14 ส.ค. 2023 เวลา 05:14 • การตลาด

สร้างทีม digital marketing ของตัวเอง ต้องมีใครทำอะไรบ้าง?

หากเทียบการจ้าง marketing agency แล้ว องค์กรอย่าง agency มีทีมงานหลากหลายตำแหน่งมากมายในการที่ช่วยลูกค้าดูแล campaign การตลาดดิจิตัล ตั้งแต่ Strategic Planner, Copywriter, Art Director, Content Creator, Designer, Social Media Admin, Media Planner, Optimizer, Data Analyst และยังไม่รวมทีม AE ดูแลลูกค้าและ manager + director อีกหลายคนที่ช่วยกันดูแล campaign
แต่ถ้าองค์กรเราอยากจะสร้างทีม In-house ขึ้นมาดูแล digital marketing ของเราเองละ? ควรจะต้องมีตำแหน่งใดบ้างที่จะเพียงพอและมีศักยภาพในการแข่งขันการทำการตลาดในยุคปัจจุบัน
ลองมาดูลิสตำแหน่งงานหลักๆ ที่แนะนำสำหรับการสร้าง digital marketing team ดังนี้
#Marketer นักการตลาด
ตำแหน่งหลักที่ขาดไม่ได้แน่นอน คนคิดแคมเปญ โปรโมชั่น ควบคุมทิศทางการตลาดให้กับสินค้าและแบรนด์ ดูภาพรวมของการตลาดดิจิตัลทั้งหมด ไปจนถึงการประสานงานคุยกับ influencer รวมถึงทีมงานทั้งข้างในและข้างนอกในการผลิตชิ้นงานต่างๆ อีกด้วย
และหากธุรกิจเรายังไม่ใหญ่มาก ตำแหน่งนักการตลาดคนนี้ยังมีหน้าที่ที่สำคัญมากๆ คือการวิเคราะห์ข้อมูล หรือ data analytics ที่ได้มาจากการทำ digital marketing เพราะ data เหล่านี้แหละที่จะเอามาต่อยอด พัฒนา ร่วมถึงทำความเข้าใจว่า campaign ที่เราทำผ่านมาทำไมจึงสำเร็จหรือทำไมจึงล้มเหลว เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลแล้วจึงนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ในการวางแผนต่อยอดการตลาดของเราได้
#Designer
คนออกแบบ จะว่าไปนี่เป็นหัวใจของการทำการตลาดตำแหน่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ การออกแบบชิ้นงานที่สามารถสื่อสารให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่ทำภาพประกอบ content ไปจนถึงทำ artwork โปรโมชั่น หรือชิ้นงานสำหรับใช้ยิงโฆษณา ตำแหน่งนี้ถ้าอาศัยเพียงการจ้างข้างนอกเพียงอย่างเดียว ก็จะใช้งบประมาณที่เยอะพอสมควรในระยะยาว ดังนั้นการมี designer ในทีม จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและออกแบบชิ้นงานสำหรับการทำการตลาดได้อย่างคล่องตัว ทันต่อการประบเปลี่ยนอันรวดเร็วของการทำ digital marketing ในปัจจุบัน
#ถ่ายทำและตัดต่อ
แม้ในการทำงานแบบ agency ส่วนใหญ่แล้วคนที่ถ่ายทำวิดีโอและคนตัดต่อมักจะเป็นคนละคนกัน แต่สำรับองค์กรที่เป็นฝั่งเจ้าของสินค้าเอง คนถ่ายทำและตัดต่อก็พอจะสามารถรวมเป็นคนเดียวได้ ยิ่งยุคนี้การทำ short form video ต้องเน้นความเร็ว คล่องตัว เพื่อนำวิดีโอขึ้น TikTok คนที่มีทักษะในการถ่ายทำและเล่าเรื่องผ่านวิดีโอได้ จะสามารถช่วยสร้างชิ้นงานที่น่าสนใจนำไปบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์เรารวมถึงนำวิดีโอเหล่านั้นไปเป็นชิ้นงานโฆษณาต่อไปได้อีกด้วย
#Content Creator
การตลาดคือการเล่าเรื่อง content creator คือ นักสร้างเรื่องราว ทั้งหาไอเดีย จัดทำเนื้อหา รวมถึงการคิดคำ headline ข้อความในการสื่อสาร trigger message ต่างๆ หรือแม้แต่เขียน search ads สำหรับ search marketing หากเรามี content creator ในทีม ก็จะสามารถสร้างเรื่องราวได้เองอย่างคล่องตัว ผลิตงานอย่างรวดเร็ว ทันต่อการแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
#Optimizer
ในยุคที่เกือบทุก platform มี ระบบลงโฆษณาที่นักการตลาดสามารถยิ่งโฆษณาเองได้ หากเรามีคนในทีมที่มีทักษะในการ bid และ optimize ads เองในทีม ก็จะได้เปรียบกว่าคู่แข่งที่ต้องพึ่งพา agency เพียงอย่างเดียวแน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบธุรกิจของเรา บางที่อาจจะต้องเน้น SEM เป็นหลักหรือบางที่อาจจะเน้น push media อย่าง facebook เป็นหลัก ถ้าได้ optimizer เก่งๆ ก็จะช่วยทำ full-funnel campaign เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ awareness ไปจนถึง conversion ได้เลย
#Social Media Admin
ถ้าธุรกิจของเรามีเคสที่ต้องรับเรื่องทางช่องทาง social media เยอะ การมีตำแหน่ง social media admin ก็จะทำให้เราสามารถดูแลลูกค้าทางออนไลน์ได้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะอย่าลืมว่าประสบการณ์ติดต่อแบรนด์และผู้ขายทั้งก่อนและหลังการซื้อ มีผลอย่างมากต่อความรู้สึกและมีอิทธิผลต่อการเลือกซื้อซ้ำและบอกต่อ
โดยเฉพาะถ้าลูกค้าเจอปัญหาในการใช้สินค้าและบริการและยังมาเจอการดูแลลูกค้าที่ไม่ดีพอบนสื่อ social ก็มีโอกาสที่ลูกค้านำประสบการณ์ที่เลวร้ายนี้ไปเล่าต่อบน social ได้ กลายเป็นปัญหาที่เจ้าของแบรนด์ต้องตามไปแก้ต่อไปอีก
ดังนั้นหากมีตำแหน่ง social media admin ก็จะป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ดีมากวิธีหนึ่งเลย
ทั้งนี้สำหรับบริษัทหรือองค์กรที่ไม่ใหญ่มาก เราอาจจะพอรวบตำแหน่งกันได้ อย่างเช่น Marketer ที่เป็น concent creator ในตัว หรือ Marketer ที่สามารถ optimize ads เองได้ด้วย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความใหญ่ของธุรกิจและงบในการจ้างทีมงานของแต่ละองค์กร แต่ละที่สามารถหารูปแบบที่เหมาะสมในการจัดทีมได้ต่อไป
#digitalmarketingnow
โฆษณา