[เรื่องเล่าของสาว(เหลือ)น้อย] ๙ เทพนารี ที่สายมู นิยมบูชา ช่วงนี้กระแสนิยมบูชารูปปั้นที่มีความเชื่อส่วนบุคคลว่าสามารถบันดาลดลให้ร่ำให้รวย ถูกหวย สมปรารถนา กำลังมาแรง

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

22 ส.ค. 2023 เวลา 16:26 • ประวัติศาสตร์

๙ เทพนารี ที่สายมู นิยมบูชา

ช่วงนี้กระแสนิยมบูชารูปปั้นที่มีความเชื่อส่วนบุคคลว่าสามารถบันดาลดลให้ร่ำให้รวย ถูกหวย สมปรารถนา กำลังมาแรง

แม่เหน่งก็ขอโหนกระแสกะเขาหน่อย แต่เป็นความเชื่อ ความนับถือ ความศรัทธา เป็นเรื่องเล่าขาน ผ่านกาลเวลา บันทึกเป็นตำรา เป็นประวัติศาสตร์ มานับร้อย นับพันปี แล้วนะคะ

อันดับแรกเลย เทพนารีหรือเทวนารี ที่แม่เหน่งจะกล่าวถึง ก็คือ "ตรีเทวีหรือตรีศักติ" เป็นการอวตารรวมภาคของพระมหาเทวีสูงสุด ๓ องค์ในศาสนาฮินดู อันได้แก่

พระแม่ปารวตี หรือ พระแม่อุมาเทวี พระมเหสีของพระศิวะ (ผู้ทำลายโลก)

พระลักษมี พระมเหสีของพระนารายณ์หรือพระวิษณุ

(ผู้ดูแลโลก)

พระสุรัสวดี หรือพระสรัสวตี พระมเหสีของพระพรหม

(ผู้สร้างโลก)

ตรีศักติ หรือ ตรีเทวี

พระแม่สุรัสวดี เป็นตัวแทนแห่ง ปัญญาความรู้ 📚

พระองค์มีความงามแบบ สุขุม นิ่ง เยือกเย็น ดูฉลาด

พระแม่ลักษมี เป็นตัวแทนแห่ง ความร่ำรวย 💍💎

ทรงมีความงาม แบบน่ารัก นุ่มนวล อ่อนช้อย ดูอบอุ่น

พระแม่อุมา เป็นตัวแทนแห่ง ความมีอำนาจ ⚡

พระองค์ทรงงามแบบมีความน่าเกรงขาม ดูดุ เฉียบขาด

ดูกร บุรุษแลสตรีทั้งหลาย โปรดจงรายล้อมเข้ามาฟังเรื่องราวของตรืศักติ มหาเทวนารีทั้ง ๓ องค์นี้เทอญ

พระสุรัสวดี 🥁 🎶 📖 🖌

ทรงเป็นธิดาแห่งพระทักษะและนางประสูตร พระองค์ทรงเป็นเทวีแห่งสรรพความรู้ วิชาการอันล้ำลึก เป็นสัญลักษณ์ แห่งศิลปะทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นการวาดเขียน ดนตรี อักษรศาสตร์

รูปภาพปรากฎของพระแม่สุรัสวดี มักจะทรงเครื่องดนตรีที่เรียกว่า "วีณา" (จะเข้ของอินเดีย) มีหงษ์หรือนกยูงเป็นพาหนะ

รูปพระสุรัสวดีทรงเครื่องดนตรี จะเข้ของอินเดีย

รูปพระสุรัสวดี แบบไทยๆ

วงการภาพยนตร์ไทย ถือว่าพระองค์เป็นผู้อุปถัมภ์การละคร การแสดง จึงได้มีการมอบรางวัลพระสุรัสวดี ให้แก่นักแสดง

"นโม เทวเย สรัสวัตเย" มนตราความสำเร็จแห่งพระศรีสรัสวดี เทวีแห่งปรีชาญาน ผู้ที่อยากสำเร็จในอาชีพการงาน การศึกษา เอ่ยท่องมนตราและกราบไหว้บูชาต่อหน้ารูปของพระแม่สุรัสวดีเทอญ

พระแม่ลักษมี 💎💍📿💰💸

พระแม่ลักษมี เทวีแห่งความร่ำรวบ

พระแม่ลักษมี ถือกำเนิดจากฟองน้ำ ในคราวเทวดาและอสูรกวนเกษียรสมุทรทำน้ำอมฤต จึงได้นามว่า ชลธิชา (เกิดแต่น้ำ) หรือ กษีราพธิตนยา (ลูกสาวแห่งทะเลน้ำนม) ในขณะที่ผุดขึ้นมานั้นพระนางทรงนั่งมาในดอกบัว แถมมือยังถือดอกบัวมาด้วย จึงเรียกอีกพระนามว่า ปัทมา หรือ กมลา

พระแม่ลักษมี เป็นเทพนารีผู้อำนวยโชค มีน้ำพระทัยเมตตา เป็นเทวนารีที่งามทั้งรูปโฉมและกิริยามารยาท มีวาจาไพเราะ เป็นเทพอุปถัมภ์ของเหล่าสตรีทุกชนชั้น

พระลักษมี เทพนารีผู้ทรงโฉมงดงามทั้งกายใจ

ครั้งหนึ่ง ๗ ฤๅษีผู้ยิ่งใหญ่ หรือ สัปตะฤๅษี ได้มารวมตัวกัน ณ ริมฝั่งแม่น้ำสรัสวดี เพื่อถกเถึยงกันว่าเทพ ๓ องค์ คือ พระพรหม พระศิวะ และพระนารายณ์ เทพองค์ใดยิ่งใหญ่ที่สุด และคู่ควรที่จะได้รับเครื่องบูชายัญมากที่สุด เถึยงกันไปมาหาข้อยุติไม่ได้ เหล่าฤๅษีจึงตัดสินใจให้ "ภฤคุมุนี" อ่านว่า พะ-รึ-คุ-มุ-นี ไปหาข้อสรุปมาให้ได้ว่าเทพองค์ใดยิ่งใหญ่ที่สุด คล้ายๆกับกรรมการตัดสิน การประกวดนางงามนั่นแหละค่ะ

ฤๅษีมฤคุ เริ่มต้นที่การไปพบพระพรหม ซึ่งขณะนั้นกำลังท่องพระเวทอยู่กับพระสุรัสวดี จึงไม่สนใจต้อนรับท่านมหาฤๅษีเท่าใดนัก ทำให้มหาฤๅษีภฤคุโกรธมาก และด่าทอพระพรหมขนานใหญ่ ก่อนที่จะได้รับอันตรายจากความพิโรธขององค์เทพทั้งสอง ภฤคุมุนีก็แปลงเป็นฤๅษีขี่มอเตอร์ไซค์ใส่หมวกกันน็อค ซิ่งหนีไปเขาไกรลาศเพื่อพบพระศิวะ โดยให้คะแนนพระพรหมไว้ในระดับต่ำ

ณ เขาไกรลาศ พระศิวะกำลังอภิรมย์อยู่กับพระแม่ปารวตี พระโคนนทิ ผู้เป็นพาหนะแห่งองค์พระศิวะ ก็มาขัดขวางไม่ให้ภฤคุเข้าไป ภฤคุมุนีก็เริ่มไฮปาร์ค เอ้ย ! ด่าทอพระศิวะ สร้างความเดือดดาลให้แก่พระศิวะเป็นอย่างยิ่ง แต่พระแม่ปารวตีคอยปรามดึงอารมณ์พระสวามีไว้ ภฤคุเห็นดังนั้นก็โกยด้วย ๒ เท้าก้าววิ่งอย่างเร็วไว แล้วใส่คะแนนให้พระศิวะไว้ในระดับปานกลาง

จากนั้นท่านมหาฤๅษีก็ออกเดินทางไปทะเลไวกูณฐ์ ที่ประทับพระนารายณ์ แล้วก็พบว่า พระนารายณ์บรรทมสินธุ์ ปลุกไปด่าไปเท่าใดพระนารายณ์ก็ไม่ตื่นจากนิทรารมย์อันแสนสุข ด้วยความโมโหภฤคุมุนีก็ใช้แม่ไม้มวยไทยกระโดดถีบยอดอกพระนารายณ์ จนต้องร้องเพลงของพี่หนุ่ย อำพล 🎶 ฝากรอยเท้าเอาไว้ ฝากรอยช้ำเอาไว้...🎵 คือรอยฝ่าเท้าถูกประทับอยู่บนพระอุระของพระนารายณ์เลยคร้า

พระนารยณ์ตื่นจากบรรทม ทั้งไม่เจ็บปวดและไม่โกรธท่านฤๅษี กลับจับเท้าของภฤคุขึ้นมา แล้วถามว่า "พระอาจารย์เจ็บบาทาหริอไม่" ภฤคุมุนีได้ยินก็ปลื้มปริ่มใจ กดไลค์รัวๆให้พระนารายณ์ ใส่คะแนนให้แบบถล่มทลาย ยกพระนารายณ์ให้เป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ใน ๓ เทพตรีมูรติ

เหตุการณ์น่าจะจบแบบ happy ending แต่คนที่ไม่ปลื้มกับการกระทำของท่านมหาฤๅษี คือ พระแม่ลักษมี ศรีภรรยาพระนารายณ์นั่นเอง ด้วยพระอุระนั้นเป็นที่สถิตของพระมเหสีสุดที่รักของพระนารยณ์ เมื่อฤๅษีภฤคุถีบยอดอกพระนารายณ์ก็เท่ากับใช้ "บาทาลูบพักตร์" พระแม่ลักษมีนั่นเองทั้งยังหยามเกียรติพระนารายณ์ด้วย เรียกว่า "พระสวามีข้าใครอย่าแตะ"

พระแม่ลักษมี จึงกล่าววาจาสิทธิ์ว่า "เราจะไม่ไปเยี่ยมเยียนครอบครัวเหล่าพราหมณ์ ฤๅษี มุนี และนักบวชอีกต่อไป" ทำให้ภฤคุตกใจมาก เพราะการที่เทพ-เทวี มิไปเยือนจะทำให้เหล่านักบวชขาดลาภสักการะ กลายเป็นคนยากจนข้นแค้น

ภฤคุมุนีจึงขอขมาต่อพระแม่ลักษมี แล้วชี้แจงว่าที่กระทำไปทั้งหลายทั้งมวลก็เพื่อยืนยันว่าพระนารายณ์เป็นสุดยอดท็อปทรี ในบรรดา ๓ มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ พระเจ้าค่ะ

พระแม่ลักษมีได้ยินดังนั้นก็พระทัยเย็นลง ทรงกล่าวว่า "คำสาปได้ลั่นวาจาออกไปแล้วหาแก้ไขได้ไม่ แต่ก็สามารถเพิ่มเงื่อนไขไปว่า หากเหล่านักบวชทั้งหลายยังหมั่นบูชาพระนารายณ์ ข้าก็ยังจะไปเยี่ยมเยียนครอบครัวนั้นๆ ตามปกติ"

และแล้วเรื่องราวของมหาฤๅษีภฤคุกับเหล่ามหาเทพก็จบลงด้วยความผาสุข

พระแม่ลักษมี เป็นสัญลักษณ์ของความรักและความมั่งคั่ง คาถาอย่างย่อบูชาพระองค์ "โอม ศรี มหาลักษมี เจ นะมะหะ"

พระแม่ปารวตี หรือพระแม่อุมา ⚡👑

พระศิวะ-พระอุมา-พระพิฆเนศ

พระแม่ปารวตี หรือ พระแม่อุมา เป็นเทวีแห่งความอุดมสมบูรณ์ ความรัก พลังอำนาจศักดิ์สิทธิ์ แต่พระนางมีหลายพระนามและมีหลายปาง

พระนางเป็นพระชายาของพระศิวะ เป็นพระธิดาของพระหิมวัต เทพแห่งภูเขา กับพระนางเมนกา

พระนางปารวตีเป็นผู้ให้กำเนิดพระพิฆเนศกับพระขันทกุมาร

พระนางกับพระสวามีทรงเป็นเทพศูนย์กลางแห่งลัทธิไศวะ หรือลัทธิที่ถือองค์พระศิวะเป็นใหญ่ พระนางทรงเป็นพลังงานและอำนาจแห่งการสร้างสรรค์ใหม่ของพระสวามี เป็นหนทางแห่งการปลดปล่อยทางจิตวิญญาณ ในเทวาลัยฮินดูที่สร้างถวายพระนางและพระสวามี มักใช้โยนี (อวัยวะเพศหญิง) เป็นสัญลักษณ์แทนพระนาง

คาถามนตราบูชาพระแม่อุมาเทวี 🙏

โอม ตัสสะ ปารวตี กาลี ทุรคา ปิยัง มะมะ ทุติยัมปิ ตัสสะ ปารวตี กาลี ทุรคา ปิยัง มะมะ ตะติยัมปิ ตัสสะ ปารวตี กาลี ทุรคา ปิยัง มะมะ

แล้วแต่จะเรียกข้า...ปารวตี กาลี ทุรคา อุมาเทวี

พระแม่กาลี 👹

กาลี หรือ กาลิกา เป็นปางหนึ่งใน ๑๐ ปาง ของพระแม่

ปารวตีหรือพระแม่อุมา ซึ่งเป็นปางที่ทรงมหิธานุภาพ มีพลังอำนาจมากที่สุด ทรงเป็นผู้ทำลายความชั่วร้าย และปกป้องผู้บริสุทธิ์

พระแม่กาลี

เมื่อครั้งอสูรทารุณ อสูรร้ายที่ชอบรังแกผู้คน เทวดาไปทั่ว แล้วยังมีชีวิตที่อมตะ จะถูกฆ่าสักกี่ครั้งก็ไม่ตาย แม้เลือดตกต้องธรณีกลับยิ่งเกิดเป็นอสูรทวีคูณไปเรื่อยๆ นานวันมันก็ยิ่งเหิมเกริม คิดจะครองทั้ง ๓ โลก

ดังนั้น เหล่าเทวดา นางฟ้า ผู้ทรงศีลทั้งมวล จึงนำเรื่องไปกราบทูลพระศืวะ เพื่อหาทางปราบอสูรตนนี้ เมื่อพระศิวะตรัสถามหาผู้กล้า กลับไม่มีเทวดา หรือผู้กล้าท่านใดอาสามาปราบอสูรทารุณตนนี้เลย

จนเรื่องราวล่วงรู้ถึงองค์พระอุมาเทวี พระมเหสีของพระศิวะ พระนางจึงมีความประสงค์ที่จะปราบอสูรร้ายตนนี้ จึงขอพรจากพระสวามีให้มีชัยชนะเหนืออสูรทารุณ แล้วจึงเสด็จเพื่อบำเพ็ญตบะ เพื่อเพิ่มอิทธิฤทธิ์ อยู่ในอุทยานแห่งป่าหิมพานต์ และมอบหมายให้พระขันทกุมาร พระโอรสทำหน้าที่เป็นองค์รักษ์เสื้อแพร ดูแลมิให้ใครเข้ามารบกวนพระนาง

เมื่อเวลาผ่านไปพระแม่อุมา ยังไม่เสด็จออกมาจากป่าหิมพานต์เสียที พระศิวะจึงเสด็จไปดู หากแต่เจอกับพระขันทกุมารออกมาขวางกั้นไม่ให้องค์พระศิวะเจ้า เข้าไปในปริมณฑลพิธีได้ เกิดเป็นศึกสายเลือดระหว่างพ่อลูก คือพระศิวะกับขันทกุมาร แต่ไม่นานนักพระแม่อุมาก็บำเพ็ญตบะสำเร็จ

ครั้นเสด็จกลับออกมา "พระแม่อุมาเปี๊ยนไป๋" ทรงทรานส์ฟอร์มเมอร์ส กลายร่างเป็นพระแม่กาลี มีพระฉวีสีดำขลับ พระพักตร์ดุดัน มี ๑๐ พระกรที่ถืออาวุธสังหาร แลบลิ้นยาวถึงทรวงอก มีเลือดไหลออกจากปาก สวมพวงกะโหลกที่คอ

เมื่อพระแม่กาลีทราบความว่าพระศิวะไม่มีความเกรงใจ จะเข้ามาเขตพิธีบำเพ็ญตบะของพระนางให้ได้ จึงโมโหมากจนดวงตาถลนออกมานอกเบ้า หน้าตาดุดัน แลบลิ้นสีแดงยาวเฟื้อย ปากแบะเห็นเขี้ยวโค้งงอ เลือดไหลจากมุมปาก มือ ลำตัว เป็นที่น่าสยดสยองยิ่งนัก พระศิวะมหาเทพเห็นดังนั้นก็ตกใจ โกยอ้าวอย่างไม่คิดชีวิต

พระแม่กาลี ออกตามล่าสังหารอสูรทารุณ เมื่อเผชิญหน้ากันการต่อสู้อันยาวนานก็บังเกิดขึ้น จังหวะที่พระแม่กาลีทรงใช้ดาบฟันคออสูรขาด เลือดของอสูรก็หยดลงบนพื้น ก่อเกิดอสูรร้ายเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก จึงทรงคิดกลอุบายเพื่อเอาชัยชนะต่ออสูรทารุณให้จงได้

เมื่อตัดหัวของอสูรแล้ว พระองค์จะทรงดูดกินเลือดของอสูรไปด้วยก่อนที่เลือดของอสูรร้ายจะตกลงสู่พื้นธรณี หัวที่ตัดได้ก็ร้อยเป็นพวงไว้ ด้วยกลอุบายเช่นนี้ พระแม่กาลีจึงกำชัยชนะอยู่เหนืออสูรทารุณ

พระแม่กาลีทรงดีพระทัยกับชัยชนะครั้งนี้ จึงทรงแด๊นซ์

กระจาย พระบาทที่ทรงยกขึ้นประหนึ่งเหมือนจะกระทืบลงบนพื้นโลกอย่างเต็มแรง

เราหยุดภาพไว้ก่อน เพื่อให้เหล่าเทวดาได้มีเวลารีบพากันไปเฝ้าพระศิวะมหาเทพได้ทันกาล เพราะหากพระบาทของพระแม่เจ้ากระทืบลงบนพื้นโลก โลกนี้คงแตกสลายเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า

พระศิวะเมื่อได้รับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายจากเหล่าเทวดา ก็เสด็จไปหาพระแม่กาลีอย่างรวดเร็วและไปนอนขวางพื้นโลกไว้ พระแม่กาลีก้มลงเห็นพระศืวะนอนขวางอยู่จึงชะงักด้วยความเกรงอกเกรงใจพระสวามี จึงไม่กล้ากระทืบพระบาทลงพื้นดิน และหยุดเต้นระบำ เหล่าเทวดา นางฟ้าทั้งหลายต่างพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก พระแม่กาลีก็ทรงแปลงร่างกลับเป็นพระอุมาเทวีตามเดิม นี่แหละคือที่มาที่ไปกำเนิดพระแม่กาลี

พระศิวะนอนลงบนพื้นโลกขวางพระบาทพระแม่กาลีไว้

การบูชาพระแม่กาลี จะทำให้ผู้นั้นปลอดภัย พ้นจากภยันอันตราย อุบัติเหตุร้ายแรง มีสันติสุข

คาถาบูชาพระแม่กาลี 🐉

โอม ศรี มหา กาลิกาไย นะมะห์ (๓ จบ)

โอม ชยะตี มหากาลี ชยะตี อาธยะ กาลี มาตา

ชยะ รูปะ ประจัญทิกา มหากาลิกะ เทวี

ชยะติ รักตาสะนะ เราทะระมุขี รุทะรานี

อริ โศนิตขะไประ ภะระนี ขัททะคะ ธรณี ศุจึ ปาณนีฯ

ใดใดก็แล้วแต่การบูชาท่องคาถาขอพรไม่ว่าจากพระแม่อุมา พระแม่ลักษมี พระแม่สุรัสวดี พระแม่กาลี จะต้องสวดคาถาต่อพระพิฆเนศ ก่อนเสมอ

คาถาบูชาพระพิฆเนศ (อย่างสั้น)

โอม ศรี คเณศายะ นะมะฮา

พระแม่คงคา 🏞

พระแม่คงคาทรงปลาใหญ่ (หรือจระเข้) เป็นพาหนะ

พระแม่คงคา ทรงเป็นพระธิดาของท้าวหิมวัตกับพระนางเมนกา...คุ้นๆไหมคะ...ใช่ค่ะพระแม่อุมา ชายาพระศิวะเป็นน้องสาวของพระแม่คงคาค่ะ

พระองค์ทรงปลาใหญ่หรือจระเข้เป็นพาหนะ

พระแม่คงคา ทรงจระเข้เป็นพาหนะ

พระแม่คงคาเป็นผู้ดูแลรักษาสายน้ำคงคา ซึ่งถือเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลมาจากสวรรค์

พระแม่คงคา ในความเชื่อของอินเดีย คนที่นับถือศาสนาฮินดู จะเน้นไปด้านชำระบาป ไถ่บาป โดยการใช้น้ำอาบ ล้าง และร่วมในพิธีต่างๆ เพื่อบูชาพระแม่ บริเวณที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุด คือ "ตริเวนี" หรือที่คนไทยเรียกกันว่า "จุฬาตรีคูณ" ซึ่งเป็นที่ที่แม่น้ำคงคา แม่น้ำยมนา และแม่น้ำสรัสวดี มาบรรจบกัน สำหรับความเชื่อในไประเทศไทยการบูชาพระแม่คงคา คือการขอขมาพระแม่คงคาในประเพณีลอยกระทง

พระแม่ธรณี 🏜

แม่พระธรณีบีบมวยผม

พระแม่ธรณี หรือพระศรีวสุนธรา เป็นเทพีแห่งพื้นดิน

ปรากฎในตำนานของศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ ทรงเป็นชายาของพระวิษณุ

ในพุทธประวัติ เมื่อครั้งพระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงผจญกับเหล่าพญามาร พญามารออกอุบายต่างๆเพื่อให้พระองค์เกิดกิเลสตัณหา แต่พระพุทธองค์ทรงไม่ยินดียินร้ายแต่ประการใด ในครั้งนั้นพระแม่ธรณีทรงแสดงปาฏิหาริย์ปราบเหล่าพญามาร โดยทรงบีบมวยผม ให้น้ำไหลมาท่วมพวกพญามาร จนพ่ายแพ้ไป

ตำราเก่าแก่สมัยอยุธยา มีบันทึกไว้ว่าการสร้างรูปแบบพระแม่ธรณีขึ้นบูชานั้น ก็เพื่ออำนวยผลทางความมั่นคง และป้องกันสิ่งเลวร้าย

พระแม่ธรณี หรือ พระศรีวสุนธรา ชายาพระวิษณุ

พระแม่โพสพ 🌾

พระแม่โพสพ

ออกจากแดนภารตะกลับมาค้นหาเทพนารีของไทยบ้าง ตำนานพระแม่โพสพนั้น มีเรื่องเล่าจากภาคต่างๆของประเทศไทยหลายตำนาน แม่เหน่งขอหยิบยกเรื่องเล่าขาน ตำนานพื้นเมืองของภาคใต้ กล่าวถึงพระแม่โพสพไว้ดังนี้

นางโพสพ หรือนางโพสาลี เดิมมีกายล่องหน ล่องลอยไปสิงสถิตอยู่ในต้นข้าว ต่อมาพระอินทร์ได้ส่งโคนิลลงมาทำนาให้มนุษย์ โคนิลกินต้นข้าวที่นางโพสาลีสิงสถิตเข้าไป จึงถ่ายมูลออกมาเป็นต้นข้าวสาลี นางโพสาลีจึงสิงสถิตอยู่ในต้นข้าวและเป็นผู้ผลิตข้าวเรื่อยมา

เมื่อมนุษย์ทราบว่าข้าวสามารถนำมาบริโภคได้ก็มีการแย่งชิงและกักตุนข้าวไว้ ครั้นปัญหาการแย่งชิงกักตุนสิ้นสุดลง ก็มีเศรษฐีชื่อโคทอง เป็นผู้มีพระธรรมในใจ นางโพสาลีจึงมาอาศัยอยู่ด้วย เศรษฐีโคทองได้ทำพิธีบูชานางโพสาลี

นางโพสาลีก็อำนวยผลให้โคทองร่ำรวยและเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ ต่อมามีพระโพธิสัตว์นามว่า "พระกุกุสุนโธ" มาเทศนาโปรดมนุษย์ และได้ถามผู้มาฟังเทศนาว่าใครเป็นผู้มีบุญคุณกับมนุษย์มากที่สุด มนุษย์ทั้งหลายต่างพากันตอบว่า "พระโพธิสัตว์"

เมื่อนางโพสาลีได้ยินเช่นนั้นก็เสียใจ ว่าตนเป็นอาหารของมนุษย์มาช้านานแต่กลับไม่มีคนนึกถึงบุญคุณ จึงเกิดอาการงอนแล้วหนีออกจากบ้าน หลังจากนั้นมนุษย์ก็เดือดร้อนมากเพราะไม่มีข้าวกิน จึงออกตามหานาง ในบรรดาผู้ที่าหานางนั้นก็มีนกซังแซวและปลาประหลาดอาสาออกตามหานางโพสาลีด้วย ทั้งสองตามหานางจนเจอ แต่นางก็ไม่ยอมกลับมาด้วย แต่มอบเมล็ดพันธุ์ข้าว ๗ เมล็ดให้กลับมา

ลูกสาวของโคทองตกได้ปลาประหลาดก็นำมาผ่าท้องแล้วพบว่ามีขวัญข้าว จึงจัดพิธีทำขวัญข้าวขึ้นมาตั้งแต่นั้น

ออกจากประเทศไทยข้ามน้ำข้ามทะเลไปประเทศจีนกันบ้างนะคะ เทพนารีจากประเทศจีนที่ชาวไทยนิยมนับถือ ได้ยินชื่อก็ต้องร้องอ๋อกันเลยทีเดียว

องค์แรก เจ้าแม่กวนอิม 😇

เจ้าแม่กวนอิม

พระนามเดิม คือ เจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน ทรงมีพระทัยแน่วแน่ที่จะบำเพ็ญภาวนา เพื่อหลุดพ้นจากวัฏสงสาร แต่พระเจ้าเมี่ยวจวงผู้เป็นพระบิดาไม่เห็นด้วย บังคับให้พระองค์อภิเษกสมรสเพื่อหาราชบุตรเขยสืบบัลลังก์ แต่พระองค์ไม่ยอม พระบิดาจึงกลั่นแกล้งให้ไปทำงานหนักในสวนดอกไม้ แต่ก็ได้รุกขเทวดามาช่วย

พระเจ้าเมี่ยวจวงให้เจ้าหญิงทำงานของแม่ชีทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในวัดนกยูงขาว แต่เทวดาก็มาช่วยอีก พระเจ้าเมี่ยวจวงโกรธสั่งเผาวัดจนวอดวาย แต่เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านรอดมาได้

ฮ่องเต้ผู้บิดาทราบข่าวก็รับสั่งให้นำเจ้าหญิงไปประหาร แต่คมดาบของเพชฌฆาตหาได้ระคายพระวรกายไม่ ดาบหักถึง ๓ ครั้ง ๓ ครา ฮ่องเต้โกรธาสั่งฆ่าเพชฌฆาตเสียเลย เท่านั้นยังไม่พอพระเจ้าเมี่ยวจวงยังประทานผ้าแพรให้เจ้าหญิงแขวนคอ แต่ผ้าแพรกลับขาดสะบั้นลง ทันใดก็ปรากฎร่างของพญาเสือตัวหนึ่งนำเจ้าหญิงขึ้นพาดหลังหนีไปอยู่ที่เขาเซียงซัน

ต่อมาเทพไท่ไป๋ได้แปลงร่างเป็นชายชรามาชี้เคล็ดวิธีการบำเพ็ญเพียรดับทุกข์ จนสามารถบรรลุมรรคผลสำเร็จธรรม

ส่วนพระเจ้าเมี่ยวจวงนั้น ได้ก่อกรรมทำเข็ญไว้มากมาย กลับกลายเป็นคนป่วยด้วยโรคร้ายแรง ไม่มียารักษา เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านทรงทราบด้วยญาณวิถึ ด้วยความมีกตัญญูกตเวทิตา ทรงสละดวงตาและแขนทั้งสองข้างเพื่อรักษาโรคร้ายของพระบิดาจนหาย ภายหลังทรงสำเร็จอรหันต์ ได้ดวงตาและพระกรคืน และยังเคยแสดงปาฏิหาริย์เป็น

"ปางกวนอิมพันมือ"

นักเต้นระบำ แสดงระบำ "กวนอิมพันมือ"

เจ้าแม่กวนอิม เป็นเทพนารีแห่งความรักและความเมตตา ช่วยปัดเป่าทุกข์ โรคภัยไข้เจ็บ และเสริมความเป็นสิรืมงคล

ดั้นต้นมาจนถึงเทพนารีองค์สุดท้ายของบทความอันแสนจะยาวเหยียดนี้ มิรู้มีผู้อ่านจนจบสักกี่คน...คริคริ...แต่แม่เหน่งสนุกสนานเบิกบานใจกับการเขียนบทความนี้มากเลยค่ะ เหมือนต้องมนตราของเหล่าเทพนารีเข้าแล้วจริงๆ

เจ้าแม่ทับทิม 🍊

เจ้าแม่ทับทิม แม่ย่านาง จากจีนสู่ไทย มี ๒ องค์ องค์แรกเป็นจีนฮกเกี้ยน เรียกหมาจอ ภาษาแต้จิ๋วเรียก มาโจ้ว ภาษาจีนกลางเรียก มาจู่ องค์ที่สองเป็นจีนไหหลำ ชื่อจุยบวยเนี้ย แปลว่าพระแม่ท้ายน้ำ มีศาลริมน้ำอยู่ใกล้กัน

เจ้าแม่ทับทิม-มาจู่

พระแม่มาจู่ เป็นเทพที่ได้รับการสถาปนาจากฮ่องเต้ ซึ่งถือเป็นโอรสสวรรค์ สมัยต้นราชวงศ์ชิง เมื่อออกเรือแล้วเกิดคลื่นลมแรงจวนคับขัน เพียงเอ่ยชื่อ มาจู่ ท่านก็จะปรากฎกายมาช่วยได้ทันกาล ชาวเรือเรียกท่านว่า ฉวนโถวเหนียง แปลว่า พระแม่หัวเรือ เชื่อกันว่าท่านสถิตอยู่หัวเรือ ตรงกับความเชื่อเรื่องแม่ย่านางของไทย

แม่ย่านาง

เขียนมาถึงตรงนี้พลันให้นึกถึงเพลงแม่ย่านาง ของซูซู เนื้อเพลงและท่วงทำนองชวนให้คึกคัก มักเปิดในงานแข่งเรือยาว อยู่เสมอ

🎵 ฝนเม็ดน้อย ย้อยหยดลงมา

กลางพรรษา กลางมหา นที

พี่น้องไทย หน้าใสเปรมปรีดิ์

น้ำท่าดี มีบุญแข่งเรือ

แพ้ปีกลาย ฝีพายใจเหี่ยว

เหลียวทางไหน แรงใจนั้นไม่มี

ขอเถืดแม่ ย่านางช่วยที

สู้ปีนี้ เพื่อวัดของเรา 🎶

เอ้า เชียร์กันหน่อยเนาะเชียร์กันหน่อย

เชียร์กันหน่อยเนาะเชียร์กันหน่อย