ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า Grab เป็นผู้นำในตลาดเรียกรถ ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งตลาดนี้มีขนาดใหญ่มากและมีศักยภาพในการทำกำไรสูง
แถมมีช่องทางให้ขยายตลาดที่เป็นไปได้ (TAM) เพิ่มได้อีก เช่น รถไร้คนขับ, ขนส่งระหว่างเมือง ฯลฯ
คนรุ่นใหม่จำนวนมาก ใช้บริการ Grab คนจนเป็นเรื่องปกติ แถมสำหรับใครหลาย ๆ คน สิ่งนี้เป็นบริการจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน
Grab มีจุดแข่งทางธุรกิจในหลายมิติ เช่น มี local network effect ที่ใหญ่กว่าคู่แข่ง, มีประสบการณ์การใช้งานและคุณค่าที่มอบให้ลูกค้าที่น่าดึงดูด, มีผู้บริหารที่เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท, แบรนด์ที่ติดตลาด
ส่วนธุรกิจฟู้ดดิลิเวอรี แม้ยังแข่งขันกันเดือด แต่ก็เป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่ผู้บริโภคนึกถึง ซึ่งสำหรับธุรกิจนี้เอง จะทำกำไรได้ในอนาคตไหม ต้องติดตามกันต่อไป แต่คาดว่าเมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็อาจะถึงจุดคุ้มทุน และทำกำไรได้เหมือนธุรกิจเรียกรถ
ในแง่ผลประกอบการในภาพรวม บริษัทมีตัวเลขขาดทุนที่มีแนวโน้มลดลง
ิีและอีกไม่นาน อาจทำกำไรได้
ซึ่งก็มีสัญญาณที่ดีแล้ว เพราะธุรกิจในบางประเทศเริ่มทำกำไรได้แล้ว เช่น ประเทศไทย
ส่วนฐานะทางการเงิน
Grab มีหนี้สินน้อยมาก เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ (ซึ่งกว่า 58% ของสินทรัพย์ทั้งหมด เป็นเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด)
โดยบริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด คิดเป็น 2.6 เท่าของหนี้สินทั้งหมด บริษัทจึงมีสภาพคล่องสูงมาก และสามารถทนกับสภาวะเศรษฐกิจ-การแข่งขัน ที่ท้าทายได้ในระยะสั้น-กลาง
ส่วนราคาหุ้นนั้น ตอนนี้อยู่ที่ 3.3 เหรียญ/หุ้น ปรับตัวลงกว่า 74% นับแต่เข้าตลาด (จาก 12.4 เหรียญ/หุ้น) ซึ่งตอนนี้ถือเป็นราคาที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล และเป็นโอกาสซื้อหุ้นในราคาส่วนลด
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
