14 ส.ค. 2023 เวลา 13:31 • ท่องเที่ยว
น่าน

เมื่อการเดินทางส่งเสียงเรียก "่น่าน"

"น่าน" เมืองเเห่งความเงียบ ความช้า หลายคนคงติดภาพแบบนั้น วัดวาอาราม สถาที่ธรรมชาติ ศิลป เกือบจะไม่เหมาะกับผมในห่วงช่วงเวลานี้เลยสิเนี่ย ช่วงอารมณ์ที่เจ้า"ความรักที่ดี"ได้จบลง
กระนั้นก็ยังต้องการพื้นที่ตะโกนสุดเสียง(ส่วนตัว) พื้นที่ให้กับความเสียดาย ความไม่เข้าใจ ให้ความรู้สึกและหัวใจได้ทำงาน ได้ใช้เวลาให้ใจยอมรับ ไม่รู้ว่าจะได้เจอที่แบบนั้นไหม ณ จังหวัดนี้ "น่าน" 2วัน1คืนกับมอไซต์กับใจที่อยากนอนวัด
เช้าที่ตื่น: 10/08
6:40น.ตื่นเช้าขนาดนี้เลยหรอว่ะ คิดถึงสมัยเดินทางใหม่ๆ ดีดตัวออกลุยไม่สนลูกใคร ทำกิจยามเช้าบลาๆ เมื่อคืนวันที่9แรกเริ่มวางไว้ที่วันเสาร์ไม่ก็วันจันทร์ค่อยเดินทาง พอตื่นเช้าก็เลยลังเลกับความคิดในใจ
เห้ยๆ!!ฝนไม่ตกแฮะ แดดออกซะด้วย ทั้งที่ทั้งสัปดาห์โดนเมฆฝนบดบังอย่างกับหนังเศร้า เอ้าๆๆลุยเลยล่ะกันเตรียมของฉึบฉับ เหลือบ้างขาดบ้าง 8:30น.ได้ออกตัว GO Go go ! ไปพร้อมมอไซต์คู่ใจ
ระหว่างทาง:
" อากาศเดิมๆที่เดิมๆ ทำให้ฉันคิดถึงฉันคิดใคร " เพลงเคล้าอดีตผุดเนื่องๆ อารมณ์เศร้า ร้องไห้ไปขับไป เส้นทางที่ไม่ได้เจอกันนาน หลุม บ่อ ดิน ฝุ่น ควันรถ
ไม่นึกเลยว่าการได้กลับมาเดินทาง จะได้มาพร้อมfeel"heartbreak"แบบนี้ เมฆฝนสลับไอเเดดที่เวลา9โมง ร้อนฉ่ำเลอะ (โอ้วววววว) พระเจ้าเมตตา จักรวาลให้โชค ฟ้าเปิด ถึงอย่างนั้นก็เถอะคำพี่พนักงานปั๊มทักเอาไว้ก็สมเหตุสมผล ที่ตรงนี้ไม่ตกไม่ใช่ว่าตรงนั้นจะไม่ตก
ดอกคำใต้-เชียงม่วน
สถานที่แรก:หอศิลปริมน่าน
13:49น.ช่วงบ่ายที่แดดเริ่มสลับมามากกว่าเมฆฝน ผมตัดสินใจไม่กินข้าวในเมืองที่น่าจะหากินได้ง่ายกว่า "เอาน่าลองไปลุ้นข้างหน้าดู" ในที่สุดก็ถึงที่หมายแรก"หอศิลปริมน่าน" มีโซนร้านข้าวอยู่ด้านใน(ช่างโชดี) มีเมนูสไตล์พื้นเมือง4-5เมนูกับชากาเเฟ อิ่มท้องก่อนชมงานศิลป
3
ข้าวเหนียวหมูน้ำพริกข่า
หอศิลป์ริมน่าน อาจารย์วินัย ปราบริปู ก่อตั้งเมื่อปี 2547 แรงบรรดาลใจจากการเห็นศิลปะในยุโรปที่เข้าถึงง่าย การต้องการกลับมาตั้งรกรากในบ้านเกิด และสร้างพื้นที่เผยแพร่งานศิลปะให้คนใกล้ไม่ต้องออกไปหาที่ไกลๆ นำเอาศิลปร่วมสมัย หมุนเวียนมาจัดแสดง นิทรรศการสำคัญๆที่สัญจรกันมา
สถานที่ตั้งอยู่ที่นอกเมืองไปราวๆ ...กม. อยู่บนถนนเส้นน่าน-ทุ่งช้าง ติดแม่น้ำน่าน ค่าเข้าชม 20 บาทล่ะ ราคาเดิมตั้งแต่ก่อตั้งเลย เปิดเวลา 09:00-17:00น.
