23 ส.ค. 2023 เวลา 06:25 • ข่าว

บราซิล ผู้ได้ประโยชน์จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน?

23 ส.ค. 2023 - ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ก๊าซ ลิเธียม อาหารหรือพลังงานทดแทน ที่นี่มีทรัพยากรมากมายที่จำเป็นสำหรับพลวัตของโลก
คิดว่าอยู่ในอเมริกาหรอ...ที่นี่บราซิล
โดมินิค โทเรตโต้ ตัวละครสำคัญจากภาพยนตร์ชุดเร็ว..แรงทะลุนรก
บราซิล หรือ สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล (Federal Republic of Brazil) ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้และใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของโลกและด้วยประชากรกว่า 211 ล้านคน ที่นี่อาจเปรียบได้ดั่งขุมทรัพ(ยากร)ที่สำคัญของโลก ทั้งทรัพยากรธรรมชาติที่มีมากเหลือและทรัพยากรมนุษย์ที่มีมากล้น
บราซิลกำลังเป็นที่จับจ้องว่าอาจเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากพลวัตทางการเมืองและเศรษฐกิจโลกในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ สงครามและโรคระบาด
เมื่อเกิดสงครามรัสเซีย - ยูเครน ห่วงโซ่อาหารของโลกได้รับผลกระทบโดยตรงเพราะทั้งสองประเทศต่างก็เป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ด้านอาหารให้แก่หลายประเทศทั่วโลกและบราซิลก็กำลังถูกมองว่าจะเข้ามาแทนที่ในช่วงเวลาที่วายป่วงเช่นนี้
1
ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้เริ่มตระหนักมากขึ้นถึงบทบาทของตนเองที่กำลังเติบโตในเศรษฐกิจโลก สมาพันธ์อุตสาหกรรมแห่งชาติบราซิลกล่าวกับผู้นำธุรกิจในการประชุมเมื่อเร็วๆ นี้ว่าประเทศนี้อาจกลายเป็น "ทางเลือกที่สำคัญ" ในตลาดโลกที่ไม่เพียงแต่การแสวงหาคุณภาพและราคาที่เป็นมิตรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
คำกล่าวอ้างนี้ถูกตอกย้ำโดยผลกำไรที่แข็งแกร่งของบริษัทเกษตรกรรมและบริษัทน้ำมัน Petrobras บริษัทของรัฐในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประมาณการว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศบราซิลจะเติบโต 2.1% โดยได้รับแรงหนุนจากผลผลิตทางการเกษตรที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเติบโตทางเศรษฐกิจย่อมมาพร้อมกับความต้องการเชื้อเพลิงที่มากขึ้น หมายความว่ารัฐบาลบราซิลนำโดยประธานาธิบดีลุยซ์ อินาซิโอ "ลูลา" ดาซิลวา จำเป็นจะต้องลงทุนอย่างมหาศาลในส่วนเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งแผนเศรษฐกิจของลูลา ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหูจากนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
สงครามในยูเครนทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นและเกิดการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ในบริบทนี้ บราซิลจะสามารถได้รับผลประโยชน์จากการส่งเสริมอุปสงค์
เฟลิเป นาสซิเมนโต นักเศรษฐศาสตร์จากมูลนิธิ FGV
ขณะที่นายโรเบอร์โต กูลาร์ต จากสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัยบราซิเลียก็มีมุมมองที่คล้ายกัน
สงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครนทำให้บราซิลมีโอกาสที่จะดึงดูดการลงทุนเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศที่ใช้พลังงานอย่างเข้มข้นและกำลังเผชิญกับความท้าทายจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
โรเบอร์โต กูลาร์ต สถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยบราซิเลีย
ในปีแรกของสงครามยูเครน (2022) ประมาณครึ่งหนึ่งของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในภูมิภาคละตินอเมริกาหลั่งไหลไปรวมกันอยู่ที่บราซิล ตามรายงานของชุมชนรัฐละตินอเมริกาและแคริบเบียน (CELAC; Community of Latin American and Caribbean States)
การเมืองภายในก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ หลังการสิ้นสุดยุคของอดีตประธานาธิบดีขวาจัด ฌาอีร์ บอลโซนารู ซึ่งสูญเสียคะแนนนิยมจากการจัดการโรคระบาดไวรัสโคโรน่าที่ผิดพลาด ภายใต้ผู้นำคนใหม่ที่เปรียบดั่ง "ทักษิณแห่งละตินอเมริกา" ประธานาธิบดีลูลาและรัฐบาลฝ่ายซ้ายช่วยดึงดูดการลงทุนจากสหภาพยุโรปมากขึ้น แม้กระทั่งประธานคณะกรรมาธิการยุโรป นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ยังต้องเดินทางไปเยือนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและสัญญาจะเพิ่มการลงทุนในละตินอเมริกาอีกราว 10,000 ล้านยูโรและในส่วนของบราซิลอีก 2,000 ล้านยูโร
บราซิลยังเป็นมหาอำนาจในด้านพลังงานหมุนเวียน โดยผลิตไฟฟ้าได้ถึง 87% จากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ยุโรปจะลงทุน 2 พันล้านยูโรเพื่อสนับสนุนการผลิตไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของบราซิล
เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป
นอกจากการเมืองภายใน การต่างประเทศก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยให้ชาติตะวันตกสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เป็นอิสระจากมหาอำนาจมากขึ้น บราก็มุ่งมั่นที่จะใช้จุดยืนที่ "เป็นกลาง" ในภูมิรัฐศาสตร์ ไม่บังคับใช้การคว่ำบาตรต่อรัสเซีย หลีกเลี่ยงที่จะวิพากษ์วิจารณ์มหาอำนาจโดยตรง แม้ว่ามุมมองเหล่านี้อาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของประเทศในยุโรปส่วนใหญ่หรือสหรัฐอเมริกา แต่บราซิลยังคงรักษาความสัมพันธ์ทางการฑูต เศรษฐกิจ และเชิงพาณิชย์กับรัสเซียต่อไป
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ประเทศจีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของบราซิลด้วยมูลค่า 135 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 แต่เศรษฐกิจของมังกรแดงก็กำลังถดถอยในยุคหลังโควิด-19 ทำให้เกิดเสียงเรียกร้องให้มีการกระจายความเสี่ยงในด้านความสัมพันธ์ทางการค้าของบราซิลให้มากขึ้น โดยมุ่งเน้นทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค เปิดการค้าเสรีระหว่างกลุ่ม Mercosur ซึ่งเป็นกลุ่มการค้าเสรีในทวีปอเมริกาใต้กับสหภาพยุโรป
แต่ในทางปฏิบัติ ยังคงมีปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดเก็บภาษี ซึ่งขัดกับกฎหมายในบางประเทศของ EU
โฆษณา