24 ส.ค. 2023 เวลา 13:00 • ธุรกิจ

บัญชีธุรกิจต้องเปิดกี่อัน แต่ละอันทำอะไรบ้าง?

ถ้าเราแยกรายได้ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวออกจากธุรกิจได้แล้ว สำหรับธุรกิจเองการเปิดไว้แค่ 1 บัญชีเพื่อรับและจ่ายเงินนั้นอาจจะไม่เวิร์คเสมอไป (ในกรณีที่เป็นคนเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ ฮ่า ๆ)
วันนี้เลยถือโอกาสมาแนะนำเทคนิค ทำบัญชีแยกกระเป๋า ธุรกิจยังไงดี ให้มีตังค์เหลือในบทความนี้ค่ะ
วิธีการที่แนะนำ สำหรับเจ้าของธุรกิจที่อยากมีเงินเหลือใช้ ให้ลองเปิดบัญชีไว้ 5 บัญชี แล้วตั้งชื่อเล่นบัญชีตามนี้เลยค่ะ
1. บัญชีรายได้
ให้รับรายได้เข้ามาล้วนๆ บัญชีนี้ต้องมีแต่รายได้เท่านั้น ไม่มีค่าใช้จ่ายผสมนะคะ
ข้อดีของการแยกบัญชีนี้ออกมา จะทำให้เรารู้ได้ทันทีว่าวันนี้มีรายได้เท่าใด และต้องขายให้ได้อีกเท่าไรจึงจะถึงเป้าหมายที่เราต้องการ และบัญชีรายได้นี่เอง จะต้องโอนออกไปให้บัญชีต่างๆ ที่เหลืออีก 4 บัญชีตามที่เราตั้งเป้าหมายไว้
2. บัญชีกำไร
ก่อนจะไปจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นๆ อยากให้ทุกคนลองแบ่งกำไรสำหรับตัวเองไว้ก่อนค่ะ มีคนเคยบอกว่า ยิ่งเราให้ความสำคัญกับอะไรเป็นลำดับแรกๆ เราก็มักจะทำสิ่งนั้นสำเร็จก่อนเสมอ
บัญชีกำไร ถ้าเราลองแบ่งเอาไว้เป็นลำดับแรกว่าในแต่ละเดือนอยากได้กำไรสักเท่าไร จากนั้นเงินที่เหลือจึงแบ่งไปสำหรับใช้จ่ายในบัญชีอื่น แบบนี้ก็น่าจะดีกับเจ้าของธุรกิจไม่ใช่น้อยเลยล่ะ
3. บัญชีค่าใช้จ่าย
บัญชีนี้เป็นบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ตั้งแต่ต้นทุนสินค้า ค่าใช้จ่ายทำโฆษณา หรือค่าเช่าออฟฟิศสำนักงาน
ในแต่ละเดือนเราต้องคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่าจะมีค่าใช้จ่ายของธุรกิจทั้งหมดเท่าไรกันแน่ แบ่งเงินใส่บัญชีนี้ แล้วพยายามใช้จ่ายให้ไม่เกินจากที่ตั้งเป้าไว้
สาเหตุก็คล้ายๆ กับตอนที่เรากำลังลดความอ้วนนั่นแหละค่ะ ถ้าจานอาหารใหญ่ เราก็กินเยอะ อ้วนไปใหญ่ แต่เมื่อไรก็ตามเราลดไซด์จานอาหารลง แนวโน้มก็กินอาหารน้อยลงเท่าขนาดจาน และเป้าหมายการลดความอ้วนก็น่าจะสำเร็จได้ง่ายกว่า
เมื่อแบ่งค่าใช้จ่ายออกมาแล้ว ให้สังเกตพฤติกรรมตัวเองนะคะว่าจ่ายเงินออกไปแบบรัวๆ ตั้งแต่ต้นเดือนหรือไม่ และใช้จ่ายไปกับค่าอะไรบ้าง ถ้าเป็นแบบนี้เงินที่แบ่งไว้อาจหมดเร็ว ต้องไปเบียดเบียนกระเป๋าเงินอื่นๆ ก็เป็นได้นะ
4. บัญชีภาษี
สาเหตุที่คนส่วนใหญ่ไม่ปลื้มนักกับการจ่ายภาษีก็เพราะว่า มันเป็นรายจ่ายที่ช็อตฟีล ทำงานหนักมาทั้งปี แทนที่จะได้กำไรไปเต็มๆ กลับต้องมาจ่ายภาษีก้อนโต แบบนี้ไม่มีใครปลื้มแน่ๆ และที่ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าไม่ได้เตรียมเงินก้อนไว้จ่ายภาษี แบบนี้ยิ่งอยากจะกรี๊ดจริงไหมคะ
เพื่อจบปัญหาเรื่องนี้ เราเลยแนะนำทุกคนค่ะว่าให้ลองแบ่งบัญชีออกมาสำหรับจ่ายชำระภาษีไว้ในแต่ละเดือนล่วงหน้าเลย (ถึงแม้เราจะต้องจ่ายเงินสดตอนปลายปีก็เหอะ)
จำนวนเงินที่ควรแบ่งออกมาคำนวณง่ายๆ แบบนี้
กำไรที่แบ่งไว้สำหรับเดือน x อัตราภาษีที่ต้องจ่าย = เงินที่แบ่งใส่บัญชีภาษีไว้ล่วงหน้า
5. บัญชีเงินลงทุน
ทำธุรกิจก็ต้องมีวันเติบโต แล้วถ้าอยากเติบโต แต่ไม่มีเงินก็ทำไม่ได้เช่นเดียวกัน
ถ้าใครมีแนวคิดว่าอยากขยายร้าน อยากเพิ่มสินค้าเข้ามาใหม่ หรืออยากทำอะไรให้ธุรกิจดีขึ้นกว่าเก่า นี่เป็นเรื่องที่ดีค่ะ เพราะมันคือ การลงทุน เพื่อเพิ่มเครื่องจักรผลิตเงินให้เรานั่นเอง
แต่หลายคนมักมีปัญหาว่า อยากลงทุนแต่เงินไม่พอ ไม่รู้หาเงินจากไหน หรือไปกู้ใครก็ลำบาก
ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ การพึ่งตนเอง เก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีเงินพอเพื่อลงทุนขยายธุรกิจ
ดังนั้น บัญชีเงินลงทุนนี้จึงเป็นอีกบัญชีที่สำคัญมากๆ ที่เจ้าของธุรกิจต้องแบ่งเอาไว้ และทยอยหยอดเงินลงไปจนกว่าจะถึงเป้าหมายนั่นเองค่ะ
และนี่ก็เป็นเทคนิคการแบ่งกระเป๋า ธุรกิจอย่างง่าย ที่ทำตามกันได้ไม่ว่าจะทำธุรกิจส่วนตัว หรือเปิดเป็นบริษัท ถ้าอยากมีเงินเหลือกับเค้าบ้าง ลองเอาเทคนิคนี้ไปปรับใช้ดูนะคะ
เข้าใจแต่ขี้เกียจทำบัญชีเอง จ้างผู้เชี่ยวชาญบัญชี ติดต่อ
Line: @zerotoprofit หรือhttps://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ได้ที่
โฆษณา