11 ส.ค. 2023 เวลา 06:08 • กีฬา

ลำดับเหตุการณ์ล่าตัวไคเซโด้ และ ลาเวีย ดวลเดือดหงส์-สิงห์ เหมือนหนังแอ็คชั่น

สงครามการไล่ล่าตัวมอยเซส ไคเซโด้ และ โรเมโอ ลาเวีย ของลิเวอร์พูลกับเชลซี ชิงไหวชิงพริบกันราวกับภาพยนตร์ ก่อนที่บทสรุป (อาจจะ) เป็นหงส์แดง เตรียมสร้างสถิติพรีเมียร์ลีก คว้าตัวนักเตะในราคามหาศาลถึง 110 ล้านปอนด์
เรื่องราวเป็นอย่างไร และทั้งสองทีมต่อสู้กันแค่ไหน เราจะไปลำดับไทม์ไลน์อย่างเข้าใจง่ายตั้งแต่แรกครับ
[ 21 พฤษภาคม ] - กองกลางลิเวอร์พูล 3 คน ประกาศอำลาทีม นั่นคือเจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิต้า และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ทำให้สล็อตในแผงมิดฟิลด์หายไปถึง 3 คน และสโมสรจำเป็นต้องหาตัวผู้เล่นใหม่มาทดแทน
[ 7 มิถุนายน ] - หนังสือพิมพ์มาร์ก้า รายงานว่า จู๊ด เบลลิงแฮม เป้าหมายที่ลิเวอร์พูลเล็งมาอย่างยาวนาน ตัดสินใจเซ็นสัญญาย้ายไปเรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 115 ล้านปอนด์ (รวมอ็อปชั่นทุกอย่าง) รับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์
1
สิ่งที่เรอัล มาดริด มีเหนือกว่าหงส์แดง คือฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ ค่าเหนื่อยสูงถึง 2 แสน ในสัญญา 6 ปี ดังนั้นดีลเบลลิงแฮมจึงล่มไปสำหรับทีมหงส์แดง
1
หลังจากข่าวหลุดมาได้ระยะหนึ่ง สุดท้ายเบลลิงแฮมก็ย้ายไปเรอัล มาดริดจริงๆ ในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา ไม่มีอะไรพลิกโผ
[ 8 มิถุนายน ] - เมื่อเบลลิงแฮมไม่เลือกหงส์แดง ลิเวอร์พูลเดินหน้าไปที่เป้าหมายอื่น และ ตัดหน้าบิ๊กทีมทั่วยุโรป คว้าตัวกองกลางแชมป์โลกจากไบรท์ตัน อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ในราคา 35 ล้านปอนด์ ที่ซื้อได้ถูกขนาดนี้ เพราะทีมหงส์แดงค้นพบ "ค่าฉีกสัญญา" รู้ว่าถ้าจ่ายในราคานี้ ไบรท์ตันจะโดนบังคับขายทันที จึงเดินเกมรุกแล้ว คว้าตัวมาครองได้ก่อนทีมอื่นจะไหวตัวทัน
[ 3 กรกฎาคม ] - โดมินิค โซโบสไล ย้ายจากไลป์ซิกมาลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ ด้วยสัญญา 5 ปี โซโบสไล อายุ 22 ปี สามารถใช้การได้อีกนาน สถิติบอกว่า ในฤดูกาลที่แล้วกับไลป์ซิก เขามีจำนวนประตู, จำนวนแอสซิสต์, ยิงตรงกรอบ, สร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อน มากกว่ากองกลางของลิเวอร์พูลทุกคน
