21 ส.ค. 2023 เวลา 05:44

เมื่อบ้านไม่ใช่ Safe Zone

บ้านในความหมายของฉันคือ ที่ๆ ฉันเติบโตมาพร้อมกับคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ พี่น้อง บ้านที่ฉันอยู่ในตอนเด็กมักจะเป็นบ้านที่มีแค่ ฉัน พี่สาว และแม่ เพราะพ่อกับแม่แยกกันอยู่ ตัวพ่อเองมีครอบครัวใหม่ฉันเติบโตมาพร้อมกับเด็กข้างๆ บ้านที่เล่นมาด้วยกัน เมื่อถึงจุดที่ฉันเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ ฉันก็ยิ่งเป็นคนเก็บตัวมากขี้นๆ วันๆ อ่านการ์ตูน หนังสือ อาจะเป็นเพราะการมีพี่สาวที่ต่างวัยกันมากๆ เราห่างกันเกือบ 10 ปี
และแม่ที่ชื่นชอบการเข้าสังคมมากกว่าอยู่กับลูกสาววัยกำลังโต การให้ความรักของที่บ้านของฉันคือ การปล่อยให้ลูกเป็นอิสระ และโดดเดี่ยว เมื่อฉันเข้าสู่วัยที่ต้องเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ฉันคิดว่าฉันอยากจะไปอยู่กับพ่อ เพราะคิดว่าพ่อน่าจะรักฉันมากกว่าแม่ เพราะฉันขออะไร พ่อก็ตามใจทุกอย่าง ไม่ว่าจะขออะไรก็ให้อย่างไม่มีเงื่อนไข จนฉันคิดว่า อ่อ นี่แหละความรัก และความอบอุ่นที่ฉันอยากได้
แต่แล้วเมื่อฉันได้ไปอยู่กับพ่อ ฉันก็ได้ค้นพบความจริง ว่าการที่พ่อตามใจเพราะพ่อไม่รู้จะแสดงความรักอันน้อยนิดของพ่อออกมาได้อย่างไร การอยู่กับครอบครัวใหม่ของพ่อ ทำให้ฉันค้นพบบางอย่างที่พ่อไม่เคยบอกกับฉันว่าจริงๆ แล้ว ลูกๆที่พ่อรักจริงๆนั้นก็คือน้องๆ กับแฟนใหม่ของพ่อต่างหาก สิ่งที่พ่อให้ฉันมันก็แค่เศษเสี้ยวของความรักเท่านั้น ฉันอยู่ในบ้านหลังนั้นทั้งน้ำตา ไม่มีวันไหนที่ฉันไม่รู้สึกทุกข์ใจ ความสุขก็มี แต่เมื่อนึกถึงภาพวันวานแล้ว ความขมขื่นในใจมันมากมายเหลือเกิน
ฉันเคยขอร้องให้ฉันออกไปจากบ้านหลังนี้ แต่ก็ไม่มีประโยชน์ พ่อบอกว่าเราคือครอบครัว แต่พ่อก็เห็นว่า ฉันไม่ได้มีความสุขเลย แต่ทำไมถึงยัดเยียดคำว่าครอบครัวให้กับฉันทั้งๆ ที่ฉันไม่มีความสุข ฉันอดทนอยู่ในบ้านหลังนั้นเกือบ 10 ปี จนวันที่แฟนของพ่อไล่ฉันออกจากบ้าน เพียงเพราะว่าไม่พอใจที่ฉันไม่ดูแลลูกๆ ให้เขา และก็มีปัญหาสะสมอีกหลายๆ อย่าง
วันที่ฉันออกมาจากบ้านหลังนั้น ฉันรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะที่ผ่านมาฉันไม่กล้าออกมาเพราะกลัวพ่อเสียใจ แต่ในวันที่ฉันในออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ฉันถึงได้ค้นพบว่า ที่ผ่านมาฉันรักตัวเองในทางที่ไม่ถูกนัก ฉันกลัวการไม่มีเงิน ฉันกลัวพ่อโกรธ ฉันกลัวพ่อไม่รัก ฉันกลัวการอยู่คนเดียว อีกหลายๆ อย่างที่ฉันกลัว แต่ฉันนึกไม่ค่อยออกแล้ว วันนี้ฉันอยากขอบคุณแฟนใหม่ของพ่อเหลือเกินที่ไล่ฉันออกมาจากบ้าน เพราะมันทำให้ฉันได้ค้นพบว่าแท้ที่จริงแล้ว ฉันควรจะออกมาได้ตั้งนานแล้ว
ตั้งแต่วันที่ฉันมีอาชีพ มีรายได้ ฉันไม่ควรอดทนเพียงเพราะกลัวว่าใครจะโกรธฉัน หรือกลัวว่าตัวเองจะไม่มีเงินพอ ฉันควรจะออกมาดูแลตัวเอง ใจของตัวเอง ที่ถูกย่ำยี ฉันไม่โทษใครเพราะตัวฉันเป็นคนเลือกเอง ทุกๆ ประสบการณ์ในชีวิต ทุกๆ โอกาส ฉันสมควรเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะฉันได้เลือกมันเอง ฉันยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไข
วันนี้เมื่อฉันมองย้อนกลับไป ทุกอย่างในชีวิตล้วนมีค่าให้ตระหนักถึง ว่าจะตัดสินใจทำอะไรคิดให้ดี ทุกการตัดสินใจเรา เรารับผลลัพธ์ของมันได้ไหม แล้วเมื่อเราตัดสินใจพลาดเราควรจะกู้สถานการณ์อย่างไร แล้วอนาคตของเราต้องการอะไร ในวันที่ฉันอยู่กับครอบครัว ฉันไม่เคยวาดฝันถึงอนาคตเลย เพราะคิดว่าเราอาจจะต้องอยู่กันไปแบบนี้ แต่ในวันที่ฉันออกมาแล้วอยู่ได้ด้วยตัวเอง ฉันกลับค้นพบแรงบันดาลใจ และความฝันอีกมากมาย ฉันกลับมารักตัวเองในแบบที่ถูกต้อง
บ้านไม่ใช่เซฟโซนของฉัน แต่เซฟโซนของฉันคือตัวของฉันเอง ที่ๆฉันอยู่ แล้วฉันรู้สึกมีความสุข เป็นอิสระ มีความเป็นตัวเองได้อย่างที่อยากจะเป็น มีความฝัน มีความหวัง มีความรัก มีความอบอุ่นอยู่ในใจ ทุกๆ คนล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ฉันเข้าใจดี แต่เราก็ต้องเลือกที่จะอยู่ใกล้คนที่ทำให้มีความสุขด้วยเช่นกัน คนที่รักเรา และมอบแต่ความหวังดีให้กันจริงๆ ยินดีเมื่อเราประสบความสำเร็จ ยินดีที่จะให้คำแนะนำ และคำปรึกษาที่ดี เป็นพลังงานบวกให้แก่กัน
ณ วันนี้ เมื่อเราโตขึ้น เรากลับคาดหวังคนอื่นน้อยลง แต่หันกลับมาใส่ใจตัวเองยิ่งขึ้นๆ เพราะเราไม่สามารถควบคุมคนอื่นได้ แต่ตัวเราสิที่สามารถควบคุมตัวเองได้ ฉันขอส่งพลังใจให้ทุกๆ คน คนที่จะเยียวยาหัวใจของเราได้ก็คือตัวเราเอง วันนี้คุณรักตัวเองแล้วหรือยัง ?
โฆษณา