ดูหนังในยูทูป
Keep Cool (1997) หนัง Rare Item ของจางอี้โหมว
Keep Cool มีชื่อภาษาจีนแปลเป็นไทยได้คร่าวๆ ว่าถ้ามีอะไรจะพูดก็ให้พูดดีๆ ดูเหมือนจะเป็นหนังที่ห่างไกลกับคำว่าหนังของจางอี้โหมวมากที่สุด ทั้งเทคนิคการเล่าเรื่อง ภาพ เสียงที่ประดิดประดอยงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ไม่มีเหลือให้เห็นใน Keep Cool เลย หนำซ้ำเมื่อตลอด 90 กว่านาทีนำเสนอด้วยกล้อง handheld ทั้งเรื่อง ภาพที่ฉวัดเฉวียน ชวนให้งุนงงจนต้องปรับระยะความเคยชิน
ตัวเอกของเรื่องเป็นชายเจ้าของร้านหนังสือที่ตามง้อขอคืนดีขอความรักจากสาวเจ้าท่ามกลางฉากหลังเป็นเมืองใหญ่ จนอาจจะมีเสียงค่อนแคะได้ไว้ Keep Cool เป็นเหมือนงานของหว่องกาไวมากกว่างานของจางอี้โหมวก็คงไม่ผิดนัก
หลังจากผ่านพ้นช่วงรุ่งเรืองสุดขีดในยุคแรก จางอี้โหมวเปิดศักราชหนังยุคใหม่ของเขาในยุคไร้เงาร่างของกงลี่ด้วยงานที่มีฉากหลังเป็นปักกิ่งร่วมสมัย เรื่องราวทั้งหมดอยู่บนท้องถนน เมือง ผู้คน ร้านอาหาร และชีวิตประจำวันของผู้คนในปักกิ่งยุคปี 1997 ยุคที่จีนกำลังเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างกล้าแกร่ง ร้อนแรงที่สุดในโลก เป็นคอมมิวนิสต์ทุนนิยมที่เกิดเศรษฐีใหม่ เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างใหญ่หลวง แล้ว Keep Cool ก็ได้อาศัยจุดนี้มาถ่ายทอดวิถีสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป วิธีคิดระหว่างจีนเก่า และจีนสมัยใหม่
จ้าวเสี่ยวฉ่วยหนุ่มใหญ่เจ้าของร้านหนังสือที่ไม่เคยอ่านหนังสือที่ตนเองขายเลย ติดตามสาวงามอันหงจากข้างถนน ขึ้นรถเมล์ไปจนถึงขี่จักรยานไล่ตามเพื่อขอให้อันหง อดีตสาวคนรักให้โอกาสกับเขาอีกครั้ง จ้าวเสี่ยวฉ่วยใช้วิธีตื้อสาวที่ไม่มีใครเหมือน แต่น่าเสียดายที่อันหงไปมีรักใหม่กับหลิวเต๋อหลงเจ้าของสถานบันเทิงเศรษฐีใหม่
เมื่อนายจ้าวตามตื้ออันหงไม่เลิกรา หลิวเต๋อหลงจึงลงมือสั่งสอน จนทั้งสองสู้กันข้างถนน ในความโกลาหลนั้น จ้าวคว้ากระเป๋าเป้ของจางฉุยเชงชายวัย 50 กว่าๆ ที่บังเอิญไปอยู่ตรงนั้นเหวี่ยงไปที่หลิว ทำให้คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้คในกระเป๋าแตกเป็นชิ้นๆ ในท้ายที่สุดจ้าวก็ยังได้รับบาดเจ็บ แต่เ ขาสาบานว่าจะแก้แค้นหลิวเต๋อหลงด้วยการตัดมือคู่กรณีให้สมแค้น
ส่วนจางฉุยเชงก็ต้องวิ่งไปวิ่งมาระหว่างสองคู่กรณีเพื่อให้ชดใช้คอมพิวเตอร์ที่เสียหาย และเมื่อเขาทราบว่านายจ้าวจะแก้แค้นนายหลิวด้วยการตัดมือ จึงเป็นคนกลางวิ่งเต้นให้ทั้งคู่มาเจรจาคืนดีกันในภัตตาคาร โดยไม่รู้ว่าจะกลายมาเป็นเหยื่อของแผนแก้แค้นนี้ นำไปสู่ความโกลาหลที่ไร้สาระเป็นที่สุด
Keep Cool เป็นหนังเรื่องแรกของจางอี้โหมวที่มีธีมหลักเป็นเมืองในยุคปัจจุบัน ผมว่าเป็นหนังที่เขาสนุกกับการทดลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ ภาพที่ถ่ายด้วยกล้องมือถือ จับระยะนักแสดงแบบภาพใกล้ตลอดเวลา ทำเอารู้สึกอึดอัด แต่มันก็รับกันกับสารของหนังที่ว่าถึงชีวิตในเมืองที่ชวนสับสน บิดเบี้ยว หรือการใช้เพลงประกอบเป็นเพลงป๊อบร่วมสมัย การตัดภาพแบบจัมพ์คัทบ่อยครั้ง ซึ่งการที่เขาเลิกกับกงลี่น่าจะส่งผลให้เขากล้าทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน จะว่าไปแล้วจางอี้โหมวก็ต้องการแสดงการสำรวจสังคมในแบบใหม่ๆ ที่ร่วมสมัยมากขึ้น
ส่วนที่ชัดเจนที่สุดคือการปะทะกันระหว่างวิธีของคนรุ่นใหม่และเก่า คนเก่ามองชีวิตอย่างเข้าใจ ประณีประนอม ขณะที่คนหนุ่มเลือดร้อน มองอะไรเพียงชั้นเดียว
ปัญหาอย่างหนึ่งของหนังตลกคือมักจะมีช่วงเวลาของเขา หากพ้นช่วงเวลานั้นแล้วมันอาจจะไม่ตลกหรือฝืดได้ ยิ่งเล่นกับสถานการณ์ทางสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่าง Keep Cool ด้วยแล้ว จังหวะเวลามีผลมากจริงๆ พอมาดูตอนนี้(2023)ก็รู้สึกว่าหลายสิ่งหลายอย่างมันพ้นยุคสมัยไปแล้ว แต่พอพ้นยุคสมัยไปแล้วมันกลับกลายเป็นภาพบันทึกประวัติศาสตร์ที่ดี
อย่างในเรื่องเรายังเห็นปักกิ่งที่เต็มไปด้วยจักรยานในสมัยที่ปักกิ่งได้ชื่อว่านครหลวงแห่งจักรยาน แต่ปัจจุบันกลายเป็นจักรยานแชร์ริ่ง หรือได้เห็นภาพบ้านเมืองที่กำลังขยายตัว ในแบบที่หนังปัจจุบันให้ความรู้สึกสมจริงแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
เอาชื่อหนังไปค้นในยูทูปได้ครัป
7/10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
