22 ส.ค. 2023 เวลา 04:50 • การเมือง

นักการเมืองให้ปลา พระราชาให้เบ็ด

ผมมานั่งนึกย้อนหลังไปไกลสมัยนายกทักษิณ เป็นนายก นึกถึงการบริหารบ้านเมืองในยุคนั้น สี่ปีแรก จำได้ว่าบ้านเมืองดีขึ้นมาก ท่องเที่ยวดี งานที่ผมทำเกี่ยวกับนำเข้าส่งออก ทำให้ต้องติดต่องานหลายภาคส่วน เช่น boi กระทรวงพาณิชย์ หอการค้า งานที่ผมทำต้องประสานงานขอข้อมูลเอกสาร กับหน่วยงานเหล่านี้ ก็พบว่า ช่วงที่ทักษิณเป็นนายก งานการดีขึ้น ข้าราชการก็ชอบ เพราะ ข้าราชการมีโบนัส ส่วนรัฐวิสาหกิจก็ได้รับ เงินเพิ่มเติม ช่วงนึงโดนวิกฤต สึนามิ
เพื่อนผมทำงานอยู่ไฟฟ้า ถูกตัดโบนัส ลดเบี้ยเลี้ยง เพราะ รัฐบาลตอนนั้นต้องหาเงินไปฟื้นฟู ประเทศหลังสึนามิ แกก็บ่นเป็นหมีกินผึ้ง จากนั้นก็ได้ยินเรื่องการกู้เงิน ไอเอ็มเอฟ และมาปลดหนี้ได้ในยุคทักษิณ ( ข้อมูลการใช้หนี้จริงๆว่าเป็นรัฐบาลชุดไหน ขอไม่พูด )
การ ทำกองทุนหมู่บ้าน ที่โด่งดังก็ otop
การแก้ปัญหายาเสพติด เบี่ยคนชรา 30รักผษาทุกโรค การทัวร์นกขมิ้นทางภาคอิสาน
ข่าวสารในยุคอนาล็อก มันช้า ทำให้ข้อมูลเชิงลึกเราไม่รับรู้ อะไรดีมากดีน้อย หรือไม่ดีเลย เราก็ตามไม่ทันนอกจาก
"นักวิชาการ "ที่มีข้อมูล
นักวิชา มีความสำคัญยังไงในยุค ทักษิณ รัฐบาลทักษิณสมัยที่สอง ตอนนั้น ด้วยยุคอนาล็อก ทำให้ข่าวสารมันช้า สื่อหลักคือหนังสือพิมพ์ นักวิชาการ ก็ไปเจอ เรื่องการซื้อหุ้นสื่อ โดย นอมินี ทักษิณ เรื่อง ตลาดหลักทรัพย์ เรื่องบริษัทต่างๆ ของทักษิณ การเชื่อมสัญญาณดาวเทียมไทยคม ให้กับเพื่อนบ้าน การตั้ง สถานีโทรทัศน์ของตัวเอง การเข้าไป ใน ITV เพื่อนำเสนอ ผลงานตัวเอง มีแต่นักวิชาการเท่านั้น ที่ทันทักษิณ นักวิชาการในที่นี้ รวมหลายหน่วยงาน อาจจะเป็นนักข่าว ซึ่งก็ระดับ ดอกเตอร์ ที่เป็นบรรณาธิการข่าว นักการตลาด
ตอนนั้น ทักษิณทะเลาะกับนักวิชาการ จนมีการ ถือป้ายตอบคำถาม เวลาให้สัมภาษณ์ เช่น คำตอบที่ไม่ตอบ ก็ขึ้น ป้าย แดง No ตอบได้ ก็ขึ้นป้ายเขียว yes ทำอย่างนี้อยู่สักพัก จนมีนักวิชาการบางส่วน ไม่อยากถามต่อ ก็ไปทำสื่อตีพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ ให้ข้อมูล ประชาชนมาเสพแล้วมาวิเคราะห์เอา ถ้าคนอ่านเยอะก็รู้เยอะ รู้มากเข้าใจกลไกไปตามชุดข้อมูลของตัวเอง ก็เริ่มจับผิด จับถูก นโยบายต่างๆ อย่างที่บอก ผิด ถูก ตามชุดข้อมูล ของใครของมัน มันก็เลยเกิดปํญหา มากมาย เพราะชุดความรู้ แตกต่างกัน ดังจะเห็นการออกมาประท้วงกันเรื่อยมา
ในความก้าวหน้าเชิงนโยบาย ยุคทักษิณ ต้องบอกว่าลำ้หน้ามาก แต่ในสายตาของใครบางคน เกิดการตรวจสอบ จับผิด ร้องเรียน ทำทุกอย่าง ในสายตาของใครบางคนที่ เห็นว่ามันผิด เช่น การปล่อยเงินกู้ให้เพื่อนบ้าน การขายหุ้นตัวเอง โดยไม่เสียภาษี การออกแบบ วันหยุดชดเชยเพื่อการซื้อขายที่ดิน การซื้อขายเครื่องบิน การพยายามขายหุ้น ปตท ให้ต่างชาติ การทำหวย การปราบปรามยาเสพติด ที่เรียกตัดตอน ปัญหาชายแดนใต้ ปัญหาตากใบ ที่ร้อนแรงขึ้นมา จนบ้านเริ่มร้อนเป็นไฟ และร้อนเรื่อยมา
รัฐบาลในยุคทักษิณสมัยที่ 2 นอกจากจะเริ่มมีปัญหากับนักวิชาการ และลามมาถึงปัญญาชนในยุคนั้น ที่ไม่ใช่แค่นักศึกษา ประชาชนทั่วไป สนใจการเมือง อ่านเยอะ ก็รู้ตามชุดข้อมูลต่างๆที่อ่านมา การเข้ามาในยุคดิจิตอล การเข้าถึง โทรศัพท์มือถือง่ายขึ้นเพราะ ราคาถูกลง ข้อมูลมาเร็ว สื่อ วิทยุ โทรทัศน์ ต่างๆ เริ่มขัดแย้ง บางสื่อ ผู้บริหารยังต้องหนี บางคนติดคุก บางสื่อถูกปิด ทุกอย่าง เริ่มชุลมุน ในยุคนั้น ก็เริ่มเกิดปัญหาปากท้อง การประท้วงที่วุ่นวาย กระทบการหากิน ทักษิณก็ต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ที่สร้างขึ้น
ในที่สุดก็ถูกรัฐประหาร ในตอนนั้น ทักษิณ ไปประชุมต่างประเทศ การข่าวเค้าก็รู้บ้างแล้ว ว่าจะถูกยึดอำนาจ พยายามวิ่ง ย้าย ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน เป็นพัลวัน แต่ก็ไม่ทัน ก็เลย หลบอยู่ต่างประเทศ สองปี ก็กลับมาสู้คดี ที่โดนฟ้อง ในตอนถูกยึดอำนาจ พออำนาจลดลง เป็นเรื่องปกติ การต่อสู้ก็จะอ่อนแรงไป การทำงานของศาล ในระบบยุติธรรมจึงเริ่มทำงาน ระหว่างสู้คดี จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ในส่วนตัวของทักษิณ คงเห็นว่า การสู้ในศาล ไม่ใช่วิถีของทักษิณ เค้าจึงออก ไปต่างประเทศ โดยให้เหตุผลว่า ไปดูกีฬา โอลิมปิค ที่อเมริกา
ระหว่างนั้น ศาลออกหมายเรียก ท่านก็ไม่ได้กลับมารายงานตัว จนคดีต่างๆ ถูกตัดสิน ให้มีความผิด ท่านก็ส่งตัวแทน สู้คดี จนถึง ฎีกา และศาลสูงสุด ก็ตัดสินให้ผิด ศาลก็ออกหมายจับ ทักษิณ ก็ขอสัญชาติ โดมาริกันในระหว่างทักษิณ อยู่ต่างประเทศ ก็เคลื่อนไหวทางการเมืองมาโดยตลอด ด้วยฐานเสียงของพรรคทำไห้ชนะการเลือกตั้ง มีรัฐบาล นอมีนี ถึงสามรัฐบาล แต่ก็ไม่รอด อยู่ไม่ครบ มีคดีทุจริต โดนตัดสินให้มีความผิด ก็หลบหนีออกนอกประเทศไปกันหมด ใครหนีไม่ทัน ก็ต้องติดคุก
วันนี้ 22 สค 2566 ทักษิณกลับมา บ้านเมืองจากนี้ ก็วนเวียนอยู่กับอำนาจ รัฐบาลชุดใหม่ กำลังเริ่ม ที่รวบรวมทั้งมิตรและศัตรูเอาใว้ด้วยกัน คงจะทำงานด้วยกันลำบาก กล่าวว่า รัฐบาล ครั้งนี้ เหมือนรวมกันได้แต่ก็ไม่มั่นคง เพราะ ฝั่งคั่วรัฐบาลเก่า ส่วนนึงเค้ามาเพื่อ สานต่อ โครงการต่างๆที่ทำไว้ ต้องทำต่อ เงินทองคงคลัง ที่หามา ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์( นัยยะกลัวอีกคั่วเอาไปจัดสรร แย่งกันกิน)
ดังนั้น การทำงานจากนี้ จะเห็นความขัดแย้ง อย่างน่าปวดหัว ใครติดตามก็ทนเอาหน่อย
ส่วนผม ผมหวังว่า รัฐบาลชุดนี้ยังมีคนดีร่วมอยู่ด้วย และหวังว่าสัดส่วนจะมากกว่าคนชั่ว
จะได้ตามปณิธาน ที่ในหลวง ร9 ท่านพูด
บ้านเมือง มีทั้งคนดีและไม่ดี จะทำให้บ้านเมืองปกติสุข ต้องให้คนดีเข้าไปช่วยปกครองบ้านเมือง
โฆษณา