[ 15 กรกฎาคม ] - ฟาบินโญ่ ได้รับข้อเสนอก้อนโตจากอัล-อิตติฮัด สโมสรในซาอุดิอาระเบีย ด้วยตัวเลข 40 ล้านปอนด์ นี่เป็นข้อเสนอที่ทีมหงส์แดงปฏิเสธไม่ได้ เพราะฟาบินโญ่จะอายุ 30 ปี ในเดือนตุลาคมนี้ นี่จะเป็นโอกาสเดียวที่ทีมจะปล่อยตัวแล้วได้ราคาดีขนาดนี้ (note : ลิเวอร์พูลซื้อฟาบินโญ่จากโมนาโก ในราคา 43 ล้านปอนด์ เมื่อ 5 ปีก่อน) ตัวฟาบินโญ่เองก็อยากย้าย รายงานบอกว่า เขาจะได้รับค่าเหนื่อย 700,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ มากกว่าที่รับอยู่กับลิเวอร์พูล 4 เท่า
[ 18 กรกฎาคม ] - เชลซีสโมสรในพรีเมียร์ลีก พวกเขาเสียกองกลาง 4 คน ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา คือ มาเตโอ โควาซิช, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, รูเบน ลอฟตัส ชีค และ เมสัน เมาท์ ดังนั้นจึงต้องการมิดฟิลด์มาเสริมทัพอย่างเร่งด่วน โดย Priority เบอร์ 1 คือ มอยเซส ไคเซโด้ กองกลางชาวเอกวาดอร์ของไบรท์ตัน โดยยื่นข้อเสนอ 70 ล้านปอนด์ให้พิจารณา แต่ไบรท์ตันปฏิเสธทันที เพราะโรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ผู้จัดการทีมยืนยันว่า ต้องการเก็บไคเซโด้ไว้ใช้งานในซีซั่น 2023-24 ที่กำลังจะมาถึง
[ 27 กรกฎาคม ] - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม อัล-เอตติฟัค ในซาอุดิอาระเบีย เพราะได้ค่าจ้างมหาศาล 700,000 ปอนด์ต่อวีก คือสำหรับนักเตะที่อาจเซ็นสัญญาฉบับสุดท้ายแล้ว ก็จำเป็นต้องกอบโกยเงินให้มากที่สุดก่อนเลิกเล่น นี่เป็นชอยส์ที่สมเหตุสมผล ส่วนลิเวอร์พูลก็โอเค เพราะได้ค่าตัว 10 ล้านปอนด์ สำหรับนักเตะอายุ 33 ปี เป็นตัวเลขที่รับได้
[ 28 กรกฎาคม ] - เชลซี ยื่นข้อเสนอซื้อตัวไคเซโด้ รอบที่สอง ด้วยตัวเลข 80 ล้านปอนด์ แต่ไบรท์ตันยังไม่ยอมขาย โดยยืนยันว่า ราคาที่พร้อมจะปล่อยคือ 100 ล้านปอนด์
[ 31 กรกฎาคม ] - ฟาบินโญ่ย้ายออกจากลิเวอร์พูลอย่างเป็นทางการ เท่ากับว่า ทีมหงส์แดงเสียกองกลางไป 5 คนพร้อมกัน ในซัมเมอร์เดียว (เกอิต้า, มิลเนอร์, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ฟาบินโญ่, เฮนเดอร์สัน) แต่ได้มาใหม่แค่ 2 คน คือแม็คอัลลิสเตอร์ กับ โซโบสไลเท่านั้น
[ 2 สิงหาคม ] - ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมอุ่นเครื่อง นัดที่แข็งที่สุด กับบาเยิร์น มิวนิค แชมป์บุนเดสลีกา และตัดสินใจใช้ 3 มิดฟิลด์เล่นด้วยกัน คือ แม็คอัลลิสเตอร์, โซโบสไล และ เคอร์ติส โจนส์ ปรากฏว่ากองกลางหลวมโพรก เพราะไม่มีมิดฟิลด์ตัวรับธรรมชาติเลยสักคนเดียว มีแต่สายเกมบุก สุดท้ายโดนบาเยิร์น ยิงไป 4 ลูก แพ้ไป 4-3
จริงๆ ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ จะฝืนใช้แม็คอัลลิสเตอร์ก็ได้ หรือดันเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ขึ้นมา หรือแม้แต่จะให้โอกาสสเตฟาน บายเซติชก็ได้ แต่มันก็ย่อมดีกว่าแน่นอน ถ้ามีตัวรับมืออาชีพ แบบโรดรี้, คาเซมิโร่ หรือ ฟาบินโญ่ คุ้มครองแผงหลังสักหนึ่งคน
[ 7 สิงหาคม ] - มอยเซส ไคเซโด้ ตัดสินใจบอยคอตต์ ไม่ยอมมาซ้อมกับไบรท์ตัน และเก็บข้าวของในล็อกเกอร์ที่สนามซ้อม เพื่อบีบให้ต้นสังกัดขายให้เชลซี แต่ไบรท์ตันไม่ได้แคร์ เพราะนักเตะมีสัญญากับสโมสรถึงปี 2027 ไบรท์ตันแค่อยู่นิ่งๆ ถ้าเชลซีอยากได้ ก็ต้องเพิ่มราคาให้สูงกว่านี้ กำหนดตัวเลขเอาไว้แล้วที่ 100 ล้านปอนด์
รายงานเผยว่า ไคเซโด้ ตกลงค่าเหนื่อยกับเชลซีได้หมดแล้วทุกอย่าง เหลือแค่ให้สองสโมสรตกลงราคากันได้เท่านั้น แต่ดีลก็ยังไม่เกิดขึ้นเสียที เพราะเชลซี ไม่อัพราคาถึงตัวเลขที่ไบรท์ตันตั้งใจไว้
1
ตัวไคเซโด้ และ เชลซี เห็นตรงกันว่า ตัวเลข 80 ล้านปอนด์ นี่ก็แพงมหาศาลมากแล้ว ไม่น่าจะมีใครจ่ายซื้อนักเตะแพงกว่านี้อีกแล้ว คือย้อนกลับไปในเดือนมกราคม ตอนที่อาร์เซน่อลยื่นข้อเสนอให้ไบรท์ตัน ก็อยู่ที่ตัวเลข 70 ล้านปอนด์เท่านั้นเอง
เชลซีมั่นใจว่าท้ายที่สุดแล้ว ไบรท์ตันก็ต้องยอมขายนั่นแหละ ในอดีตพวกเขาก็คว้าทั้งนักเตะ และ โค้ช ไบรท์ตันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ เกรแฮม พอตเตอร์ และ มาร์ค คูคูเรลย่า
[ 8 สิงหาคม ] - กองกลางลิเวอร์พูลเหลือใช้งานแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ติอาโก้ อัลคันทาร่า ยังไม่ฟิตพอ จากอาการบาดเจ็บสะโพก ส่วนสเตฟาน บายเซติช ยังมีอาการเจ็บที่กล้ามเนื้อขา ในเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายกับดาร์มสตัดท์ คล็อปป์ถอยโคดี้ กั๊กโป มาเล่นกองกลางแทน แต่ก็ยังไม่ลงตัวนัก แม้จะชนะ 3-1 แต่ก็เก็บคลีนชีทไม่ได้ ดังนั้นการไล่ล่าหามิดฟิลด์ก่อนซีซั่นจะเริ่มจึงระเบิดขึ้นอีกครั้ง
[ 9 สิงหาคม ] - ลิเวอร์พูลยื่นข้อเสนอซื้อตัว โรเมโอ ลาเวีย กองกลางวัย 19 ปีชาวเบลเยี่ยม ของเซาธ์แฮมป์ตัน ที่เป็นกองกลางตัวรับ ที่มีแววดี ด้วยข้อเสนอ 3 ครั้ง ได้แก่ 34 ล้านปอนด์, 42 ล้านปอนด์ และ 46 ล้านปอนด์ แต่เซาธ์แฮมป์ตัน ปฏิเสธข้อเสนอทั้ง 3 ครั้ง โดยยืนยันว่า ต้องได้ค่าตัว 50 ล้านปอนด์สถานเดียวถึงจะยอมขาย
ลาเวียเป็นอดีตเด็กปั้นของแมนฯ ซิตี้ เล่นเป็นกองกลางตัวรับขนานแท้ ไอดอลของเขาคือเซร์คิโอ บุสเกตต์ และ แฟร์นันดินโญ่ เป็นตำแหน่งที่หงส์แดงขาดจริงๆ นั่นแหละ
ในมุมของลิเวอร์พูล การจ่ายเงินซื้อนักเตะจากแชมเปี้ยนชิพ ในราคา 46 ล้านปอนด์ ก็ถือว่ามากที่สุดเท่าที่จะให้ได้แล้ว คือผู้เล่นมีพรสวรรค์ก็จริง แต่คำถามคือ มีผลงานมากพอ ที่จะเรียกราคา 50 ล้านปอนด์ได้แล้วหรือ?
การยึกยักของลิเวอร์พูลนั้น ทำให้เจมี่ คาร์ราเกอร์ ออกมาวิจารณ์กระจุย โดยบอกว่า "ลิเวอร์พูลไม่ยอมปิดจ๊อบให้ได้ แต่ยื้อไปเรื่อยๆ แบบนี้ ถ้าคุณคิดว่านักเตะคนนี้ไม่คู่ควรกับเงิน 50 ล้านปอนด์ ก็ถอนตัวไปเลย แต่ถ้าคุณอยากได้จริงๆ จะเล่นเกมทำไม ก็จ่ายเขาไปสิ และผมก็ไม่แน่ใจด้วยว่า ทำไมลิเวอร์พูลไม่ไปล่าตัวไคเซโด้ จริงอยู่ว่ามันราคาแพง แต่ลิเวอร์พูลก็ได้เงินจากการขายฟาบินโญ่ กับ เฮนเดอร์สันแล้วไม่ใช่หรือ"
- ในวันเดียวกัน พอล บาร์เบอร์ ซีอีโอของไบรท์ตัน กล่าวย้ำเรื่องไคเซโด้ว่า "มอยเซส ปัจจุบันอายุ 21 ปี บางทีเขาอาจเป็นหนึ่งในกองกลางที่เก่งที่สุดในโลก หากเทียบกับผู้เล่นที่อายุเท่กัน นั่นคือเหตุผลที่เราเซ็นสัญญาระยะยาวกับเขาไว้ เรารู้ว่าเขามีทีมอื่นสนใจ แต่เราอยากเก็บเขาไว้กับทีมต่อ"
1
ไบรท์ตัน ไม่สน ไม่แคร์ กับ Reaction ในการอยากย้ายไปเชลซีของไคเซโด้ เพราะนักเตะมีสัญญาอยู่ ถ้าทีมไม่ได้เงินตามที่ต้องการ ก็จะไม่ปล่อยให้ใครทั้งนั้น
มีคนแซะไบรท์ตันว่า นักเตะระดับไคเซโด้ได้ 80 ล้านปอนด์ ก็เยอะมากแล้ว จะดึงเช็งไปถึงไหน ทำไมไม่รีบขาย แต่ ซีอีโอไบรท์ตันยังเยือกเย็น และรอข้อเสนอที่สูงกว่านั้น
[ 10 สิงหาคม ] - เชลซี สร้างความเซอร์ไพรส์ ด้วยการยื่นข้อเสนอซื้อตัวโรเมโอ ลาเวีย เป้าหมายของลิเวอร์พูลในราคา 48 ล้านปอนด์ (แต่เซาธ์แฮมป์ตันตั้งไว้ 50 ล้าน) หลายคนเชื่อว่า นี่เป็นเกมข่มขู่ไบรท์ตัน ว่าถ้าไม่ยอมปล่อยขายไคเซโด้ เชลซีก็มีอ็อปชั่น ซื้อกองกลางคนอื่นได้เหมือนกัน และในตลาด ก็คงไม่มีใครยื่นข้อเสนอให้มากเท่ากับเชลซีอีกแล้วด้วย
- นอกจากนั้นเชลซียังเซ็นสัญญาคว้าตัวไทเลอร์ อดัมส์ จากลีดส์ ยูไนเต็ด ในราคา 20 ล้านปอนด์ เหลือแค่การตรวจร่างกายเท่านั้น
- การยื่นข้อเสนอของเชลซี ทำให้เกิดแฮชแท็ก #FSGOUT ในโลกออนไลน์ แฟนหงส์แดงด่าจอห์น เฮนรี่ เจ้าของทีมลิเวอร์พูล ที่ยึกยัก ไม่ยอมจ่ายเงินอีกนิดเดียวเพื่อได้ตัวลาเวีย จนใกล้โดนเชลซีโฉบตัดหน้า ก็เห็นๆ อยู่ว่ากองกลางมีปัญหาแล้วยังไม่ทุ่มเงินแก้ไขอีก
- เซาธ์แฮมป์ตัน ปฏิเสธข้อเสนอ 48 ล้านปอนด์ในการซื้อลาเวีย The Times ระบุว่า เซาธ์แฮมป์ตันยังต้องการ 50 ล้านปอนด์สถานเดียว อีกแค่ 2 ล้านปอนด์ เซาธ์แฮมป์ตันก็ไม่ยอม
- เมื่อเชลซีแสดงท่าทีสนใจลาเวีย ทำให้ลิเวอร์พูลเอาคืน ด้วยการไปยื่นข้อเสนอล่าตัวมอยเซส ไคเซโด้จากไบรท์ตัน โดยพร้อมยื่นข้อเสนอในราคาสูงถึง 100 ล้านปอนด์ นี่เป็นหมาก ที่ต้องการบอกเซาธ์แฮมป์ตัวว่า นักเตะอายุ 19 แต่โก่งราคากัน 50 ล้านแบบนี้ เรามูฟไปเซ็นคนอื่นแทนก็ได้ หงส์แดงเคยทำแบบนี้มาแล้วบ่อยครั้ง ตั้งแต่ตอนที่โดนนอริชโก่งราคาจามาล ลูอิส ก็เปลี่ยนไปเซ็นคอสตาส ซิมิกาสแทน
3
- มีการวิเคราะห์ว่า ถ้าหากไหนๆ จะต้องโดนโก่งราคาแล้ว แทนที่จะเอาลาเวีย ที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเอง สู้เอาไคเซโด้ ที่เคยไปฟุตบอลโลกมาแล้วดีกว่า และฝีเท้าก็การันตีได้ว่าเก่งกว่าแน่ๆ
- เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ลิเวอร์พูลติดต่ออย่างเป็นทางการเข้าไปหาไบรท์ตัน และสอบถามโอกาสในการย้ายทีม แต่เชลซีก็ยังคงอยากได้ตัวไคเซโด้อยู่เช่นกัน
- เอาจริงๆ ไบรท์ตันเองก็ยื้อสุดๆ แล้ว ฤดูกาลจะเริ่มอยู่แล้ว การเก็บนักเตะที่หมดใจไว้กับทีม อาจส่งผล Toxic กับทีมมากกว่า ดังนั้นจึงประกาศ "ประมูล" กันตรงๆ ไปเลย เอาเป็นว่าก่อนถึงเที่ยงคืน สโมสรไหนจ่ายเงินมากกว่า เอาตัวไคเซโด้ไปเลย
- เชลซี ยื่นตัวเลข 100 ล้านปอนด์ เป็นราคาที่ไบรท์ตันต้องการแต่แรก ถ้าเชลซียื่นราคานี้ตอนแรกเลยก็จบ คงได้ตัวไปแล้ว ส่วนหงส์แดงตัดสินใจยื่นที่ 110 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นราคาสูงสุดตลอดกาล ในการย้ายทีมของนักเตะในพรีเมียร์ลีก แซงหน้าสถิติของดีแคลน ไรซ์ และ เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ ราคา 105 ล้านปอนด์ลงได้สำเร็จ ถ้าไบรท์ตันพร้อมรับข้อเสนอ
1
- 110 ล้านปอนด์ เป็นตัวเลขที่ทำลายสถิติเดิมของหงส์แดงอย่างราบคาบ จากที่เคยซื้อเวอร์จิล ฟาน ไดค์ มา 75 ล้านปอนด์ ในปี 2018 และนี่เป็นราคาที่เชลซีตัดสินใจ "ไม่สู้" และยอมแพ้ ทำให้ลิเวอร์พูลกลายเป็นผู้ชนะในดีลนี้ ด้วยตัวเลขมหาศาล 110 ล้านปอนด์
1
- ตอนนี้เหลือแค่ตัวนักเตะเท่านั้น ที่ตอนแรกเหมือนจะเทใจให้เชลซีไปแล้ว จะยังคงยื้อไม่ย้ายมาลิเวอร์พูลหรือไม่ หรือว่าจะโอเค ที่จะได้ร่วมงานกับเจอร์เก้น คล็อปป์ ในสเต็ปต่อไป ถ้าหากทีมหงส์แดงเจรจาค่าเหนื่อยได้สำเร็จ ก็จะเข้าสู่กระบวนการตรวจร่างกายต่อไป
[ 11 สิงหาคม ] -มีเรื่องที่เราต้องติดตามกันต่อไปอีกหลายประเด็นทีเดียว และมีมุมให้คิดน่าสนใจเยอะมากด้วย
1) ไคเซโด้ โอเคใช่ไหม ที่ย้ายมาลิเวอร์พูล สโมสรที่เขาไม่ได้ตั้งใจมาอยู่แต่แรก แต่ถ้าเล่นกับทีมนี้ เขาก็จะได้เล่นร่วมกับเพื่อนเก่าอย่างอเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์อีกครั้ง นอกจากนั้นในทีมหงส์แดง มีนักเตะพูดสเปนได้เต็มไปหมด ทั้งดิอาซ, นูนเยซ, บายเซติช และ ติอาโก้ น่าจะช่วยไคเซโด้ปรับตัวกับชีวิตได้อย่างไม่ยากนัก
2
2) เชลซีจะเอายังไงต่อ จะลุยดีล ลาเวีย ไปให้ถึงที่สุดเลยไหม เพิ่มอีกแค่ 2 ล้านปอนด์ ก็ได้ตัวแล้ว คือเชลซีตอนนี้กองกลางมีรูโหว่ใหญ่มาก ปัจจุบันใช้งาน เอ็นโซ่, คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ และ คาร์นีย์ ชุควูเมก้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะพอหรือเปล่าในการไล่ล่าท็อปโฟร์ซีซั่นหน้า
3) จริงๆ ถ้าเชลซียื่นข้อเสนอ 100 ล้านปอนด์ แต่แรกสุด เพื่อซื้อไคเซโด้ ดีลนี้ก็น่าจะจบไปแล้ว พอมายื่นรอบหลัง แล้วลิเวอร์พูลให้ตัวเลขเหนือกว่า สุดท้ายจึงต้องยอมถอยแล้วไปหาเป้าหมายอื่นแทน
2
4) FSG และ ทีมซื้อขายหงส์แดง แสดงให้เห็นว่า ถ้าจะทำ ก็ทำได้ ไคเซโด้คือนักเตะที่ทีมใหญ่ต้องการมากมาย เขาเป็นของจริงแน่นอน คือถึงคราวที่ต้องจ่ายเงินระดับ 110 ล้านปอนด์ ก็พร้อมสู้จริงๆ
1
5) อีกหนึ่งเหตุผลที่สนใจ คือลิเวอร์พูล ซื้ออเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ แบบย่อมเยาว์ เพราะค้นเจอค่าฉีกสัญญา 35 ล้านปอนด์ ดังนั้นถ้าคิดในแง่ดีคือ ซื้อไคเซโด้ 110 + แม็คอัลลิสเตอร์ 35 รวมกันเท่ากับ 145 หรือเฉลี่ยคือตัวละ 72.5 ล้านปอนด์เท่านั้น ก็เป็นตัวเลขที่พอสมเหตุสมผลอยู่
6) นี่เป็นซัมเมอร์ ที่ลิเวอร์พูลจ่ายหนักมาก ซื้อกองกลาง 3 คน ราคารวมกัน 195 ล้านปอนด์ นี่คือการแปลงโฉมมิดฟิลด์อย่างสิ้นเชิง
สำหรับแฟนบอลลิเวอร์พูลนั้น อาจมองว่าตัวเลขขนาดนี้ มันแพงเกินไป สำหรับการซื้อนักเตะแค่ 3 คน แต่ในฟุตบอลยุคปัจจุบันนี้ ถ้าคุณอยากได้ผู้เล่นชั้นดี คุณก็ต้องสู้ราคา
สโมสรลิเวอร์พูลไม่ใช่ทีมที่ยากจน รายได้จากสปอนเซอร์ และบัตรเข้าชม รวมถึงของที่ระลึกในแต่ละปี มากมายมหาศาล การเจียดเงินก้อนหนึ่งมาซื้อนักเตะให้เจอร์เก้น คล็อปป์ได้ใช้งาน ไม่ทำให้ทีมล่มสลายแน่นอน
7) ไบรท์ตัน คือผู้ชนะตัวจริงของดีลนี้ พวกเขาเยือกเย็น ไม่รีบร้อน แม้นักเตะจะก่อหวอด ไม่ยอมมาซ้อม แต่ไบรท์ตันกล้าปฏิเสธตัวเลข 80 ล้านปอนด์ สุดท้ายก็ขายได้ในราคา 110 ล้านปอนด์ ถือเป็นความเด็ดขาดมากของผู้บริหาร
8 ) สำหรับเซาธ์แฮมป์ตัน ก็ต้องมาดูกันว่า ดีลลาเวียจะเกิดขึ้นหรือไม่ หลักการของพวกเขาก็เหมือนไบรท์ตัน คือจะไม่ขายจนกว่าจะได้ราคาที่ต้องการ แต่ถ้าหากเชลซีชักปลั๊กไม่เอาแล้ว ก็คงเสียดายมากเหมือนกัน ที่จะไม่ได้เงินก้อนอย่างน้อย 48 ล้านปอนด์ หรืออีกมุมอาจจะดีใจก็ได้ เพราะการเก็บตัวหลักเอาไว้ อาจช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นได้ ซึ่งนั่นจะมีมูลค่ามากกว่า 48 ล้านปอนด์แน่นอน
เรื่องราวก็จบลงตรงนี้ครับ สำหรับการต่อสู้นอกสนามของเชลซี กับ ลิเวอร์พูล ดวลกันอย่างดุเดือดมาก
และที่น่าตลกคือ ทั้งสองทีมจะเจอกันในนัดเปิดสนามของพรีเมียร์ลีกซะด้วย ถ้าหากไคเซโด้ ตรวจร่างกายผ่าน แล้วได้ลงเล่นในสีเสื้อลิเวอร์พูล ส่วนลาเวียได้ใส่เสื้อเชลซีลงเล่น มันคงเป็นอะไรที่พิลึกกึกกือเลยทีเดียว
1
#DONEDEAL
โฆษณา