12 ส.ค. 2023 เวลา 02:00 • ท่องเที่ยว
สวิตเซอร์แลนด์

ขึ้นเขา Schilthorn ตามรอย James Bond และเดินเล่นที่ Bern เมืองหลวงสวิตเซอร์แลนด์

📌Schilthornn - Bern📌
สำหรับเขาที่เราจะไปวันนี้คือเขา Schilthorn ครับ โดยเราสามารถนั่งรถไฟจาก Interlaken OST ไปยัง Lauterbrunnen ได้เลย ใช้เวลา 20 นาที วิวระหว่างทางสวยมากครับ ผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจีเต็มไปหมด
พอนั่งรถไฟมาถึงสถานี Lauterbrunnen แล้ว เราก็เดินออกมานั่งรถบัสสาย 141 ข้างหน้าสถานี เพื่อไปยังจุดซื้อบัตรขึ้นเขา Schilthorn ได้เลยครับ นั่งไปอีกประมาณ 13 นาทีเอง วิวระหว่างทางเราก็จะผ่านน้ำตก Staubbach น้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในหมู่บ้าน Lauterbrunnen ด้วย
พอลงรถเมล์ปุ้ป เราก็ไปซื้อตั๋วได้เลยครับ สำหรับค่าขึ้นจะอยู่ที่ 42.80 CHF หรือตกเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,700 บาท โดยราคานี้เป็นราคาสำหรับคนที่มี Swiss Pass นะครับ ซึ่งจะได้รับส่วนลด 50%
รอคิวขึ้นกระเช้าอยู่สักพักก็ได้ขึ้นมาแล้ว อยากจะตะโกนออกไปดังๆมากว่าสวยยยยย กว่าจะขึ้นไปถึงยอดเขา Schilthorn ก็ต้องขึ้นกระเช้าหลายต่อเหมือนกันนะครับ อย่างสถานีนี้ก็คือจะเป็นหมู่่บ้าน Murren หลายๆคนที่พอมีเวลาก็สามารถแวะเที่ยวหมู่่บ้านแห่งนี้ได้นะครับ เห็นเค้าบอกว่าสวยมาก แต่เสียดายวันนี้ผมมีเวลาน้อยไปหน่อย เลยไม่ได้ไปเดินเล่นเลยครับ
ตรงนี้ก็เป็นจุดแวะพักที่สถานี Murren เนี่ยแหละครับ จุดนี้เราสามารถมองเห็นยอดเขา Jungfrau ได้อย่างชัดเจนเลยครับ ให้ทายว่ายอดเขา Jungfrau คือยอดเขาอันไหน ติ๊กตอกๆๆ ใช่แล้วคือยอดเขาที่สูงที่สุดนั้นเอง
ยอดเขา Jungfrau เป็นส่วนหนึ่งในเทือกเขาแอลป์ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรปและยังได้รับการขนานนามว่าเป็น Top of Europe ส่วนยอดสูงสุดของจุงเฟรามีความสูงถึง 4,158 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และยังได้รับการยกย่องเป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรปจากองค์การ UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 2001 ด้วย
ชมวิวเรียบร้อยแล้ว เราก็ต่อกระเช้าอันสุดท้ายมายังยอดเขา Schilthorn กันดีกว่า สำหรับยอดเขา Schilthorn จะอยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 2,970 เมตร ตั้งอยู่เหนือหมู่บ้าน Mürren และ Lauterbrunnen ด้านบนสุดของยอดเขาจะมีร้านอาหาร Piz Gloria เป็นร้านอาหารที่หมุนเป็นวงกลมโดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที แต่วันนี้เราไม่ได้แวะไปนะครับ
ที่ยอดเขาแห่งนี้มีชื่อเสียงขึ้นมา ส่วนนึงก็เพราะว่าเขาแห่งนี้เป็นเขาที่ใช้ถ่ายหนังชื่อดังอย่าง James bond 007 ภาค On her majesty's secret service สมัยปีค.ศ.1969 ซึ่งผมก็เกิดไม่ทันเหมือนกันครับ 555
ด้านบนจะสามารถมองเห็นวิวของหุบเขาสวยๆ ในเมือง Lauterbrunnen ทัศนียภาพของเทือกเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อนปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนแบบพาโนรามาเลย
ถ้าใครเคยดู James bond 007 คงจะคุ้นๆกับฉากนี้อยู่นะครับ เพราะมีแทบจะทุกภาคเลย ถือเป็นสัญลักษณ์ของหนังเลยหละครับ
พอเข้ามาข้างในโดมเราก็สามารถลงไปยังพิพิธภัณฑ์ได้นะครับ ภายในจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการสร้างภาพยนตร์ ตั้งแต่ที่ทีมโปรดิวเซอร์เดินทางมาหาสถานที่ถ่ายทำ การสร้างกระเช้าขึ้นมาบนยอดเขา บรรยากาศและขั้นตอนการถ่ายทำ ฉากการต่อสู้ ตลอดจนประวัติของสายลับ 007 และสาวบอนด์ด้วย
อันนี้มีของเล่นให้เราเล่นด้วยนะ ลองถ่ายหน้าตัวเองแล้วไปใส่ใน James Bond เป็นไงครับ ทุกคนว่าพอจะได้มั้ย จะบอกว่ามีอะไรให้เล่นเยอะแยะเลย สนุกมาก ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ James Bond น่าจะถูกใจมากเลยครับ
เพลิดเพลินกับวิวกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางไปยังเมืองหลวงของประเทศสวิสเซอร์แลนด์อย่าง Bern กันแล้วครับ วิธีการเดินทางก็คือนั่งรถบัสสาย 141 กลับไปที่ Lauterbrunnen แล้วนั่งรถไฟไปยัง Interlaken ครับ จริงๆการเดินทางจาก Interlaken ไป Bern นั้นสามารถนั่งรถไฟตรงไปต่อเดียวถึงเลยครับ แต่ช่วงที่เราไปนั้นทางรถไฟมันซ่อม ทำให้ต้องนั่งรถบัสไป Spiez ก่อน ใช้เวลาเดินทางเกือบ 1 ชั่วโมง
วิวระหว่างทางจะเห็นเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจี มองไปไกลๆก็เห็นเทือกเขาเรียงรายเต็มไปหมด ละที่สำคัญผ่านแม่น้ำอาเร่ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของ Bern ด้วยล่ะคร้าบ
ออกมาจากสถานีรถไฟ Bern เราก็จะเห็นคนเดินพลุกพล่านสมกับเป็นเมืองหลวงจริงๆ โดยเราจะนั่งรถบัสสาย 12 แถวหน้าสถานี เพื่อไปที่สวนหมี Baren Park กันก่อน ใช้เวลาประมาณ 7 นาทีเองครับ แล้วขากลับก็จะค่อยๆเดินย้อนมาขึ้นรถไฟกลับที่สถานีรถไฟแห่งนี้ครับ
ถึงแล้วบ่อหมี แต่ว่าไหนหมีอะ ยังไม่เห็นเลยครับ ขอเล่านิดนึงว่าบ่อหมีแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ทราบว่าเมือง Bern คือเมืองหมี มีต้นกำเนิดมาจากหมีสีน้ำตาล 4-5 ตัว อาศัยอยู่ภายในริมบ่อฝั่งแม่น้ำ Aare ในอดีตสร้างบ่อหมีให้อยู่คู่เมือง Bern มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 แต่ว่าถูกย้ายที่ตั้งไปหลายแห่ง จนครั้งสุดท้ายย้ายมาตั้งที่ตรงนี้ในปัจจุบันเมื่อปี 1996
นี่ไงเจอหมีแล้วว น้องหมีน่ารักมากครับ ตัวไม่ใหญ่มาก กว่าจะหาเจอนี่ยากนิดนึงนะ มาหลบอยู่ตรงนี้นี่เอง
จากบ่อหมี เราจะสามารถเดินลงมาที่ริมแม่น้ำ Aare เพื่อนั่งพักผ่อนหย่อนใจ หรือเพลิดเพลินกับแม่น้ำสวยๆ สีฟ้าๆ ได้เลยครับ
แม่น้ำ Aare ก็จะเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านเมือง Bern นั้นเองครับ ขอเล่าที่มาของเมืองนี้หน่อยครับ ก็คือ Bern เป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ.1863 นอกจากนั้นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 ด้วยนะ
Bern ถูกค้นพบโดย Duke Berchtold V von Zähringen ในปี ค.ศ. 1191 จากตำนานเล่ากันว่าเค้าจะตั้งชื่อเมืองตามสัตว์ที่เค้าสามารถไล่ล่าได้ตัวแรก ซึ่งก็คือหมีดำนั้นเอง ซึ่งหมีดำจะหมายถึง ทหาร อำนาจ ความใส่ใจ และความเป็นเอกลักษณ์ของเมือง ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องพลเมืองเบิร์นแห่งนี้
เดินตามทางที่กลับไปยังสถานีรถไฟมาเรื่อยๆ เราก็จะได้สัมผัสกับ 2 ข้างทางที่เป็นร้านขายของ ร้านอาหาร ดูวิถีชีวิตของคนที่นี่ครับ แต่ผมว่าเมืองนี้คนสูบบุหรี่จัดไปหน่อย เดินไปที่ไหนก็ได้กลิ่นบุหรี่เต็มไปหมดเลย ถ้าใครแพ้ก็อาจจะไม่ค่อยเหมาะนะครับ
เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับหอนาฬิกา Zytglogge ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คที่มีชื่อเสียงของ Bern เลยครับ เป็นหอนาฬิกาดาราศาสตร์อันเก่าแก่จากยุคกลาง สร้างในช่วงต้นศตวรรษที่ 13 เพื่อใช้เป็นประตูเมือง
นาฬิกาที่หน้าปัดใหญ่จะใช้บอกเวลา ส่วนหน้าปัดเล็กนั้นจะบอกวัน เดือน ปี และจักรราศี ไฮไลท์ที่ต้องรอชมทุก ๆ ชั่วโมงเลยก็คือจะมีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำครับ แต่เสียดายผมอดเห็นครับ
จริงๆเมือง Bern ก็ไม่ค่อยมีที่เที่ยวมากนักครับ ผมว่าถ้าใครมีเวลาเหลือก็แนะนำให้มาเดินเล่นกันได้ แต่ถ้าใครมีเวลาจำกัดก็อาจจะข้ามเมืองนี้ไปก็ได้ครับ สำหรับวันนี้ก็ขอจบวันแต่เพียงเท่านี้ครับ ขอเดินทางกลับไปที่ Interlaken พักผ่อนกันก่อนครับ อย่าลืมติดตามวันถัดไปของเราด้วยน้า รับรองว่าวันถัดไปเด็ดมากเลย
โฆษณา