากลงเครื่องปุ๊บก็จะเช่ารถขับออกจากสนามบิน Heathrow ไปเลย เพราะต้องไปทางนี้อยู่แล้ว จะได้ประหยัดเวลาไปในตัว
อ้อ !!! ทริปนี้ตื่นเต้นมากที่สุดในชีวิตและถือเป็นทริปที่ adventure ที่สุดของเราเลยนะเนี่ย เพราะนอกจากจะต้องขับรถออกไปนอกเมืองแล้ว ยังเป็นการขับรถคนเดียวในต่างประเทศเป็นครั้งแรกด้วย ตอนเขียนนี่ยังรู้สึกสนุกตื่นเต้นไม่หายเลยเอาจริงๆ 😆
ที่พักใน Cotswolds เราเลือกพักบ้าน Airbnb ในเมือง Cheltenham ใน Cotswolds นี่แหละ สาเหตุที่เลือกเมืองนี้เพราะเป็นเมืองค่อนข้างใหญ่ มีร้านอาหารร้านขายของเยอะ ดูแล้วน่าจะสะดวกสำหรับเรามากกว่าพักในเมืองอื่นๆ เพราะแต่ละหมู่บ้านดูเล็กมากๆ เป็นชุมชนเงียบๆ อาจจะหา supermarket ร้านอาหารยากอยู่ และการเดินทางจาก Cheltenham ไปหมู่บ้านต่างๆ ก็ไม่ไกลเท่าไหร่ ประมาณ 20 นาทีถึงซึ่งโอเคมากๆ
ส่วนเรื่องเช่ารถ ความที่เราไม่เคยเช่าเองมาก่อนเลย พี่ๆ เป็นคนจัดการซะทุกครั้ง พอคราวนี้ต้องทำเองก็เลยเอ๋อๆ หน่อย อาศัยหาอ่านเอาใน pantip ว่าบริษัทไหนดูโอเค ก็เลยได้เป็นรถเช่าของ Budget เพราะเค้ามีรถรับส่งจากสนามบินไปที่ศูนย์รับรถด้วย สะดวกดี
 
อ่ะ…จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ไปกันเลยค่า
วันแรกของการเดินทาง เราไปกับการบินไทยเหมือนเดิม ซึ่งก็ได้รับการบริการที่ดีมากๆ เหมือนเช่นเคย (เราเดินทางเดือนกรกฎาคม) ลูกเรือเสริฟอาหารไม่หยุด และที่สำคัญเวลาไฟล์ทนี้คือดีเพราะออกจากกรุงเทพฯ ประมาณตีหนึ่ง ถึงที่ลอนดอนประมาณ 7 โมงเช้า (เวลาที่อังกฤษ)
ขึ้นเครื่องปุ๊บก็อัดเมลาโทนินก่อนเลย นอนมันให้เยอะๆ เพราะเดี๋ยวลงไปต้องขับรถอีกประมาณ 2 ชั่วโมงไม่อยากเบลอ สรุปได้นอนไปทั้งหมดประมาณ 5 ชั่วโมงถือว่าเป็นสถิติที่ดีมากของตัวเองเพราะปกติเป็นคนหลับยากมากๆ นอนได้แค่ประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถือว่าเก่งละ
ถึงแล้ว London มองเห็น Big Ben, London Eye กันมั้ย
แต่ที่ทำให้เหนื่อยคือวันนั้นกว่าจะผ่าน ต.ม. ออกมาได้ต้องใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง 😩 คนเยอะมากกกก เพราะเจอเครื่องลงพร้อมๆ กันหลายลำพอดีคนก็เลยยิ่งเยอะเข้าไปอี๊กกก หลังจากผ่าน ต.ม. ออกมากระเป๋าก็มารอท่าอยู่นานสองนานละ ดีนะที่ไม่หายเสียวมากเลย
1
รับกระเป๋าเสร็จก็ไปที่ Bus Stop 7–8 เลยเพราะต้องไปขึ้นรถ Shuttle Bus ของบริษัทเช่ารถที่นั่น ใครเช่ารถเจ้าไหนก็หาข้อมูลจากบริษัทเช่ารถดูนะว่าเค้ามีบริการรถ Shuttle Bus มั้ยและที่สำคัญบางเจ้ามีบริการจริงแต่เก็บค่ารถก็มี เราอ่านเจอมา แต่ของ Budget ไม่มีค่าบริการนะคะ
