Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วิเคราะห์บอลจริงจัง
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
24 ส.ค. 2023 เวลา 05:54 • กีฬา
บอลไทยผ่านกำแพง 13 ปี โค่นจีนถึงเซี่ยงไฮ้ เข้ารอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก
เมื่ออังคารที่ผ่านมา ผมคือ 1 ใน 230,000 คน ที่ดูไลฟ์สด เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ระหว่าง เซี่ยงไฮ้ พอร์ท กับ บีจี ปทุม ทางแชนแนลของสโมสรครับ และเป็นหนึ่งในเกมที่ลุ้นมากจริงๆ เพราะเป็นนัดที่มีเดิมพันสูงมาก
2
นี่คือเกมเดียวตัดสิน รู้ผลแพ้-ชนะไปเลย ว่าจะได้เข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกหรือไม่ ชนะเข้ารอบ แพ้ตกรอบ และในที่สุด บีจี ก็ทำได้
1
ตอนช่วงนาที 90 ที่เราโดนยิงจ่อๆ 5 หลา แต่กองหลังสกัดได้บนเส้นแล้วบอลไปเข้ามือฉัตรชัย บุตรพรหมพอดี รอดการเสียประตูอย่างเหลือเชื่อ เป็นโมเมนต์ที่ยิ่งใหญ่มากจริงๆ
1
ก่อนอื่นต้องอธิบายว่า ในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ถ้วยใบใหญ่ที่สุดของเอเชีย มีกฎที่แปลกประหลาดมากๆ นั่นคือรอบเพลย์ออฟ เกมตัดสินว่าใครจะได้เข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่ม จะเล่นแบบ "นัดเดียวจบ" เท่านั้น ต่างจากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของยุโรป ที่จะเล่นแบบเหย้า-เยือน
1
โดยทีมที่จะได้เป็นเจ้าบ้าน คือทีมประเทศที่มีค่าสัมประสิทธิ์ดีกว่า ว่าง่ายๆ เป็นกฎที่สร้างมาเพื่อให้ สามชาติใหญ่ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ ได้เปรียบ
6
คือประเทศอื่นๆ ที่ได้เข้าเพลย์ออฟ ในสายเอเชียตะวันออก อย่างไทย, เวียดนาม, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย ลำพังก็มีฝีเท้าเป็นรองอยู่แล้ว พอโดนบังคับเล่นเป็นทีมเยือน นัดเดียวรู้ผล ทำให้โอกาสเข้ารอบนั้นน้อยมากลงอีก
1
แล้วคิดดูนะครับว่า พอจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ชนะรอบเพลย์ออฟ ก็ไปสร้างผลงานในแชมเปียนส์ลีก ทำแต้มสัมประสิทธิ์เพิ่มอีก วนลูปซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้
2
นับตั้งแต่เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก มีระบบเพลย์ออฟนัดเดียวรู้ผล ตัวแทนจากทีมชาติไทย ไม่เคยได้เป็นเจ้าภาพในเกมชี้ชะตา ยกเว้นแค่หนึ่งนัดคือในปี 2013 ที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจอกับบริสเบน รอร์ ของออสเตรเลีย
1
1
นัดนั้นสนามซันคอร์ปของบริสเบน รอร์ มีปัญหาทางเทคนิค ทำให้เอเอฟซี ต้องปรับมาให้บุรีรัมย์เป็นเจ้าบ้านแทน และบุรีรัมย์ ก็เก็บเกี่ยวประโยชน์จากการเป็นเจ้าบ้าน ชนะบริสเบน เข้ารอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จ
3
ถ้าไม่นับเกมนั้น สโมสรจากไทยก็ไปเยือนตลอด และไม่เคยชนะกลับมาเลยแม้แต่ทีมเดียว นี่เป็นกำแพงที่เราข้ามไปไม่ได้เสียที
สำหรับสถิติในรอบ 12 ปี ของเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ นัดไฟนอล ของทีมไทย มีดังนี้ครับ
---------------------
2010
สิงคโปร์ อาร์ม ฟอร์ซ 0-0 เมืองทอง : เมืองทองแพ้จุดโทษ 4-3
1
2011
ไม่มีทีมจากไทยเข้าถึงรอบเพลย์ออฟ ไฟนอล
2012
โปฮัง สตีลเลอร์ส (เกาหลีใต้) 2-0 ชลบุรี
1
2013
บุรีรัมย์ 0-0 บริสเบน รอร์ (ออสเตรเลีย) : บุรีรัมย์ชนะจุดโทษ 3-0
2
2014
ปักกิ่ง กั๋วอัน (จีน) 4-0 ชลบุรี
เมลเบิร์น วิคตอรี่ (ออสเตรเลีย) 2-1 เมืองทอง
3
2015
ปักกิ่ง กั๋วอัน (จีน) 3-0 บีจี
คาชิว่า เรย์โซล (ญี่ปุ่น) 3-2 ชลบุรี
1
2016
เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี (จีน) 3-0 เมืองทอง
เอฟซี โตเกียว (ญี่ปุ่น) 9-0 ชลบุรี
1
2017
เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี (จีน) 3-0 สุโขทัย
2018
เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี (จีน) 1-0 เชียงราย ยูไนเต็ด
คาชิว่า เรย์โซล (ญี่ปุ่น) 3-0 เมืองทอง
2019
ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า (ญี่ปุ่น) 0-0 เชียงราย ยูไนเต็ด : เชียงรายแพ้จุดโทษ 4-3
1
2020
เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี (จีน) 3-0 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2021
- ไม่มีเพลย์ออฟจากวิกฤติโควิด และสโมสรในลีกจีนถอนตัว
2022
อุลซาน ฮุนได (เกาหลีใต้) 3-0 ท่าเรือ
แดกู เอฟซี (เกาหลีใต้) 1-1 บุรีรัมย์ : บุรีรัมย์แพ้จุดโทษ 3-2
1
---------------------
ในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา มีทีมจากไทย แข่งเพลย์ออฟรอบไฟนอล ทั้งหมด 16 นัด เราชนะ 1 แพ้ 15 โดยเกมเดียวที่ชนะ เกิดขึ้นจากการที่บุรีรัมย์ได้เป็นเจ้าบ้าน อีก 15 นัดที่เหลือที่เราเล่นเป็นทีมเยือน แพ้ 100%
2
นี่คือความยาก ที่บีจีต้องเผชิญ การไปเยือนในบ้านคู่แข่ง ย่อมเสียเปรียบเรื่องเสียงเชียร์ ความคุ้นเคย การเดินทาง และสภาพอากาศอยู่แล้ว ยังไม่นับประวัติศาสตร์เก่าๆ ที่ทำยังไง เราก็ไม่เคยผ่านกำแพงตรงนี้ได้อีก
1
คู่แข่งเมื่อวานนี้ ของบีจี คือ "เซี่ยงไฮ้ พอร์ท" หรือชื่อเดิมที่ทุกคนรู้จัก คือ "เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี" นั่นเอง
คำว่า SIPG ย่อมาจาก Shanghai International Port Group หรือการท่าเรือเซี่ยงไฮ้นั่นเองครับ แต่เขาแค่ปรับชื่อมาใช้ แค่ Shanghai Port ในปัจจุบัน
1
เซี่ยงไฮ้ พอร์ท เป็นสโมสรฟุตบอลที่เอาชนะ ทีมจากไทยลีกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นจำนวน 4 ครั้ง นั่นคือชนะ เมืองทอง, สุโขทัย, เชียงราย, บุรีรัมย์ โดยชนะแบบไม่เคยเสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียวด้วย
1
ดังนั้นเมื่อจับสลากเจอบีจี พวกเขาไม่ได้มีความกังวลใจแม้แต่นิดเดียวว่าจะแพ้ สถิติมันบอกว่าข่มทีมไทยอยู่เยอะ
คีย์แมนของเซี่ยงไฮ้ พอร์ท คือออสการ์ อดีตดาวเตะทีมชาติบราซิล ที่เคยอยู่เชลซีมาก่อน และ วู เล่ย กองหน้าความหวังของทีมชาติจีนคนปัจจุบัน ไลน์อัพถือว่าใช้ได้ ผลงานในไชนีสซูเปอร์ลีก ก็สดใสมาก นำเป็นจ่าฝูงทิ้งห่างอันดับ 12 แต้ม คือน่าจะได้แชมป์แบบนอนมา
2
สำหรับเกมนัดนี้ มีความหมายทางอ้อมอีกเรื่องที่สำคัญมาก คือการปะทะกันตรงๆ ของทีมชาติไทย vs ทีมชาติจีน
1
ไทยกับจีน จับสลากมาเจอกันในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก และจะปะทะกันในนัดแรกสุดเลยด้วย ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
11 ตัวจริงของบีจี มีตัวทีมชาติไทย 6 คนลงเล่น ประกอบด้วย ธีรศิลป์ แดงดา, ชนาธิป สรงกระสินธิ์, สารัช อยู่เย็น, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, จักรพันธ์ ไพรสุวรรณ และ ฉัตรชัย บุตรพรหม เชื่อว่าประมาณ 4 คนในนี้ จะเป็นตัวจริงของมาโน่ โพลกิ้ง ในฟุตบอลโลกด้วย
1
ขณะที่ 11 ตัวจริงของเซี่ยงไฮ้ มีถึง 7 คนที่เป็นตัวจริงทีมชาติชุดใหญ่ โดยมี 4 คนที่ได้ออกสตาร์ตตัวจริงในเกมอุ่นเครื่องนัดล่าสุดที่ชนะปาเลสไตน์ 2-0 ได้แก่ ยาน จุนหลิง (GK), ไทอัส บราวนิ่ง (DF) อังกฤษโอนสัญชาติ, จาง ลินเป็ง (DF) และ วู เล่ย (FW)
1
คือแผนการเล่นของทีมชาติจีนชุดใหญ่ กับ เซี่ยงไฮ้ เล่น 3cb เหมือนกัน ตัวผู้เล่นก็คล้ายกัน
ดังนั้น เราพอจะพูดกลายๆ ได้เลยว่า นี่เป็นการจำลอง เกมทีมชาติไทย vs ทีมชาติจีน เวอร์ชั่นมินิครับ
1
นัดนี้ ฮีโร่อาจเป็นอิกอร์ เซอร์เกเยฟ ก็จริง แต่เมื่อดูในรายละเอียดของเกม จะเห็นว่านักเตะไทยทำผลงานได้ดีมากๆ
ธีรศิลป์ แดงดา แอสซิสต์ประตู 1-0 ให้เซอร์เกเยฟหลุดเข้าไปยิงแบบโล่งๆ
1
ชนาธิป สรงกระสินธ์ แทงคิลเลอร์พาสให้มุ้ยยิงติดเซฟจังหวะแรก แต่เซอร์เกเยฟตามซ้ำได้สำเร็จ ให้บีจี นำ 2-0
1
สารัชแทงตามช่องให้ชนาธิป ลากเลื้อยจนกองหลังจีนงง แล้วจ่ายให้เซอร์เกเยฟ ยิงแฮตทริก ให้บีจีนำ 3-1
หรือตอนนาที 90 ที่บีจีนำ 3-2 เกมจะจบอยู่แล้ว วู เล่ย ยิงจ่อๆ แค่ 5 หลา ดูยังไงก็เข้า แต่เชาวัฒน์ วีระชาติ ที่ยืนบนเส้นบล็อกเอาไว้ได้ บอลกระดอนไปเข้ามือฉัตรชัย บุตรพรหมที่ปฏิกริยาดี ไม่ลนลาน คว้าใส่ซองเอาไว้ได้ ทำให้ทีมรอดการเสียประตูได้แบบเสียวไส้จริงๆ
1
สุดท้ายหลังจากทดเจ็บ 5 นาที บีจี ปทุมทำได้ เอาชนะเซี่ยงไฮ้ พอร์ทได้ 3-2 ในเกมที่ลุ้นใจหายใจคว่ำที่สุดนัดหนึ่ง
1
นี่เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่มากๆ เพราะทำให้ไทย ได้โควต้า "3 ทีม" บีจีเข้าไปรอบแบ่งกลุ่ม ร่วมกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ แบงค็อก ยูไนเต็ด ทั้ง 3 ทีมได้โอกาสไปสร้างผลงานในระดับเอเชีย ให้คนทั้งทวีปได้เห็น
นอกจากนั้น บีจี ยังเป็นทีมไทย ทีมแรกในประวัติศาสตร์ ที่เอาชนะในเกมเยือน ของรอบเพลย์ออฟไฟนอลได้สำเร็จ
1
นี่เป็นสกอร์ที่ไม่มีใครคาดคิดมากๆ เพราะเซี่ยงไฮ้คือจ่าฝูงของลีกจีน นำคู่แข่งแบบใสๆ ส่วนบีจี ยังไม่ชนะใครในลีกเลย คือใครจะไปคาดคิด ว่าโค้ชธง จะมาปล่อยของในนัดนี้
1
เครดิตต้องให้บีจีเต็มๆ ทั้งโค้ช นักเตะไทย และนักเตะต่างชาติ ทุกคนเล่นด้วยสปิริตอย่างแรงกล้า โดยเฉพาะตอนทดเจ็บ 5 นาที ฝั่งจีนโหมบุกหนักมากๆ ถ้าใจไม่แกร่งพอ เป๋ไปแล้ว แต่บีจียังเอาตัวรอดได้จนหมดเวลา คือไม่รู้จะหาคำใดๆ มาชื่นชม
ยินดีด้วยกับบีจี ที่ไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จ การบุกไปชนะที่จีนได้ ในเกมนัดเดียวรู้ผล เป็นอะไรที่สุดๆ แล้วครับ
เซี่ยงไฮ้ ที่เอาชนะทีมจากไทยมาตลอด สุดท้ายสถิตินั้นก็มาโดนหยุดเอาในวันนี้ด้วยน้ำมือของกระต่ายแก้วนั่นเอง
2
จริงๆ ค่ำคืนของผมจะเพอร์เฟ็กต์กว่านี้ถ้าท่าเรือ สามารถเข้ารอบมาได้อีกทีม แต่ก็น่าเสียดายที่แพ้คู่แข่งจากจีน 1-0 แต่ผมชอบสปิริตของท่าเรือนะ ที่มาร่วมยินดีกับบีจีใน FB คือตอนบอลลีกก็ห้ำหั่นกัน แต่พอลงแข่งในฐานะตัวแทนประเทศ ก็ซัพพอร์ทกัน นี่เป็นความน่ารักของสโมสรในไทยครับ
6
ชัยชนะที่บีจี มีต่อเซี่ยงไฮ้เมื่อคืนนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญว่าสโมสรไทย ก็สามารถเอาชนะได้ในเกมเยือน ในภาวะที่กดดันและเสียเปรียบทุกอย่าง
นอกจากนั้น ยังเป็นการสร้างกำลังใจที่สุดยอดมาก ก่อนที่ไทยจะเจอจีน ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเดือนพฤศจิกายนนี้
ถ้าตัดตัวต่างชาติของบีจี กับ เซี่ยงไฮ้ ทิ้งไป ก็เป็นการดวลกันของตัวทีมชาติล้วนๆ ไทย ปะทะ จีน และเท่าที่เห็น นักเตะไทยของเราไม่มีอะไรเป็นรองเลยครับ
บอลไทยลีกเริ่มมา 2 วีก มีแต่ข่าวดีๆ หวังว่าโมเมนตั้มของบอลไทย จะพุ่งทะยานต่อไปเรื่อยๆ จนถึงฟุตบอลโลกปลายปีเลยนะครับผม
#Congratulations
10 บันทึก
58
2
13
10
58
2
13
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย