เพราะไปร่วมงานมุทิตาจิตของอาจารย์ จึงมีโอกาสได้พบเจออาจารย์ เพื่อน รุ่นพี่และรุ่นน้อง... และอาจจะด้วยวัย เราจึงพูดคุยกับอย่างลึกซึ้งมากขึ้น...
จากการพูดคุยวันนั้น เราถึงได้รู้ว่า.... ภาพของคนอื่นที่เขาเห็นเราคืออะไร.....
พี่รู้ไหม หนูเป็นรุ่นน้องทำงานอยู่กับพี่ เห็นพี่ทำงาน พี่โคตรเท่เลย ผู้หญิงอะไรเท่สุด เก่ง ทำได้ทุกอย่าง พี่ดูคนไข้พี่ทำได้หมด พี่เป็นไอดอลของหนูเลยนะ...
น้องรุ่นใกล้ๆกัน เราจะได้ทำงานด้วยกัน เราเป็นพี่ในทีม น้องอยู่ในทีมที่เราดูแล.... เล่าสู่เราฟัง
คือ.... จุดนั้น มันจำเป็นนะน้อง ความรับผิดชอบ มันต้องทำให้ได้ ไม่งั้นคนไข้ตาย
เธอรู้ไหม ตอนที่พวกเราเป็นนักศึกษาแพทย์ ฉันมองเธอยังไง... ฉันว่าเธอเก่งมากเลย เธออาจจะไม่ใช่คนเก่งแบบตัวท็อปๆ แต่เธอก็ไม่ธรรมดา เธอกล้าพูด กล้าถาม กล้าตอบ เวลาอาจารย์ให้ discuss อะไรเธอจะช่างคิด จะมีวิธีคิดที่ดีแล้วก็กล้าพูด เธอดูเท่มากรู้ไหม ในขณะที่เราขอไปหลบอยู่ท้ายกลุ่ม ....
จริงเหรอ.... ดูเป็นแบบนั้นจริงๆเหรอ..
จริงสิ.... ภาพของเธอเป็นแบบนั้น
ตอนนั้นสำหรับเราก็แค่...เวลาอาจารย์ถาม กลุ่มมันไม่ควรเงียบนะ แค่ใครสักคนเป็นหน่วยกล้าตาย ตอบๆไปเถอะ ผิดอาจารย์ก็สอนอยู่ดี ถ้าเงียบอาจารย์อาจจะไม่พูดอะไรเลยเหมือนกัน....
เราไม่ได้เก่ง แค่เรา กล้าผิด.....​
ผิดจนอาจารย์ต้องหยิกแขนไว้อย่างเอ็นดู.... นี่เธอคิดก่อนมั่วก็ได้นะ หนูจะตอบผิดคำเว้นคำไม่ได้.... ไม่ต้องรีบ.... 😂😂😂
เรามองเห็นภาพสะท้อนของตัวเองได้อย่างไรบ้าง บ่อยแค่ไหน และเพื่ออะไร....
คนอื่นเป็นเหมือนกระจก ส่องตัวตนเราจากภายนอกที่เขามองเห็นภาพของเราเป็นไปตามสิ่งที่เราทำ บวกรวมกับความคิดของเขา... อาจจะใช่เรา หรือไม่ใช่เรา อาจจะตรงหรือไม่ตรงกับที่เราคิด....
คนอื่นมองเรา แต่มันก็จะเห็นได้แค่ไม่กี่แบบ ดีก็ได้ ไม่ดีก็ได้ หรือเฉยๆ กลางๆ..... ทั้งหมดคือการกระทำของเราบวกความเห็นของคนอื่น.....
ภาพสะท้อนเหล่านี้ เราอาจจะไม่ได้มีโอกาสเห็นหรือรับรู้บ่อยยๆ และจะมีกี่ซักคนที่ซื่อสัตย์สะท้อนภาพของเราตามความเป็นจริงและกล้าที่จะบอกเราอย่างเมตตาเอ็นดู....
ภาพสะท้อนเหล่านี้ อะไรที่มันดีก็รักษาไว้ อะไรที่มันแก้ไขได้ เราก็ปรับปรุงตัวเพื่อประโยชน์ของตัวเอง
แต่เราไม่จำเป็นทำเป็นดีย์
เพื่อให้ใครๆให้ค่าเราว่าดีย์....
สิ่งที่คนอื่นเห็นคือเขาเห็น กระจกช่วยให้เห็นแค่รูปลักษณ์ข้างนอกที่สัมผัสได้ด้วยตา ผ่านการประมวลด้วยยใจคนอื่น แต่ข้างในเราต่างหากที่รู้....
แต่เชื่อเถอะ ข้างนอกจะดูดี.... ขอให้เริ่มจากข้างใน...
1
เมื่อได้ยินได้ฟังจากคนอื่น นั่นก็เป็นภาพที่คนอื่นมองเห็น การที่เขาพูดบอกเราออกมา ถือว่าเราโชคดีที่ได้รับฟังค่ะ บางเรื่องเป็นมุมดีๆที่เราก็ไม่ทันได้คิดว่าภาพจำ... ของเราในสายตาคนอื่นเป็นแบบนั้น บางเรื่องก็เป็นมุมที่ต้องปรับปรุง มันก็เป็นภาพสะท้อนที่มีคุณค่า สามารถนำไปใช้พัฒนาตัวเองได้
แต่ภาพอสะท้อนข้างใน มีเพียงเราที่จะรู้และเห็นมากที่สุด....
การเห็นตัวเอง... เราเห็นและรับรู้ได้ตลอดเวลา.....
ปกติจะมองเห็นและคุยกับตัวเองเสมอๆ ถึงสิ่งที่เรา พูด คิด และทำลงไป การมองเห็นตัวเอง ควรเห็นทุกๆวัน เห็นให้บ่อย เห็นให้ได้ตลอด....สุข ทุกข์ แต่ละวัน เรารู้เราเห็นของเราทุกวัน....
เมื่อชีวิตปกติดี เราอาจจะไม่ได้พูดคุยกับตัวเองเป็นพิเศษมากมาย ตรวจสอบใจเป็นระยะ ว่ามันสบายดีไหม
แต่ถ้าเมื่อไหร่ เรามีเรื่องไม่สบายใจ มีปัญหา เราคงต้องมาทบทวนตัวเองว่า วันนี้เกิดอะไรขึ้น เราคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร เราตัดสินใจทำอะไรลไป เราเสียใจเพราะอะไร เราดีใจเพราะอะไร การพูดคุย และมองเห็นตัวเองในทุกแง่มุมอย่างยอมรับความเป็นจริง จะทำให้เราเห็นและเข้าใจคนหนึ่งคนคือตัวเองมากขึ้น
1
เห็นทั้งสิ่งที่ดี และไม่ดี เห็นทั้งสิ่งที่ถูกต้องและไม่เหมาะไม่ควรในตัวเรา....ความคิดเรา ใจเรา ใครจะรู้ดีเท่าเรา
อะไรที่ดีแล้ว ให้รักษาไว้ อะไรที่พลาดพลั้งไปก็ควรต้องปรับปรุง ไม่ต้องรอถึงพรุ่งนี้ที่จะเริ่มต้นใหม่
เมื่อไหร่ที่รู้ตัวว่าพลาด ทุกอย่างคืออดีต เราเริ่มใหม่ได้ทันทีค่ะ....
ทันทีที่รู้ตัวว่าพลาดพลั้ง.... ตอนนั้นคือการเริ่มต้นใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว.... เรามีสิทธิ์เลือกการกระทำทันที....
9 ถูกใจ
3 แชร์
807 รับชม
แสดงความคิดเห็นของคุณ...
  • 9
    โฆษณา