1
ไปถึงศูนย์รับรถของ Budget ละก็ทำเรื่องรับรถ เราเช่ารถไซส์ M คือไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ขับละจะได้ไม่ปลิวมั่นคงๆ หน่อย ตอนจองเราได้เป็นรถ Citron รุ่นเก่าหน่อย ตอนนั้นในเวปไม่มีรถเหลือให้เลือกเท่าไหร่ แต่ตอนไปรับรถปรากฎว่า จนท. เปลี่ยนเป็นรถ Nissan Juke ปี 2023 ให้ดีมากๆ เลยขับดีมาก ค่าเช่ารถของเรา 3 วัน ราคาประมาณ 13,900 บาท
ศูนย์รับรถของ Budget ที่สนามบิน Heathrow
อ้อ !!! ตอนจองอย่าลืมดูด้วยนะว่าเป็นรถเกียร์ออโต้หรือเกียร์ธรรมดา ราคาก็จะต่างกันนิดหน่อย
และเราก็ซื้อประกันเพิ่มด้วยที่เคาน์เตอร์รับรถ เป็นเงิน 123 ปอน์ดตกประมาณ 5,500 บาท คิดว่า…เอาวะ มาคนเดียวอย่างกมากเลยเผื่อรถเกิดเสียกลางทาง หรือโดนใครมาเฉี่ยวชนเป็นแผลเป็นรอยจะได้ไม่ต้องโดนเคลมทีหลัง ถือคติ "ซื้อไว้จะได้ไม่เกิดเรื่อง" สิริรวมค่าเช่ารถประมาณ 19,400 บาท ประกันแพงชะมัด เพิ่งมารู้ด้วยนะว่าถ้าซื้อไปตั้งแต่ตอนจองในเวปจะถูกกว่ามาซื้อที่นี่ครึ่งนึงเลย 😢
ทำเรื่องรับรถเสร็จ จนท. ก็จะบอกว่ารถเราจอดอยู่ตำแหน่งไหน ต้องเดินออกไปหาเองไม่มีคนพาไป เราก็เดินออกมาตามทางเลย ของเราจอดอยู่ที่ E18
เจอละ…เพื่อนร่วมทางคนสวยของเรา 😉
โชคดีที่เค้าเปลี่ยนเป็นรถรุ่นนี้ให้ แถมสะอาดด้วย (เคยเจอรถเช่าที่อเมริกาสกปรกมากเลย คงไม่มีเวลาทำความสะอาดกันเลย คนเช่าก็ใช้ซะไม่บันยะบันยังเลย) หลังจากตรวจรอบคันว่าไม่มีแผลอะไรก็ออกเดินทางกันเลยค้าบบบ
 
ป.ล. ตรงทางออกจะมี จนท. ตรวจเอกสารจากเราอีกทีถ้าเราไม่เคลมว่าพบอะไรผิดปกติในเอกสารนั้นก็จะถือว่าเรารับรถเรียบร้อยค่ะ
หญิงเดี่ยว…พร้อมลุยละค้าบ
เราเตรียมที่ติดมือถือในรถไปด้วยจะได้สะดวกไม่ต้องหาที่วาง ส่วน GPS ไม่ได้เตรียมมากะใช้ Google Map นี่แหละเพราะอ่านมาคนส่วนใหญ่บอกว่าพอ และรถที่เค้าให้มาก็มี GPS ในตัวพอดี เลยเปิด 2 อย่างคู่กันไปเลย เผื่อตรงไหนซรวยเจออับสัญญาณก็ยังพอมี GPS ช่วย
ขับรถบนถนน Motorway ของที่นี่ปลอดภัยและมันส์มากแต่เราต้องเคารพกฎจราจรด้วยนะ เพราะเค้าจะมีป้ายบอกชัดเจนตลอดทางจุดไหนขับได้เท่าไหร่ ซึ่งบน dashboard ของรถ และ Google Map ก็โชว์ด้วยเหมือนกันทำให้เราคอยระวังตัวไม่ขับเร็วเกินกำหนด ค่าปรับที่นี่โหดมาก