โซนจัดแสดง
ศิลปะดินเเดนแห่งความคิด ความรู้สึกของเเต่ละคน แม้มีคำบอกกล่าว(ชื่อผลงาน) สุดท้ายก็แล้วเเต่คนจะตีความ ถ้าไม่มีคำบอกเล่าจากเจ้าของผลงาน เราจะมองมันเป็นอะไรกันนะ? จะเห็นอะไรจากภาพเหล่านั้นกัน
ผมเดินเพียงในโซนจัดแสดงงานศิลป จริงๆจะมีโซนแสดงอื่นๆอีก2-3จุดละมั้ง ซึ่งผมไม่อินเท่าไหร่เพราะฉะนั้นไม่เข้าโว้ยย ใครอยากไปดู ก็ไปเอง ไม่ขายหรอกนะ555
เย็นย่ำ:
16:50 น.ลองใจกล้าไปขอนอนวัด เรา: นมัสการครับ ผมจะมาขอรบกวนที่นอนที่วัดนี่สักคืนพอจะได้ไหมครับ เจ้าอาวาส:คงต้องไปถามผู้ใหญ่บ้านล่ะ บ้านแกอยู่ข้างวัดนี่เอง เรา: ...ขอบคุณครับ (เริ่มแหม่งๆในใจ สงอะสัย ถ้าจะยาก)
ก็ไปติดต่อ อ่ะผู้ใหญ่ไม่อยู่บ้านโทรถามสรุปจบที่ "ลำบากใจนะ สถานการณ์บ้านเมืองอย่างงี้เนอะ เข้าใจกันหน่อยล่ะกัน เพราะถ้าเกิดไรขึ้น ผมต้องรับผิดชอบ" โอวววเควว บายเลยจ้าาา
หวืดการประหยัดและโอกาสเอาชนะความกลัวระดับสูงไป ตัดมาได้ที่นอนเป็นโฮสเทสในตัวเมือง299 ถูกในราคา แต่เเพงในบัญชี หลังจากนั้นพอมีเวลาขับรถสำรวจเส้นทางในเมืองระยะ3-5กม. แล้วไปเดินหาข้าวกินที่ตลาดสด
นั่งกินบนรถนั่นล่ะ ใกล้ๆมีสวนสาธารณะ เลยได้ไปเดินซะหน่อย นั่งพักขาสูดอากาศ พอควรแก่เวลาและเหล่ายุงเริ่มมา 19:00 น.ก็พับตัวกลับเข้าที่พักสู่การหลับไหล
เช้าวันที่สองของการเดินทาง 11/08
หลังวันที่เเทบจะปิดโซเชียล ดึงใจที่ส่งออกนอกทั้งหมด กลับสู่ภายในแล้วออกเดินทาง 8:15 น.เริ่มต้นวันด้วย "ก๋วยจั๊บ" ที่ไม่ได้กินมานาน อร่อยจริมวุ๊ย พับผ้าสิ! (พ่าม! พับผ่า)
สดชื่นจัด ไม่เสียเเรงที่เย็นวานออกสำรวจ ร้านอยู่ระหว่างตลาดสดกับสวนสาธารณะเลยราวๆ400เมตร ถนนเส้นร้านก๋วยเตี๋ยวที่เป็นร้านไม้แบบคลาสสิกน่ะ
สถานที่ที่สอง : วัดภูมินทร์
ในตัวเมืองน่านมีวัดอยู่หลายแห่งทีเดียว แล้วแต่คุณเลือก ส่วนตัวผมเห็นชื่อ "วัดภูมินทร์"มันเท่ดี เพลงเขาเพราะด้วยเลยเลือกที่นี่ล่ะ(พ่าม!อันนั้นภูมิมินทร์รึเปล่า)
ผมไม่ใช่สายทำบุญทำทาน เข้าวัดหรือไหว้พระจ้าๆอะไร แค่พอมีปฏิบัติเล็กๆ (ชอบทำบุญโลงศพมากกว่านะ) ไม่ใช่สายงานประติมากรรมหรือลวดลายด้วย ดูงานไม่ลึกชื่นชมอยู่ครึ่งใจ อีกครึ่งก็ไม่ได้อินอะไร
ภายนอก
สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน (พึ่งรู้เเฮะ) กับภาพจิตรกรรมฝาผนัง "ปู่ม่านย่าม่าน" กระซิบรักอันโด่งดัง ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุดทั้งด้านอารมณ์และองค์ประกอบของภาพ บางคนบอกว่านี่คือ “โมนาลิซ่าเมืองไทย” กันเลยทีเดียว(ผมเข้าถ่ายไกลๆอยู่ช็อตเดียว อิอิ)
เป็นตัวแทนเมืองแห่งความรักไปโดยปริยาย (เขาว่ามาล่ะ)มีความเชื่อในเรื่องการขอพรให้รักยืนยาวด้วย
แล้วเเต่จะลองล่ะนะ
ภายใน
ไม่หมดเพียงเท่านั้น ยังไปดังในเพลง"แลรักนิรันดร์" ของปู่จ๋านลองไมค์(ไปหาฟัง) ตัววัดเป็นทั้งอุโบสถ พระวิหารและเจดีย์พระประธาน ภายในมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่4องค์ หันหน้าออกทั้ง4ทิศ ดูยิ่งใหญ่สำหรับสายเสพศิลปแนวนี้จริมๆ
สถานที่สุดท้าย : จุดชมวิว1715ดอยภูคา
9:20น.ที่ออกจากวัดมา ถึงจุดชมวิวที่ไม่สามารถดูวิวได้ แน่ละยอดดอยในหน้าฝน เเดดสักประติ๋วยังไม่มีเลยเเต่ไม่เป็นไร
ตัวผมนั้นแค่อยากไปสัมผัสความสูง สถานที่ไกลๆไร้ผู้คนบวกกับถ้า ได้ร้องตะโกนก็น่ายินดีมาก (ถ้าอยากสัมผัสสไตล์นี้ก็เชิญชวนทีนี้เลย) อยากเห็นวิวควรเป็นปลายฝนต้นฤดูหนาวที่เเดดมีโอกาสปกคลุมมากกว่าเมฆฝน
ระหว่างทางไปดอยภูคา
ผมถึงจุดหมายประมาณเที่ยงกว่าได้ ทางที่ถนนเปียก มีดินถล่มบางจุด ทางขึ้นดอย ที่รถออโต้ต้องใช้ความเร็วอย่างอดทน ความไม่รู้ไม่ชินโค้ง ทำให้เวลานั้นคลาดเคลื่อน ตอนแรกสดชื่น อยู่ไปนานๆเริ่มหนาว หมอกดูหนาขึ้น อย่างกับเมืองลับแล การมองเห็นจำกัด
ลืม!ไม่ได้เช็คอุณหภูมิหนาวสั่นระดับ4/10 (แต่ปากไม่สั่นนะ) เมื่อมาถึงแล้วก็ต้องหยุดให้นานหน่อย พักร่าง เคลียร์หัวใจ ร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา (เพราะมีเจ้าหน้าที่อยู่ แล้วก็หนาวด้วย) #ถ้ามีช่องทางลงวีดีโอเมื่อจะเปิดให้ชม
จุดชมวิว
1715 คือความสูงจากระดับน้ำทะเลของดอยภูคา จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ตั้งอยู่บนถนนเส้นทางสายปัว-บ่อเกลือ เส้นทางสองข้างเป็นบ้านเรือนชุมชมก่อนจะคอยๆเข้าลึกขึ้นไปบนทางดอย
ถ้าใครเคยไปดอยช้าง จ.เชียงรายแล้ว ส่วนตัวจะบอกว่าดอยภูคาขับง่ายกว่า (มอไซต์นะ) ทางลงไม่ชันเท่า ไม่ต้องกลัวเบรคไหม้แน่ แค่คอยๆไป
ระยะทางประมาณ 94 กม. จากตัวเมือง 2-3ชม. ด้วบความถนนเลนเดียวกับการขึ้นดอย ถนนราบเรียบเป็นส่วน90% ไว้ใจได้
2
ไม่ได้เข้าเเวะดูอุทยานล่ะ พักพอrelaxก็ได้เวลารวดกลับเลย ขนาดจุดข้างทางที่ว่าจะกลับมาถ่าย ใจก็ไม่อยู่แล้ว คิดถึงห้องอย่างเดียว
ขากลับที่ฝนตก แดดออก เดี๋ยวฝนหยุด เดี๋ยวฝนผ่านเข้ามา ดั่งความรู้สึกหมุนวนฤดูกาล บางทีนะ คนเราก็ควรมีเวลาออกไปตะโกน บ่นให้โลกนิดๆหรือระบายอารมณ์บ้าง เล่นกีฬา ร้องเกะ กรึบนิด พอเป็นพิธี
สรุปสุดท้าย "จังหวัดน่าน" เมืองความเงียบ ธรรมชาติ และมวลแห่งศิลป สำหรับใครที่อยากช้าลง อยากหาที่ๆผู้คนเบาบาง มีมนเสน่ห์ ณ ที่แห่งนี้จะเป็นหนึ่งจุดหมายที่ตอบโจทย์คุณ
ช่วงนี้อุทยานทั้งหลายปิดตัวอยู่ ลองมาซึมรสธรรม ชาติระหว่างทาง ที่"น่าน" ดูหน่อยไหมล่ะ ยิ่งหน้าฝนเเม้ดูยุ่งยากหน่อย แต่อาจคุ้มค่าก็ได้นะ
# ลาออกไปเช็คอิน
----- ยินดีที่ได้ร่วมเดินทาง เรียนรู้
ทดลอง ล้มเหลว เติบโต -----
ขอบคุณที่ติดตามครับ # Little books Little foots
โฆษณา