15 ส.ค. 2023 เวลา 14:47 • การศึกษา

แนะนำอนิเมะสำหรับเด็กสายศิลป์ "Blue period"

มันเริ่มจากที่เมื่อไม่กี่วันก่อนผมกำลังหาหนังดูบนNetflixจนเลื่อนมาเจอกับอนิเมะเรื่องนี้ ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกลไกของจักรวาลหรือยังไงที่กำลังบอกผมว่าลองกดเข้าไปดุสิ ปรากฎว่ามันเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับนักเรียนม.ปลาย ที่ในทุก ๆวันเอาแต่ทำทุกอย่างด้วยความพยายามของตนเองให้ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือการเข้าสังคม โดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบหรือหลงใหลในอะไรกันแน่
มีอยู่วันหนึ่งเขาได้เขาเรียนในวิชาศิลปะ แล้วโจทย์ของงานศิลปะชิ้นนั้นก็คือ "ทิวทัศน์ที่ตัวเองชื่นชอบ" ด้วยที่ตัวเอกก็ไม่ได้สนใจศิลปะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ไม่ได้คิดติดใจอะไร หลังจากกลับบ้านไปโดยส่วนตัวพระเอกเป็นคนสูบบุหรี่แล้วก็ลืมบุหรี่ทิ้งไว้ในชั้นเรียน ด้วยความกลัวที่จะมีปัญญาเขาจึงกลับไปที่ชั้นเรียน จนเขาได้เจอกับภาพวาดภาพหนึ่งที่เหมือนกับมันดึงดูดสายจนก่อให้เกิดความรู้สึกราวกับเป็นหนึ่งเดียวกับภาพ นั้นเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ตัวเอกได้พบกับตัวตนของพระเอก
ที่ผมชอบตัวเอกในเรื่องนี้เป็นเพราะเหมือนได้เห็นตัวสมัยก่อนที่ไม่รู้ว่าชอบอะไร จะไปเรียนคณะไหนดี เรียนก็ไม่เก่ง ไม่รู้ว่าจะพยายามไปทำไมแล้วก็คอยวิ่งไล่ตามสังคมไปวัน ๆ แต่ที่ผมชอบสุดคือคำพูดของอาจารย์สอนศิลปะ "ครูน่ะอยากรู้ว่าเธอให้คุณค่ากับอะไร ที่ไม่ใช่สิ่งที่สังคมที่เขาบอกว่าดี" ในวัยเด็กของผมนั้น ตามประสาเด็กผู้ชายบางคน ผมว่าต้องมีความคิดที่ว่าฉันอยากเข้าคณะสายศิลป์อย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นเพราะสื่อหรือสังคมสมัยนั้น
แต่อย่างไรก็ตามก็จะมีคนในสังคมบางคมบอกว่า มันหากินไม่ได้ เงินน้อย ใส้แห้ง เต้นกินรำกิน อะไรก็แล้วแต่ ผมจึงเชื่อคนเหล่านั้นแล้วก็ละทิ้งความคิดนั้นไป ผมเอาแต่วิ่งบนแนวทางที่คนอื่นบอกว่าดี สุดท้ายก็หลงลืมไปว่าตัวเองนั้นอยากทำอะไรกันแน่ ผมว่านี่น่าจะเป็นปัญหาของเด็กหลาย ๆคนที่กำลังจะเลือกสายของตัวเอง
ผมไม่รู้หรอกนะว่า ถ้าเราได้เดินในเส้นทางที่เราชอบจริง ๆแล้ว มันจะนำเราไปสู่อนาคตที่ดี แต่สำหรับการที่ต้องมานั้งคิดว่าจะไปทำอาชีพอะไรในอนาคต มันไกลเกินไปสำหรับเด็กมัธยมเพราะเราไม่รู้หรอกว่าเราจะได้ทำงานอะไร ใช่ว่าทุกคนที่จบแพทย์แล้วท้ายที่สุดจะได้เป็นหมอ"การที่มานั้งคิดว่าเก็บสิ่งที่ชอบไว้เป็นงานอดิเรา แล้วหันมาทำสิ่งที่ได้เงินดีกว่า มันเป็นความคิดของพวกผู้ใหญ่"เป็นหนึ่งคำพูดของอาจารย์ในเรื่องที่ตรงใจผมที่สุด เพราะท้ายที่สุดแล้วเราไม่รู้หรอกว่าเส้นทางในอนาคตของเราจะนำพาเราไปที่ไหน
อย่างทุกวันนี้การที่ผมได้มาเรียนวิชาปรัชญามันทำให้ผมมีความสุขมาก ๆหลังจากที่ซิ้ว หลงทางอยู่เกือบ 4 ปี แต่ผมก็รู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูกว่าถ้าเราตั้งใจเรียนกว่านี้และรู้ตัวเร็วกว่านี้ก็คงดี จะได้ตั้งใจเรียนและได้เข้าในที่ที่ดีกว่านี้
โฆษณา