บน Motorway ส่วนใหญ่ให้ขับได้ 70 mph (ไมล์ต่อชั่วโมง) หรือประมาณ 110 kmh (กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ยกเว้นเข้าเขตเมือง และรถทุกคันเค้าเคารพกฎจราจรมากๆ พอแซงขวาเสร็จก็จะหลบเข้าเลนซ้าย ไม่มีใครขับแช่เลนขวาสุดเหมือนบ้านเราเลยทำให้รถทุกคันสามารถทำความเร็วได้
แต่ที่ต้องระวังให้ดีคือ Roundabout หรือวงเวียนเพราะที่อังกฤษจะใช้วงเวียนตามสี่แยกแทนการใช้ไฟแดงไม่ว่าจะบน Motorway หรือในเมือง ซึ่งเราว่าดีมากๆ เลยนะทำให้รถไหลไปได้เรื่อยๆ ไม่ต้องจอดติดไฟแดง
วิธีก็คือดู GPS ดีๆ ว่าต้องออกที่ทางออกไหนค่อยๆ ขับไม่ต้องรีบ เราพลาดไปทีนึงเพราะรีบขับกลัวคันข้างหลังด่าเลยขับเลยแยกที่ต้องออกเลย ต้องไปกลับรถที่วงเวียนข้างหน้าที่อยู่ห่างไปอีก 7 กิโลแน่ะ 🥲
โดยสรุปคือ การขับรถที่อังกฤษค่อนข้างง่าย เพราะสัญญาณจราจรชัดเจน มีอยู่ทุกช่วง ไม่ว่าจำกัดความเร็ว พ้นไหล่ทาง ทางชัน ทางแยก เขตทำถนน ฯลฯ ขับแรกๆ ก็เกร็งๆ พอขับไปซักครึ่งชั่วโมงเริ่มชินขับได้คล่องขึ้น ประหม่าน้อยลง เริ่มมีแซงบ้าง
และที่สำคัญความที่ทุกคนบนท้องถนนเคารพกฎจราจร ทำให้เราไม่ต้องกังวลเลยว่าจะมีใครสุ่มสี่สุ่มห้าพุ่งออกมาจากข้างทาง หรือปาดเข้ามาในวงเวียน ดีมากๆ เลยค่ะ
หลังจากขับเลยบ้าง หลงบ้าง ในที่สุดก็ถึงเมือง Cheltenham…เย้ 🎉 ดีใจเป็นที่สุด การเดินทางในวันนี้ใกล้สิ้นสุดแล้ว เหลืออีกฮึบเดียวคือต้องเอารถไปจอดในจุดที่เจ้าของบ้านบอกเอาไว้ จะจอดสุ่มสี่สุ่มห้าแบบตรงนี้ว่างจอดซะเลยแบบบ้านเราไม่ได้นะ ไม่งั้นโดนค่าปรับนะจ๊ะ
หลังจากจอดรถเสร็จฝนที่ตกมาตั้งแต่มาถึงลอนดอนที่จนบัดนี้มันก็ยังไม่หยุดตก (ดีที่ฝนที่นี่ตกแบบฝอยๆ ไม่ได้ตกเป็นห่าใหญ่แบบบ้านเรา) เราก็เลยต้องเดินลากกระเป๋าไปทั้งเปียกๆ จากที่จอดรถจนเข้าบ้านได้ในที่สุด
1
เข้าทางประตูหลังบ้าน
บ้าน Airbnb ที่เราเช่าจะเป็นห้องชั้นล่างทั้งชั้น ส่วนเจ้าของบ้านจะอยู่ชั้นบนตรงประตูสีฟ้าที่เห็น
มีชื่อบ้านด้วยนะชื่อ Little Portland น่ารักเชีย เข้าไปในบ้านก็จะเจอห้องครัวและโต๊ะทานข้าวเล็กๆ
ห้องครัว
ถัดมาก็เป็นโถงทางเดินที่นำไปห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ
ทางเดินแต่งซะน่ารักเชียว
ห้องนั่งเล่นถึงจะอยู่ชั้นล่างต่ำกว่าถนนแต่ก็ยังได้แสงสว่างจากด้านนอก
ห้องนั่งเล่น
ถัดมาเป็นห้องน้ำซึ่งขนาดใหญ่พอสมควร ด้านหน้ามีราวแขวนเสื้อไว้ให้พร้อม
ห้องน้ำ
ห้องน้ำเค้าจะ keep look ให้ดูโบราณหน่อยๆ แต่จริงๆ เป็นของใหม่ทั้งหมดนะ ขนาดฝาชักโครกยังมีโช็คกันหล่นเลย (ไม่รู้เรียกถูกรึป่าว)
สุดท้ายเป็นห้องนอนที่ขนาดกำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่ นอนคนเดียวไม่วังเวง
เจ้าของบ้านเค้าใส่ใจแขกมากๆ ตอนเราเปิดประตูเข้ามาในบ้านก็มีเสียงเพลงเปิดรอต้อนรับ มีตะกร้าขนม เครื่องดื่มในตู้เย็นให้พร้อม แถมก่อนมาเจ้าของบ้านยังถามเราด้วยว่าแพ้อาหารอะไรมั้ย เพราะเค้ามี stock อาหารแช่แข็งไว้ให้ด้วยเผื่ออยากกินอะไร ในบ้านก็มีกลิ่นอโรมาหอมๆ และสะอาดมากๆ เราไม่เคยเจอที่พักที่ใส่ใจแขกขนาดนี้มาก่อน ประทับใจมากๆ เลย
 
เก็บของแล้วก็ต้องออกไปหาซื้อสะเบียงเช่นเคย เปิด Google map หา Supermarket ใกล้บ้านมี Tesco เดินประมาณ 10 นาที ป่ะไปดูกัน
ระเบียงห้องเรา น่ารักเนอะ
ดีว่า Tesco นี้อยู่ในเมืองพอดี จะได้เดินสำรวจเมืองซักหน่อย ตอนนี้ฝนหยุดละด้วย
โบสถ์ข้างบ้านเมือง
Cheltenham (เชลต์นัม) อยู่ในเขต Gloucestershire (กลอสเตอร์เชอร์) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ เป็นเมืองขนาดใหญ่และดูเป็นเมืองค่อนข้างใหม่ถ้าเทียบกับหมู่บ้านอื่นๆ ใน Cotswolds ที่เราจะไปเที่ยวกันในวันพรุ่งนี้
ใจกลางเมืองจะคึกคักหน่อย
ในอดีตเมื่อปี ค.ศ. 1716 มีการขุดพบน้ำพุน้ำแร่ที่เมือง Cheltenham จากนั้นก็มีนักลงทุนเห็นโอกาสเลยเริ่มทำสปาแห่งแรกขึ้นที่นี่และพัฒนาจนกลายเป็นสถานที่พักผ่อนของคนชั้นสูง ถึงขนาดที่พระเจ้าจอร์จที่ 3 และพระราชินีก็ยังเคยเสด็จมาที่สปาของเมืองนี้ จนทำให้ Cheltenham กลายเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งสปาและรีสอร์ทเพื่อสุขภาพในเวลาต่อมา
ออกมาเจอผู้คนบนถนนค่อยรู้สึกมีชีวิตชีวาหน่อย
เจอละจุดหมายของเรา เข้าไปหาซื้อของกินตุนไว้หน่อย เพราะเราจะนอนที่นี่ 2 คืน
ได้ของที่ต้องการครบละก็เดินกลับบ้านต่อ
เป็นเมืองที่น่ารักดีเหมือนกันนะ มีสวนสาธารณะที่เจ้าของบ้านแนะนำให้ไปเดินด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้ถ้ามีเวลาว่าจะเดินไปดูซักหน่อย แต่วันนี้เหนื่อยเหลือเกิน เพราะตั้งแต่ลงจากเครื่องก็ต้องทำโน่นทำนี่เยอะแยะ และก็ขับรถแบบลุ้นๆ มาตลอดทาง นึกว่าไม่เหนื่อยเอาจริงก็เหนื่อยเหมือนกันนะ 😵
Blog นี้ก็เป็นการแนะนำการเดินทางมาเที่ยว Cotswolds ประมาณนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยว Blog ต่อไปจะพาเที่ยวของจริงแล้ว มาติดตามกันต่อนะคะว่าแต่ละหมู่บ้านจะสวยขนาดไหน เหมือนหมู่บ้านในเทพนิยายมั้ย สำหรับ Blog นี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ 😊
#Cotswolds #เที่ยวอังกฤษ #เที่ยวต่างประเทศ
#jwanderlust

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา