Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เสียบสามเหลี่ยม
•
ติดตาม
21 ส.ค. 2023 เวลา 23:30 • กีฬา
โพสต์เดียวจบทุกข้อสงสัย ทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องแยกทาง เมสัน กรีนวู้ด
ด้วยความที่ เมสัน กรีนวู้ด คือดาวรุ่งในตำแหน่งตัวรุกที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยสร้างจากอะคาเดมี่ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ นั่นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่แฟนบอลปีศาจแดงจะเสียดาย และเสียใจที่สุดท้ายแล้วเขาไม่ได้ไปต่อในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
การที่สโมสรตัดสินใจแยกทางกับนักเตะที่ซัดไปถึง 22 ประตูจากการลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเพียง 83 นัดตั้งแต่อายุยังไม่ทันครบ 21 ปี คือเรื่องที่ทำให้แฟนบอลหลายๆ คนวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจครั้งนี้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การแสดงความคิดเห็นในวงกว้างเป็นไปอย่างยุติธรรม ผมอยากจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่แฟนบอลควรทราบของเรื่องนี้ อย่างน้อยก็จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดๆ กันในหลายๆ เรื่อง
ประเด็นแรกที่หลายคนรู้แล้ว แต่ผมก็ยังเห็นหลายคนที่ยังเข้าใจกันผิดๆ อยู่ ก็คือคิดว่าคนที่ตัดสินใจเรื่องนี้คือ เอริค เทน ฮาก
เอ่อ…ไม่ใช่นะครับ หน้าที่ของ เทน ฮาก คือ “ผู้จัดการทีมของทีมชายชุดใหญ่” แต่เขาไม่ได้คุมทั้งสโมสร
แบรนด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือสโมสรที่ใหญ่กว่าแค่ทีมชายที่เราดูผ่านทีวีกันทุกสัปดาห์ มันยังมีทั้งทีมหญิง, ทีมเยาวชน, มูลนิธิเพื่อสังคม, แบรนด์ลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์เพื่อการค้าเชิงพาณิชย์, มีหุ้นอยู่ในตลาดหุ้นที่สหรัฐอเมริกา และถ้าสำหรับคนอังกฤษแล้ว นี่คือหนึ่งในสถาบันใหญ่ของชีวิตพวกเขา ที่มีอายุในประวัติศาสตร์นานกว่า 100 ปี
คำว่า “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” มันใหญ่กว่าแค่การเป็นทีมฟุตบอลไปแล้ว และเมื่อเรื่องของกรีนวู้ดกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ทางสังคมในวงกว้าง มันจึงตัดสินใจแค่ด้วยมุมมองทางฟุตบอลเพียงอย่างเดียวไม่ได้
คนที่รับผิดชอบเรื่องนี้คือซีอีโอของสโมสรอย่าง ริชาร์ด อาร์โนลด์ เขาคือคนที่ต้องตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะหาทางออกในเรื่องนี้อย่างไร ถึงจะดีที่สุดสำหรับทุกฝ่ายจริงๆ
ริชาร์ด อาร์โนลด์ ซีอีโอสโมสรของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือคนที่มีหน้าที่ตัดสินใจขั้นสุดท้ายเรื่องอนาคตของ เมสัน กรีนวู้ด
ผมขอแปลแถลงการณ์ทั้งหมดที่ ริชาร์ด อาร์โนลด์ เขียนถึงเรื่องนี้เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมาให้สาธารณชนรับรู้นะครับ ว่าเขาบอกอะไรไว้บ้าง
“ในตอนนี้ พวกเราได้สรุปและประกาศผลการสืบสวนของสโมสรต่อ เมสัน กรีนวู้ด ไปแล้ว ผมอยากจะตรงไปตรงมาและโปร่งใสต่อแฟนบอลของเราสำหรับเรื่องของกระบวนการและเหตุผลของการตัดสินใจของเรา”
“นี่คือการสอบสวนทางวินัยเป็นการภายในระหว่างผู้ว่าจ้างและลูกจ้าง ซึ่งโดยปกติแล้วจะกระทำกันนอกสายตาของสาธารณชน ซึ่งเนื่องจากข้อกล่าวหาดังกล่าวได้ปรากฏต่อสาธารณะและต่อประวัติของเมสัน ผมยอมรับว่านี่ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ แต่ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะปฏิบัติตามกระบวนการอย่างเหมาะสม และเท่าที่จะเป็นไปได้มาจนถึงตอนนี้ โดยหลีกเลี่ยงการแสดงความเห็นต่อสื่อมวลชน จนกระทั่งผมจะตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด”
“เมื่อคลิปเสียงและภาพได้ถูกโพสต์บนโลกออนไลน์เมื่อเดือนมกราคม 2022 ความรู้สึกของผมคือช็อคและเป็นห่วงเหยื่อที่ถูกละเมิด สวัสดิภาพ, ความประสงค์ และมุมมองของเธอคือศูนย์กลางของแนวทางการสืบสวนของสโมสรนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตามมาตรฐานและค่านิยมของสโมสร”
“ในขณะที่เราสรุปกันทันทีว่าขอพักงานเมสันระหว่างที่มีการสอบสวน เราก็ตระหนักถึงหน้าที่ของเราในการดูแลเขา และความสำคัญของการตัดสินใจโดยอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ครบถ้วน”
“จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ ซึ่งเป็นเรื่องของตำรวจและสำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อเป็นเวลาที่ข้อกล่าวหาถูกยกฟ้องเท่านั้น สโมสรถึงจะหารือเกี่ยวกับข้อกล่าวหานั้นกับเมสัน และคนอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้”
“การสืบสวนของเราได้พยายามรวบรวมหลักฐานให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อทำให้ข้อเท็จจริงและบริบทมีความหนักแน่น นี่ไม่ใช่กระบวนการที่ทำได้อย่างรวดเร็วหรือตรงไปตรงมาด้วยเหตุผลหลายประการ มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเราที่จะต้องเคารพสิทธิและความประสงค์ของเหยื่อที่ถูกละเมิด”
“และเช่นเดียวกัน เรามีอำนาจในการตรวจสอบที่จำกัด ซึ่งหมายความว่าเราต้องพึ่งพาบุคคลที่สาม ซึ่งการใช้เวลา (ที่เนิ่นนาน) มันยังได้รับอิทธิพลมาจากความต้องการของผมที่อยากจะลดผลกระทบของการสืบสวนต่อทีมชายและทีมหญิง รวมถึงทีมชาติอังกฤษชุดหญิงของเราให้มากที่สุด ผมยอมรับว่านั่นทำให้ข่าวลือถูกขยายเวลาสำหรับการคาดเดามากขึ้น แต่ทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากนั้นมันอาจทำให้กระบวนการเสียหาย และสร้างความวุ่นวายอย่างผิดกาลเทศะ”
1
“ในขณะที่เราไม่สามารถเข้าถึงหลักฐานบางอย่างด้วยเหตุผลที่เราเคารพ หลักฐานที่เรารวบรวมได้ทำให้เราสรุปว่าเมสันไม่ได้กระทำการในสิ่งที่เขาถูกตั้งข้อกล่าวหา”
“ผมถูกจำกัดสิทธิในสิ่งที่ผมสามารถพูดได้ด้วยเหตุผลทางกฎหมาย รวมถึงสิทธิของเหยื่อที่ถูกละเมิดในการขอไม่เปิดเผยตัวตนอย่างต่อเนื่อง แต่ผมสามารถแบ่งปันสิ่งต่อไปนี้ให้กับคุณได้ ซึ่งน่าจะช่วยให้คุณรู้ข้อมูลเชิงลึกและความซับซ้อนของคดีนี้ :
- เหยื่อที่ถูกละเมิดได้ขอร้องให้ตำรวจถอนฟ้องข้อกล่าวหาของเธอในเดือนเมษายน 2022
- เราได้รับคำอธิบายเพิ่มเติมจากการบันทึกเสียงซึ่งเป็นข้อความที่ตัดตอนมาสั้นๆ จากการบันทึกที่นานกว่านั้นมาก และคำอธิบายสำหรับรูปภาพที่ถูกโพสต์บนโลกออนไลน์
- ครอบครัวของเหยื่อที่ถูกละเมิดมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ และได้รับโอกาสในการตรวจสอบและแก้ไขการค้นพบข้อเท็จจริงของเรา”
“เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สื่อมวลชนรายงานว่าเราได้ตัดสินใจที่นำเมสันกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง และข้อมูลองค์ประกอบของแผนดังกล่าวได้รั่วไหลไปสู่พวกเขา ซึ่งการนำเขากลับเข้าทีมอีกครั้งคือหนึ่งในผลลัพธ์ที่เราพิจารณาและวางแผนเอาไว้”
“ในส่วนของบริบทนั้น ตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามีการพิจารณาและวางแผนผลลัพธ์เอาไว้หลายแบบ และมุมมองของผมก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นเมื่อกระบวนการของเราดำเนินไป ซึ่งในขณะที่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับผม ผมได้คำนึงถึงปัจจัยและมุมมองต่างๆ จนกระทั่งถึงจุดที่ผมได้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย”
“ในขณะที่ผมพอใจที่เมสันไม่ได้กระทำการตามที่เขาถูกตั้งข้อกล่าวหา ทางตัวของเมสันได้ยอมรับว่าเขาได้ก่อความผิดพลาดที่เขาต้องรับผิดชอบ ผมยังตระหนักด้วยเช่นกันสำหรับความท้าทายที่เมสันจะต้องเจอในการกอบกู้อาชีพของเขากลับมาอีกครั้ง และต้องช่วยกันเลี้ยงดูลูกกับคู่รักของเขาด้วยกันท่ามกลางสปอตไลท์ที่รุนแรงที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”
“นอกจากนั้นแล้ว คดีนี้ยังก่อให้เกิดความคิดเห็นที่รุนแรง และมันคือความรับผิดชอบของผมที่จะต้องลดความวุ่นวายใดๆ ทั้งหมดเพื่อความสามัคคีที่เรากำลังมองหาในฐานะสโมสร”
“ถึงแม้เราได้ตัดสินใจไปแล้วว่าเมสันจะต้องสร้างอาชีพของเขาใหม่นอกรั้วของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่นั่นไม่ใช่สัญญาณของการสิ้นสุดของเรื่องนี้ สโมสรจะยังคงซัพพอร์ตทั้งเหยื่อที่ถูกละเมิดและตัวของเมสัน เพื่อช่วยพวกเขาได้เริ่มต้นใหม่ และก้าวไปข้างหน้าในทางที่ดีกับชีวิตของพวกเขา”
“ผมขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของพวกคุณอย่างต่อเนื่อง
ริชาร์ด อาร์โนลด์”
ส่วนสำคัญมากจากแถลงการณ์จาก ริชาร์ด อาร์โนลด์ ก็คือประโยคที่บอกว่า “ผมยังตระหนักด้วยเช่นกันสำหรับความท้าทายที่เมสันจะต้องเจอในการกอบกู้อาชีพของเขากลับมาอีกครั้ง และต้องช่วยกันเลี้ยงดูลูกกับคู่รักของเขาด้วยกันท่ามกลางสปอตไลท์ที่รุนแรงที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”
“นอกจากนั้นแล้ว คดีนี้ยังก่อให้เกิดความคิดเห็นที่รุนแรง และมันคือความรับผิดชอบของผมที่จะต้องลดความวุ่นวายใดๆ ทั้งหมดเพื่อความสามัคคีที่เรากำลังมองหาในฐานะสโมสร”
ต้องไม่ลืมนะครับว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมที่แฟนบอลกดดันทีมตัวเองสูงมาก และยังถูกแฟนบอลคู่แข่งหาเรื่องดูถูกเหยียดหยามตลอดเวลา
1
ขนาดนักเตะกำลังสำคัญชุดปัจจุบันที่วางตัวดีสุดๆ ต่อสังคมอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือคนที่ไม่เคยมีประวัติชีวิตส่วนตัวฉาวโฉ่อย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส แค่ฟอร์มตก เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานยังจะโดนกองเชียร์ทีมตัวเองไล่ด่า ไล่ให้ขายทิ้งซะจนไม่ได้ผุดได้เกิด แล้วนับประสาอะไรกับนักเตะที่ห่างหายจากการซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่ไปนานกว่า 18 เดือน โดยที่ตกเป็นจำเลยของสังคม
ที่แฟนบอลที่เรียกร้องให้กรีนวู้ดกลับมายังไม่มูฟออน น่าจะเพราะเห็นฟอร์มเกมรุกของทีมชุดปัจจุบันยังดีไม่พอ ฝากความหวังการทำประตูไว้ที่ใครจริงๆ จังๆ ไม่ได้ ปีกขวาอย่างอันโตนี่ยังเล่นได้น่าผิดหวัง แล้วคิดว่ากรีนวู้ดจะเป็นคนที่เข้ามาแก้ไขปัญหานี้ได้ทันที
ทั้งที่ความเป็นจริงเขาไม่ได้ลงเล่นอีกเลยมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2022 ซึ่งไม่ใช่แค่ไม่ได้ลงเล่นเท่านั้น แต่เขาไม่ได้ลงซ้อมระดับอาชีพมานานกว่า 1 ปีครึ่ง
หลังจาก เมสัน กรีนวู้ด ห่างหายจากการซ้อมฟุตบอลอาชีพไปนานกว่า 1 ปีครึ่ง สภาพร่างกายของเขาดูผอมลงและไร้เรี่ยวแรงไปมาก
แล้วถ้าเคสนี้ สโมสรเลือกที่จะมอบ "อภิสิทธิ์" ให้กรีนวู้ดได้กลับมา ต่อไปมันจะกลายเป็นแบบอย่าง เป็นมาตรฐานใหม่ เป็นเรื่อง new normal ให้เยาวชนได้เห็น ว่าคุณจะใช้ความรุนแรงกับแฟนสาวของคุณยังไงก็ได้ สุดท้ายอนาคตคุณก็ยังรุ่งโรจน์ ขอแค่เตะบอลเก่ง และขอให้ผู้หญิงอภัยให้ได้ก็พอ
1
แล้วถ้าเคสนี้ได้รับการยกเว้น แต่ต่อไปนักเตะที่ทำผิดกรณีเดียวกันกลับโดนตัดสินอีกแบบ แค่เพราะไม่ใช่นักเตะที่ดูจะเก่งเท่า พวกเขาจะอธิบายกับสังคมที่ไม่ได้สนใจฟอร์มการเล่นของนักฟุตบอลทั้งหมดแบบเราๆ ยังไงดี?
ผมอยากจะย้ำเตือนแฟนบอลจอมหัวร้อนอีกครั้ง ว่าจำได้ไหมครับว่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โดนข่มขู่คุกคามอย่างไรบ้างถึงครอบครัวเขา แค่เพราะเขาทำผลงานได้ย่ำแย่ และไม่ยอมย้ายออกจากทีมไปเสียที
ถ้าหากกรีนวู้ดกลับมาแล้วไม่สามารถทำผลงานตอบโจทย์แฟนบอลที่คาดหวังกับเขาไว้สูง สิ่งที่เขาจะโดนโจมตีมันจะไม่ใช่แค่เรื่องนอกสนามแล้ว แต่ยังเป็นเรื่องในสนามด้วย (แถมเผลอๆ คนที่โจมตีเขาก็คือพวกคนที่เร่งให้สโมสรเอาเขากลับมาอยู่ตอนนี้นั่นแหละ) และนั่นจะทำให้ครอบครัวของเขาเจอกับความลำบากยิ่งขึ้นไปอีก
และนั่นทำให้คนที่เป็นซีอีโอของสโมสรต้องตัดสินใจเรื่องนี้ให้มีผลกระทบกับทุกฝ่ายน้อยที่สุด ด้วยการไม่ให้กลับมาลงซ้อมและลงเล่นกับทีมชุดใหญ่อีกต่อไป
นักเตะชุดปัจจุบันจะไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องของเจ้าไม้เขียวอีก, เอริค เทน ฮาก จะได้ความชัดเจนว่าไม่ต้องเว้นที่ไว้ให้เจ้าของเบอร์ 11 คนเดิมอีกแล้ว และยังช่วยให้นักเตะได้รู้ว่าช่วงต่อจากนี้เขาต้องโฟกัสไปที่การหาต้นสังกัดใหม่แบบเต็มๆ ไม่ต้องคาดหวังถึงการกลับมาเป็นตัวจริงที่ยูไนเต็ดอีกแล้ว
การประกาศชัดเจนว่าต่อจากนี้ เมสัน กรีนวู้ด จะไม่ใช่ตัวแทนของ แมนฯ ยูไนเต็ด อีก ยังเป็นการแสดงออกว่าพวกเขารับฟังเสียงของแฟนบอลที่ต่อต้าน และบุคลากรของสโมสรที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งก็มีน้ำหนักมากพอ เพราะวัฒนธรรมของอังกฤษนั้น การใช้ความรุนแรงในครอบครัว (Domestic violence) คือเรื่องที่พวกเขายอมรับไม่ได้
ภาพและคลิปเสียงที่ แฮร์เรียต ร็อบสัน แฟนสาวของ เมสัน กรีนวู้ด โพสต์แฉแฟนหนุ่มเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2022 ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 ถูกเซฟและแชร์ต่อกันไปทั่วโลก แม้ตัวของฝ่ายสาวจะลบทิ้งอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ทันเวลา มันไม่ใช่เรื่องของคน 2 คนอีกต่อไปตั้งแต่วินาทีที่เธอเลือกที่จะบอกให้โลกรู้แล้ว
ใครที่ทันเห็นภาพในวันนั้น คงจำได้ดีว่าเป็นภาพที่น่าสยดสยองมาก หน้าของแฮร์เรียตมีเลือดกบปาก และมีรูปถ่ายแขนขาฟกช้ำ คือเธอต้องการจะแฉให้โลกรู้ว่ากองหน้าวัยรุ่นทำอะไรแย่ๆ กับเธอไว้บ้าง
ภาพรอยฟกช้ำที่แขน ที่ แฮร์เรียต ร็อบสัน แฟนสาวของ เมสัน กรีนวู้ด โพสต์ลงอินเตอร์เน็ตเมื่อต้นปี 2022 แม้จะลบโพสต์ออกอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีคนเซฟไว้เพียบ
นั่นคือหลักฐานที่ทำให้กรีนวู้ดโดนตั้งข้อหา “ทำร้ายร่างกาย”
นอกจากนั้นแล้วยังมีคลิปเสียงที่เป็นหลักฐานให้เขาโดนตั้งข้อหา “พยายามข่มขืน และบังคับขู่เข็ญ” โดยเหตุการณ์ในคลิปเสียงนั้น ประกอบด้วยบทสนทนาที่กรีนวู้ดสั่งแฟนสาวด้วยคำหยาบคายให้กางขาออกเพื่อให้เขาจะได้สอดใส่ถนัดๆ และมีประโยคขู่ทำนองว่า “ถ้าผลักกูออกอีกทีนะ คอยดูให้ดีละกันว่ามึงจะเจออะไร”
แต่เนื่องจากในเวลาต่อมา ตัวของ แฮร์เรียต ร็อบสัน ปฏิเสธจะมอบหลักฐานเพิ่มเติมและยอมความ คดีจึงไม่สามารถสืบสวนต่อได้ว่าความจริงเกิดอะไรขึ้นกันแน่ กรีนวู้ดที่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาอยู่แล้วจึงกลายเป็นผู้บริสุทธิ์
ในแถลงการณ์ล่าสุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ช่วยยืนยันให้อีกแรงว่ากองหน้าชาวอังกฤษไม่ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหาข้อไหนเลย (ทำร้ายร่างกาย, พยายามข่มขืน และบังคับขู่เข็ญ) ซึ่งเหตุผลที่เป็นเช่นนั้นอาจจะเป็นเพราะ 2 คู่รักตกลงกันแล้วว่าจะไม่ทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และจะไม่เปิดเผยอะไรออกมาให้โลกรู้มากกว่านี้
ในทางกฎหมายอาจจะพ้นผิด กรีนวู้ดอาจจะไม่ได้ถึงกับ “ข่มขืน” มันอาจเป็นแค่คู่รักทะเลาะกันหนักเฉยๆ แต่ภาพที่ฝ่ายหญิงโพสต์ลงอินเตอร์เน็ตไปเมื่อต้นปี 2022 นั้น มันคือหลักฐานที่ทิ้งให้สังคมได้ตั้งศาลเตี้ยตัดสินกันไปแล้วว่ากองหน้าดาวรุ่งปีศาจแดงใช้ความรุนแรงกับเพศแม่
ตัวเหยื่ออาจจะติดใจไม่เอาความ ถอนฟ้องให้พ้นทุกข้อกล่าวหาไปแล้ว แต่สังคมบ้านเขาไม่ยอมให้จบแค่นั้น นี่คือเรื่องที่ชาวตะวันตกไม่ยอมให้เกิดขึ้น ต่อให้เป็นเรื่องในครอบครัวก็ตาม ถ้าหากมีหลักฐานครบออกสู่สาธารณะ กรีนวู้ดจะมีโทษทางอาญาทันที ไม่ว่าฝ่ายหญิงจะให้อภัยทีหลังหรือไม่
แฟนบอลหลายคนที่อังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้หญิงจำนวนมาก ประกาศว่าจะไม่สามารถสนับสนุน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อีกต่อไป ถ้ายังดึงดันจะให้กรีนวู้ดกลับสู่ทีม
กลุ่มแฟนคลับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เด่นๆ ที่อังกฤษทั้ง Manchester United Supporters Trust, กลุ่มแฟนบอลหญิงที่สนับสนุน แมนฯ ยูไนเต็ด และกลุ่มที่ชื่อว่า Rainbow Devils ต่างสำรวจความคิดเห็นประเด็นนี้กับสมาชิกในกลุ่ม โดยทาง ดิ แอธเลติก สื่อดังที่มีความน่าเชื่อถือสูงก็ได้ทำโพลเรื่องนี้ และพบว่ามีแฟนบอลที่คัดค้านการให้กรีนวู้ดกลับมามากถึง 58%
เรื่องของชายหญิงเคลียร์กันไปเรียบร้อยจนจะมีลูกด้วยกันแล้ว ส่วนสโมสรก็หาทางออกกันได้แล้ว ทีนี้ผมอยากจะบอกว่าเรื่องที่แฟนบอลยังเข้าใจผิดกันเยอะอยู่ คือการหาว่าสโมสรลอยแพ ตัดหางปล่อยวัดกรีนวู้ด
ความเป็นจริงก็คือจะว่าแบบนั้นไม่ได้ เพราะนับตั้งแต่เจ้าตัวถูกตั้งข้อกล่าวหาเมื่อเดือนมกราคม 2022 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงจ่ายค่าจ้างสัปดาห์ละ 75,000 ปอนด์ให้เต็มจำนวนตามปกติ โดยสัญญาของกรีนวู้ดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2025 และมีออปชั่นต่อสัญญาเพิ่มอีก 1 ปีด้วย
บีบีซี สื่อเจ้าดังที่น่าเชื่อถือมากที่สุดของอังกฤษก็เพิ่งจะรายงานยืนยันว่า เมสัน กรีนวู้ด จะยังคงได้ค่าจ้างเต็มๆ 100% ต่อไป แถมสโมสรก็จะยังพยายามช่วยให้เจ้าตัวได้ลงเล่นกับทีมอื่นให้ได้ด้วย ไม่ว่าจะในรูปแบบปล่อยยืมตัว หรือขายขาดก็ตาม
เรื่องนี้ตรงกับสิ่งที่ ริชาร์ด อาร์โนลด์ บอกในแถลงการณ์ว่า “ถึงแม้เราได้ตัดสินใจไปแล้วว่าเมสันจะต้องสร้างอาชีพของเขาใหม่นอกรั้วของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่นั่นไม่ใช่สัญญาณของการสิ้นสุดของเรื่องนี้”
“สโมสรจะยังคงซัพพอร์ตทั้งเหยื่อที่ถูกละเมิดและตัวของเมสัน เพื่อช่วยพวกเขาได้เริ่มต้นใหม่ และก้าวไปข้างหน้าในทางที่ดีกับชีวิตของพวกเขา”
ทีนี้อีกเรื่องที่แฟนบอลควรรู้ ก็คือทำไมสโมสรถึงปล่อยให้เวลาผ่านไปเนิ่นนานถึง 6 เดือนกว่าหลังจากการถอนฟ้องทุกข้อกล่าวหา ค่อยประกาศการตัดสินใจ
เหตุผลแรก : กระบวนการสอบสวนภายในที่สโมสรทำเองเป็นไปได้อย่างล่าช้า เพราะฝ่ายหญิงขอร้องให้ปกปิดข้อมูลหลายอย่าง และไม่ขอเปิดเผยตัวตน
ทุกๆ การประกาศของสโมสร จะต้องผ่านการเห็นชอบจากฝ่ายหญิงและครอบครัวของเธอก่อนว่าแบบนี้โอเคแล้ว ไม่สามารถตัดสินใจโดยพลการได้
………………………
เหตุผลที่ 2 : การตัดสินใจตัดอนาคตทันทีก็ทำไม่ได้เช่นกัน เพราะกฎหมายแรงงานของอังกฤษระบุว่านายจ้างจะเลิกจ้างพนักงานได้ด้วย “การกระทำอันสมควรแก่เหตุที่สามารถพิสูจน์ได้” และต้องห้ามมีการเลือกปฏิบัติ โดยต้องมีการตรวจสอบสถานการณ์ให้ได้หลักฐานที่ครบถ้วนก่อนแล้วเท่านั้น
สำหรับเหตุผลที่นายจ้างสามารถเลิกจ้างลูกจ้างได้ตามกฎหมายของอังกฤษ ตามที่เว็บไซต์รัฐบาลของสหราชอาณาจักรระบุไว้มีดังนี้
- ไม่มีความสามารถที่จะทำงานตามที่นายจ้างมอบหมาย
- บาดเจ็บ/ป่วยหนักจนไม่สามารถทำงานได้อีก
- เลิกจ้างเพราะมีแรงงานล้นเกินไป (Redundancy)
แต่ก็ต้องมีเหตุผลอันยุติธรรม และต้องมีการชดเชยลูกจ้างที่ถูกเชิญออกด้วย
- ประพฤติผิดอย่างร้ายแรง
- มีความผิดตามกฎหมาย
- นายจ้างไม่มีความสามารถที่จะจ้างได้อีกต่อไป เช่นล้มละลาย, เกิดภัยพิบัติ เป็นต้น
แต่ก่อนจะไปถึงจุดที่ต้องเลิกจ้าง นายจ้างจะต้องมีการตักเตือน และให้โอกาสลูกจ้างเสียก่อน
ถ้าขาดความสามารถ ต้องจัดการฝึกอบรม สอนงานเพื่อพัฒนาความสามารถให้ทำงานได้, ถ้าลูกจ้างเจ็บป่วย ก็ต้องให้โอกาสเขาได้มีเวลาพักรักษาตัว
ส่วนเรื่อง “ประพฤติผิดอย่างร้ายแรง” ในเคสนี้ถือว่ามีความซับซ้อน เพราะตัวของกรีนวู้ดยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ขณะที่ตำรวจและศาลอัยการสูงสุดของอังกฤษก็ยกฟ้องไปแล้ว จู่ๆ จะไปยกเลิกสัญญาเลยจึงทำไม่ได้ และต้องใช้เวลาตรวจสอบหลักฐานและบริบททุกอย่างให้ยุติธรรม
………………………
เหตุผลที่ 3 : เดิมที เอริค เทน ฮาก และผู้อำนวยการฟุตบอลอย่าง จอห์น เมอร์เท่อห์ มีแพลนจะให้กรีนวู้ดได้โอกาสกลับสู่ทีม ซึ่งการตัดสินใจจะให้เจ้าไม้เขียวกลับมาอีกครั้ง มันมีขั้นตอนมากกว่าการตัดสินใจว่าจะไม่ให้เขาเป็นนักเตะของทีมอีกต่อไป
ดิ แอธเลติก เผยว่า ริชาร์ด อาร์โนลด์ ตั้งใจว่าจะให้สโมสรประกาศการกลับสู่ทีมอีกครั้งของกรีนวู้ดในวันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม แต่ในวันพุธที่ 2 สิงหาคม และพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม ผู้บริหารจะมีการติดต่อไปที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับสโมสรที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสปอนเซอร์หลัก, ทีมหญิงของสโมสร และบอร์ดที่ปรึกษาแฟนบอล
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาดังกล่าว นักเตะตัวหลักของทีมหญิงไม่ว่าจะเป็น เคธี่ เซเล็ม กองกลางกัปตันทีม, แมรี่ เอิร์ปส์ นายประตูมือหนึ่ง และ เอลล่า ทูน มิดฟิลด์ตัวรุกคนสำคัญ ยังอยู่ระหว่างเก็บตัวกับทีมชาติอังกฤษชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก 2023 ทำให้ต้องมีการเลื่อนออกไปก่อน เพราะสโมสรไม่อยากให้เรื่องนี้กระทบกับทีมชาติที่กำลังลุ้นแชมป์โลกหญิงสมัยแรก
แต่กลายเป็นว่าแฟนบอลกลุ่มที่อยากให้กรีนวู้ดกลับมาไวๆ ไปคอมเมนต์โจมตีโพสต์ของสโมสรที่ให้กำลังใจทีมชาติหญิงของอังกฤษ ด้วยข้อความด่าทอรุนแรงที่เข้าข่ายคุกคามทางเพศ และนั่นทำให้กลุ่มแฟนบอลหญิงยิ่งยกระดับต่อต้านการเอา เมสัน กรีนวู้ด กลับสู่สโมสรมากขึ้นอีก
วันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม กลุ่มแฟนบอลหญิงที่มักจะตามไปเชียร์ทีมปีศาจแดงที่สนามเป็นประจำได้สร้างบัญชีทวิตเตอร์ขึ้นมาใหม่ชื่อว่า Female Fans Against Greenwood’s Return ก่อนที่ตัวแทนจากกลุ่มนี้ได้ไปรวมตัวชูป้ายประท้วงการนำกรีนวู้ดกลับมาที่หน้าสนาม ก่อนเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 เมื่อวันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม
ป้ายดังกล่าวมีข้อความเขียนว่า “แฟนบอลเพศหญิงขอให้ไม่มีการให้กรีนวู้ดกลับมา - ความรุนแรงต่อผู้หญิงมันต้องจบได้แล้ว”
หลังจากที่การประกาศให้ เมสัน กรีนวู้ด กลับสู่ทีมไม่สามารถทำได้ตามแพลนที่วางไว้ ก็มีข่าวออกมาว่าการตัดสินใจจะเลื่อนไปเป็นช่วงหลังเบรกทีมชาติเดือนกันยายน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม องค์กรการกุศลใหญ่ของอังกฤษชื่อว่า Women’s Aid ซึ่งเป็นองค์กรที่ต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี และต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กได้ส่งจดหมายไปหาสโมสรเพื่อแสดงท่าทีคัดค้านการนำกรีนวู้ดกลับมา
ไม่ใช่แค่นั้น ทางด้าน แอนดรูว์ เวสเทิร์น ส.ส.จากเขตเลือกตั้งสเตรทฟอร์ดและเอิร์มสตัน (เขตที่ตั้งของสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด) ก็เคยออกมาแถลงกดดัน แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง และควรเป็นแบบอย่างของการแสดงให้เห็นถึงการปกป้องเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ และถูกใช้ความรุนแรงด้วย
แอนดรูว์ เวสเทิร์น ส.ส.จากเขตเลือกตั้งสเตรทฟอร์ดและเอิร์มสตัน (เขตที่ตั้งของสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด)
การเคลื่อนไหวขององค์กรระดับนี้ รวมไปถึงมีกระแสแอนตี้ที่อังกฤษเยอะมาก ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กระอักกระอ่วน และต้องเปลี่ยนแพลนมาหารือกับตัวของกรีนวู้ด และครอบครัวของฝ่ายหญิงใหม่อีกครั้ง
ซึ่งสุดท้ายทางออกที่ดีที่สุดก็คือยอมรับร่วมกันว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะต้านกระแสสังคมของอังกฤษ และประกาศออกมาว่า เมสัน กรีนวู้ด จะไม่ได้เป็นนักเตะของสโมสรอีกต่อไป แต่สโมสรจะยังคงรับผิดชอบดูแลค่าใช้จ่ายให้เป็นอย่างดี และให้ความช่วยเหลือนักเตะในการมีอนาคตในเส้นทางนักเตะอีกครั้ง
และเนื่องจากคนของอังกฤษกดดันหนักขนาดนี้ ผมจึงอยากบอกแฟนบอลที่คอมเมนต์แบบไร้ความรู้ว่า “ระวังย้ายไปเล่นให้ทีมคู่แข่งแล้วกลับมายิงทีมตัวเองแล้วจะรู้สึก” ว่าเรื่องนั้นมันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ และทีมอื่นในพรีเมียร์ลีกเขาไม่เซ็นสัญญากับนักเตะที่เป็นจำเลยสังคมแบบนี้ในตอนนี้หรอก
เป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่นักเตะที่มีพรสวรรค์สูงมากอย่าง เมสัน กรีนวู้ด ไม่สามารถไปต่อกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ ซึ่งหลายคนอาจจะมองในมุมที่โทษฝ่ายหญิง ว่าไม่น่าหาเรื่องโพสต์ลงโซเชียลมีเดียเพื่อทำร้ายแฟนหนุ่มของเธอให้หมดอนาคตแบบนี้เลย
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้น เรื่องนี้มันจะไม่จบลงแบบน่าเศร้าเช่นนี้เลย ถ้าไม่มีการใช้ความรุนแรงกันตั้งแต่แรก
ซึ่งเมื่อมันกลายเป็นเรื่องใหญ่ออกไปสู่บริบทของสังคมโลก มันไม่สามารถคิดแต่ในเรื่องของฟุตบอลได้อีกต่อไป
#เสียบสามเหลี่ยม #กรีนวู้ด #เมสันกรีนวู้ด #แฮร์เรียตร็อบสัน #ริชาร์ดอาร์โนลด์ #ผีแดง #ปีศาจแดง #แมนยู #แมนฯยูไนเต็ด #แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด #พรีเมียร์ลีก
2 บันทึก
10
2
2
10
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย