18 ส.ค. 2023 เวลา 13:00 • สิ่งแวดล้อม

มหาสมุทรดูดซับความร้อน 90% สัญญาณอันตรายโลกรวน

90% ของความร้อนจาก “โลกรวน” หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาสมุทรได้ดูดซับเอาไว้ เเละทำไมจึงเป็นสัญญาณอันตรายเมื่อมหาสมุทรร้อนขึ้นทุกขณะ
"มหาสมุทร" ดูดซับความร้อนซึ่งส่วนใหญ่มาจาก “ภาวะโลกร้อน” ทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิตรวมถึงมนุษย์ด้วย ซึ่งดูเหมือนว่ามหาสมุทรทำงานหลายอย่างในการลดระดับความร้อนเลยก็ว่าได้ นี่คือข้อมูลจาก “เบย์เลอร์ ฟอกซ์ เคมเปอร์" ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์โลก สิ่งแวดล้อม และวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์แห่งมหาวิทยาลัยบราวน์ กล่าวกับซีเอ็นบีซี
3
เขายังบอกอีกว่า กว่าร้อยละ 90 ของความร้อนบนโลก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พบได้ในมหาสมุทรที่อุ่นขึ้น บางส่วนอยู่ในพื้นผิวมหาสมุทร และบางส่วนอยู่ที่ระดับความลึก คือสาเหตุที่อุณหภูมิในมหาสมุทรสูงเป็นประวัติการณ์
1
มหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ อุณหภูมิพื้นผิวเฉลี่ยทั่วโลกแตะระดับสูงสุดที่ 69.73 องศาฟาเรนไฮต์หรือ 20.96 องศาเซลเซียส ในวันที่ 31 กรกฎาคม ตามชุดข้อมูลที่ดูแลโดย “โคเปอร์นิคัส” หน่วยงานสังเกตการณ์โลกในโครงการอวกาศของสหภาพยุโรป ซึ่งย้อนกลับไปใน ปี 1979 ชุดข้อมูลเฉพาะนี้วัดอุณหภูมิที่ประมาณ 33 ฟุตใต้พื้นผิวมหาสมุทร
ในมหาสมุทรนอกชายฝั่งฟลอริดา เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของผลกระทบที่ชัดเจนขึ้นของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพราะมีอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 101 องศาฯ NASA กล่าวว่า เดือนกรกฎาคมเป็นเดือนที่อบอุ่นที่สุดของการบันทึกย้อนหลังไปถึงปี 1880
4
"มหาสมุทรอุ่นขึ้นที่เห็นอยู่ในขณะนี้แสดงถึงสัญญาณการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เพิ่มขึ้น" เบนจามิน เคิร์ทแมน ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์บรรยากาศแห่งมหาวิทยาลัยไมอามี กล่าว และสิ่งนี้สอดคล้องกับสภาพอากาศที่รุนแรงในระบบภูมิอากาศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นคือ คลื่นความร้อน ความร้อนในทะเลที่เพิ่มมากขึ้น ความแห้งแล้งในพื้นที่ที่แห้งแล้งอยู่แล้ว น้ำท่วมในพื้นที่ที่เปียกชื้นอยู่แล้ว ลมแรง และไฟ
4
อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลที่สูงเป็นประวัติการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย รวมถึงปรากฎการณ์ "เอลนีโญ" ซึ่งกำลังมีผลอยู่ในขณะนี้ เช่น เอลนีโญในมหาสมุทรแปซิฟิก และรูปแบบที่คล้ายกันในมหาสมุทรแอตแลนติก
2
ปัจจุบัน ร้อยละ 44 ของมหาสมุทรทั่วโลกกำลังเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า คลื่นความร้อนในทะเล ตามข้อมูลของ ซาราห์ แคพนิก หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของสำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ (National Oceanic and Atmospheric Administration : NOAA) นั่นคือ เปอร์เซ็นต์สูงสุดของมหาสมุทรทั่วโลกประสบกับคลื่นความร้อนในทะเลตั้งแต่ปี 1991
ยิ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเท่าไหร่ มหาสมุทรก็ยิ่งร้อนขึ้นเท่านั้น
นักวิทยาศาสตร์ ระบุว่า ก๊าซเรือนกระจกทำให้ระบบภูมิอากาศทั้งหมดอุ่นขึ้น รวมถึงมหาสมุทรด้วย พูดง่ายๆ ก็คือ ก๊าซเรือนกระจกทำหน้าที่ดักจับความร้อนมากขึ้น ซึ่งบางส่วนถูกดูดซับโดยมหาสมุทร ดังนั้น เมื่อความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น พวกเขาจึงคาดว่ามหาสมุทรจะดูดซับความร้อนมากขึ้นเช่นกัน
2
เหตุใดจึงเป็นเรื่องสำคัญเมื่อมหาสมุทรร้อนขึ้น
มหาสมุทรที่อุ่นขึ้นทำให้เกิดพายุที่รุนแรงขึ้น "เฮอริเคน" และ "ไซโคลนเขตร้อนและนอกเขตร้อน" ดึงพลังงานส่วนใหญ่มาจากอากาศอุ่นและชื้นใกล้พื้นผิวมหาสมุทร น้ำทะเลที่ร้อนขึ้น หมายถึงอากาศที่อุ่นขึ้นและชื้นขึ้น ซึ่งจากนั้นจะมีพลังงานมากขึ้นนำไปสู่พายุที่แรงขึ้น
2
แต่ผลกระทบของน้ำทะเลที่ร้อนขึ้นต่อพัฒนาการของพายุเฮอริเคนนั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับภูมิภาคของมหาสมุทรที่มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงสุด อุณหภูมิของมหามหาสมุทรแอตแลนติกเขตร้อนลึกทางตอนใต้ของละติจูด 20 องศา วิกฤตเป็นพิเศษ และที่ใดก็ตามที่พายุเฮอริเคนก่อตัวขึ้น มหาสมุทรที่ร้อนระอุจะเสริมความแข็งแกร่ง
1
อุณหภูมิของมหาสมุทรที่สูงเป็นประวัติการณ์ทำให้เกิดพายุที่รุนแรงขึ้น ฆ่าสิ่งมีชีวิตอย่าง ปลา แนวปะการัง เร่งการเจริญเติบโตของสาหร่ายที่เป็นอันตราย และในระยะยาวทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
3
The Coral Restoration Foundation ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรเพื่อการฟื้นฟูแนวปะการังซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐฟลอริดาได้นำปะการังออกจากมหาสมุทรและใส่ไว้ในถังกักเก็บบนบก เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ทีมงานของ Coral Restoration Foundation ได้ไปเยี่ยมชม Sombrero Reef ซึ่งเป็นพื้นที่ฟื้นฟูที่ทำงานกันมานานกว่าทศวรรษ สิ่งที่พบนั้นคือ การตายของปะการัง 100 % ผู้จัดการโครงการฟื้นฟูของมูลนิธิฟื้นฟูปะการัง กล่าวในแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรเมื่อเดือนกรกฎาคม
1
ข้อมูลพบว่า แนวปะการังเติบโตได้ดีในอุณหภูมิมหาสมุทร ระหว่าง 73-84 องศาฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 22-28 องศาเซียลเซียส สามารถอยู่รอดได้ทั้งในอุณหภูมิที่สูงขึ้นและต่ำลงในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่อุณหภูมิของมหาสมุทรที่ร้อนจัดในฟลอริดาทำให้เกิด “การฟอกขาวของปะการังเป็นวงกว้าง”
สาหร่ายอันตรายมากขึ้น
สิ่งมีชีวิตที่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วในอุณหภูมิมหาสมุทรที่ร้อนจัดและทำให้เกิดสาหร่ายที่เป็นอันตรายได้แก่ สาหร่ายสีแดง และสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน ทั้งคนและสัตว์สามารถป่วยได้จากการสัมผัสกับสาหร่ายเหล่านี้หรือรับประทานอาหารทะเลที่ปนเปื้อน
1
ความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับชนิดของสาหร่ายและระยะเวลาที่ได้รับสาร อ้างอิงจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สาหร่ายจะบานรุนแรงขึ้นเมื่อไนโตรเจนและฟอสฟอรัสในปุ๋ยไหลลงสู่มหาสมุทร และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบเนื่องจากความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นของทั้งพายุฝนและพายุฝนแล้ง
ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
มหาสมุทรที่อุ่นขึ้นจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลและความเสี่ยงจากน้ำท่วมชายฝั่ง โดยทั่วไปแล้ว ประมาณ 2 ใน 3 ของการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลทั่วโลกเกิดจากน้ำแข็งละลายจากแอนตาร์กติกา กรีนแลนด์ และธารน้ำแข็งในทวีป และอีก 1 ใน 3 เกิดจากอุณหภูมิโดยรวมที่เพิ่มขึ้น
1
ข้อมูล
1
Oceans absorb 90% of the heat from climate change — here’s why record ocean temps are so harmful
South Florida ocean temperature tops 101 degrees Fahrenheit, potentially a record
The ongoing marine heat waves in U.S. waters, explained
Global sea surface temperature reaches a record high
โฆษณา