Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
TheOwls.City
•
ติดตาม
17 ส.ค. 2023 เวลา 04:46 • ธุรกิจ
#Living
หลายคนคงได้อ่านข่าวประเด็นพนักงานผู้หญิงคนหนึ่งขอลาไปโรงพยาบาล แล้วขอลาเพิ่มเนื่องจากคุณแม่ไม่สบาย มีโอกาสจะเสียชีวิต โดยได้แจ้งกับหัวหน้าที่น่าจะเป็น HR ซึ่งได้รับคำตอบว่าไม่สามารถลาเพิ่ม ต้องกลับมาทำงาน พอคุณแม่ผู้หญิงคนนั้นเสียชีวิต เธอได้รับคำพูดว่าตกลงจะลาออก? ก็ให้มาเขียนใบลาออก
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีคนเข้ามาเม้นต์ความคิดที่หลากหลาย ส่วนใหญ่ไม่พอใจกับการกระทำของหัวหน้าที่เกิดขึ้น มีบางคนบอกว่า ผู้หญิงคนนี้อาจจะมีพฤติกรรมก่อนหน้าที่ไม่โอเค จึงทำให้หัวหน้าไม่เชื่อใจ แต่ไม่ว่า ก่อนหน้านี้จะเกิดอะไร สิ่งเหล่านี้สะท้อนคุณภาพชีวิตของคนในประเทศเราที่น่าพิจารณา
1) ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะดีหรือไม่ดี สถานการณ์ตอนที่เกิดคือ "คุณแม่มีโอกาสจะเสียชีวิต!!!" ยังไงชีวิตก็สำคัญกว่างาน ไม่ควรมีใครด้อยค่า ความเสียใจที่เกิดจากการสูญเสียชีวิต เพียงเพราะว่าอดีตหรือพฤติกรรมก่อนหน้าที่เราจะรู้หรือไม่รู้ข้อเท็จจริงก็ตาม มันคนละเรื่องกัน
2) เราอยู่ในสังคมที่บอกว่า เราไม่ทิ้งกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน (ส่วนใหญ่จะตอนเกิดอุบัติเหตุหรือสถานการณ์อะไรใหญ่ ๆ) แต่เรากลับละเลยความเห็นอกเห็นใจกันท่ามกลางคนทำงานในชีวิตจริง
3) อย่าเพียงแค่โทษหรือกล่าวหาตัวบุคคล แต่ลืมมองสังคม ระบบ วัฒนธรรม หรือมือที่มองไม่เห็น ที่คอยกดดัน กดขี่ ช้กใยอยู่เบื้องหลัง
4) เราอยู่ในสังคมที่กดขี่กันต่อ ๆ กันมาเป็นขั้น ๆ เจ้าของกดดันผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารระดับสูงกดดันผู้จัดการ ผู้จัดการกดดันพนักงาน เพียงเพื่อวาทกรรมที่สวยหรู คือ "การพิสูจน์ศักยภาพของตัวเองว่าคุณคู่ควร มีคุณค่า และทำงานอย่างเต็มที่หรือไม่" แต่จริงแล้วคือเพื่อ กำไร!
5) ทุกวันนี้ที่เรากดดันกัน หรือเครียดกัน ไม่ใช่ว่าบริษัทขาดทุน ไม่มีรายได้ แต่สิ่งที่เรากังวลคือ ขาดทุน "กำไร"
6) เราอาจจะเคยอยู่ท่ามกลางสังคมที่ทุกคนพร้อมตักตวงผลประโยชน์ ทุกคนพร้อมจะไม่ใจดีต่อกันและกัน ทุกคนพร้อมจะกดดันคนอื่น เพราะไม่งั้นเราก็ถูกกดดัน เราอาจจะอยู่ท่ามกลางการบริหารความขัดแย้ง ให้ความขัดแย้งผลักดันให้คนไม่หยุดอยู่กับที่
7) ไม่แน่ใจว่านี่คือบริษัทอะไร แต่สิ่งนี้สะท้อนว่า สุขภาวะที่เป็นพิษ ของบริษัทนั้น คงไม่ใช่เรื่องของหัวหน้าที่เป็น HR คนนี้คนเดียว แต่สามารถสะท้อนการสร้างวัฒนธรรมของบริษัท สะท้อนแรงกดดันของบริษัท อย่างเห็นได้ชัด
และแน่นอน บริษัทแบบนี้ไม่ล้มหายตายจากไปง่าย ๆ หรอก ก็จะมีคนที่เปลี่ยน เวียนเข้าไปทำงาน เข้าไปรับ toxic แบบนี้อย่างเรื่อย ๆ และไม่ง้อคน ก็จะเป็นเหมือนโรงงานผลิตสารพิษปล่อยออกมา ต่อให้คุณพยายามอยากจะสร้างวัฒนธรรม อยากจะเป็นบริษัทที่ cool & smart เท่าไร มันก็เป็นแค่เปลือกนอก
The Owls' City ขอให้ผู้บริหารไม่ว่าบริษัทไหนก็ตามทบทวนวัฒนธรรมองค์กรเสียใหม่ ว่าองค์กรเรามีความเสี่ยงเรื่องนี้ไหม ไม่จำเป็นต้องไล่คนเหล่านี้ออกหรอก แต่เรียกมาพูดคุยกัน ปรับความเข้าใจ สร้างโอกาสและวัฒนธรรมใหม่ วัฒนธรรมที่แม้แต่เราในฐานะปัจเจกคนหนึ่ง ก็มีความสุขและอยากอยู่องค์กรนี้
เราเห็นด้วยกับ เพจ ตุ๊ดซี่รีวิว แม้คนรอบข้างไม่ใจดีกับคุณ โลกดูเหมือนใจร้ายกับคุณ แต่คุณต้องใจดีกับตัวเอง ใช้ชีวิตให้มีความสุข เราแต่ละคนต้องพิจารณา ยืนหยัดจิตใจตนเอง และประเมินตัวเองว่า...
จะทำอย่างไรให้ไม่โดนสังคมแบบนี้ครอบงำ จนเรามองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องถูกต้อง และกลายเป็นแบบนั้นเหมือน ๆ กัน
เพราะความจริงคือ เราหว่านอะไร ก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น
ถ้าเราร่วมกันหว่านสังคมที่พร้อมจะกดดันและใจร้ายต่อกัน
เราก็จะได้รับสังคมที่พร้อมจะกดดันเราและใจร้ายต่อเราเช่นกัน
ขอพระเจ้าอวยพรสังคมนี้ ให้หว่านแต่น้ำใจให้แก่กัน
Writer: August
#หว่านอะไรเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น
#เปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย