29 ส.ค. 2023 เวลา 06:45 • ประวัติศาสตร์

ภาพเก่าเล่าตำนาน : แอร์อเมริกา…ทำสงครามลับในลาว-ไทย

ภาพเก่าเล่าตำนาน : แอร์อเมริกา…ทำสงครามลับในลาว-ไทย
สงคราม “ลับ” ในลาว ระหว่าง พ.ศ.2503-2516 ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะในสื่อทุกแขนง แทบจะไม่มีอะไรเป็นความลับอีกแล้ว รัฐบาลไทยในเวลานั้น เข้าไป “เกี่ยวข้อง” ด้วยเต็มพิกัด จัดส่ง ตชด. ทหารราบ ทหารปืนใหญ่เข้าไปทำการรบกับ “ลาวคอมมิวนิสต์” แบบดุเดือด สนับสนุนการทำงานของหน่วยข่าวกรองกลาง (CIA)
ใช้พื้นที่ค่ายทหารบก ทหารอากาศในภาคอีสาน ลึกเข้ามาถึงศูนย์การทหารราบ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขนทหารลาว (ฝ่ายขวา) มาฝึกใช้อาวุธทุกชนิด แล้วส่งกลับไปทำการรบในลาว
ค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี ที่ใหญ่โต ไกลโพ้น กันดาร สหรัฐมาออกแบบวางผังวางแปลนให้แบบค่ายทหารสหรัฐ แบ่งเป็นสัดส่วนระหว่างที่พัก-
ที่ทำงาน มีสนามบินสำหรับอากาศยานขนาดเบา ค่ายสฤษดิ์เสนา จ.พิษณุโลก และอีกหลายค่ายในภาคอีสาน …อเมริกาออกเงินสร้างให้
สนามบินของกองทัพอากาศไทย ท่าเรือ ถนนมิตรภาพ…สหรัฐออกเงินสร้างให้ เพื่อสงครามในลาวและเวียดนาม
รถยนต์หรูของทางราชการทหารและพลเรือนมหาศาล …มาจากการสนับสนุนของสหรัฐอเมริกา
การตัดสินใจของรัฐบาลไทย อาสาสมัคร และพลเรือนไปทำการรบในลาว เพื่อสกัดกั้น ยับยั้ง การแพร่กระจายขยายตัวของลัทธิคอมมิวนิสต์
ที่ครอบคลุมไปทั่วดินแดน เวียดนาม เขมร และลาว
เป็นการไป “ดับไฟนอกรั้วบ้าน”
สังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งกายภาพและชีวิตจิตใจ
ราว พ.ศ.2500 ที่ดินบริเวณย่านพัฒน์พงศ์ เดิมปลูกกล้วย เงียบเหงา ถูกเนรมิตขึ้นมาเป็นอาคารพาณิชย์ ซีไอเอที่เข้ามาทำงานลับในไทย ได้รับการชักชวนให้มา “เช่า” ทำเป็นสำนักงาน
อาคารในย่านพัฒน์พงศ์ กลายเป็นศูนย์บัญชาการเป็นสำนักงานอำนวยการของซีไอเอ (แบบไม่เป็นทางการ) โดยใช้ชื่อบริษัท SEA Supply ศาลาแดง ถนนสุรวงศ์ เกิดโรงแรมคึกคัก
ซีไอเอ ตกลงเข้ามาปักหลักพร้อมเงินก้อนยักษ์ในการทำสงครามในลาว ต่อสู้คอมมิวนิสต์ในไทย บาร์ ร้านอาหาร เครื่องดื่ม บุหรี่ เหล้า ของกิน ของใช้สไตล์อเมริกันหลั่งไหล รั่วไหลเข้ามาในย่านนี้ เป็นการแจ้งเกิดของบรรดาสถานบันเทิง สาวอะโกโก้…เต้นรูดเสา รองรับเจ้าหน้าที่ฝรั่งทั้งหลายที่มาประชุม พักผ่อน ที่ดังกระหึ่มไปค่อนโลก ดอลลาร์กระจายหอมฟุ้งไปทั่วแผ่นดิน
ซีไอเอ ทำภารกิจหลากหลาย ทางความมั่นคง ด้านการพัฒนาสาธารณูปโภค วัฒนธรรม การศึกษา สังคมไทยอ้าแขน-ขารับ
หน.ซีไอเอ นามว่า บิล แลร์ (Bill Lair) หนุ่มมะกันจบปริญญาวิศวกรรมธรณีวิทยาจาก ม.เท็กซัส เอแอนด์เอ็ม ไปเป็นทหารในสงครามโลกครั้งที่ 2 สมัครมาทำงานในไทย คือ คนที่ของบประมาณมาจัดหลักสูตรฝึก “กระโดดร่ม” เป็นครั้งแรกให้กับตำรวจตระเวนชายแดน จัดตั้งหน่วย (Police Aerial Reinforcement Unit : PARU) คัดเอาตำรวจนักรบที่ผ่านการฝึก เข้าไปในลาวเพื่อไปฝึกให้กับ “ชาวม้ง”
ในภาคเหนือของลาว เพื่อไปรบกับคอมมิวนิสต์
ต่อมา…หลักสูตร “การฝึกกระโดดร่ม” ถูกถ่ายทอดมายังกองทัพบก ยังฝึกกันมาจนถึงทุกวันนี้
สงครามลับในลาว เป็นสงครามที่อเมริกาไม่ประสงค์จะให้ “กองทัพสหรัฐ” เข้ามาทำการรบ…เพื่อเลี่ยงบาลี ไม่ให้ผิดไปจากข้อตกลงของสหประชาชาติ วอชิงตันจึงให้ “ซีไอเอ” ซึ่งเป็นหน่วยงานพลเรือน เป็น “นอมินี” เข้ามาบัญชาการรบ ใช้งบประมาณมหาศาล
ช่วงแรก…ซีไอเอมาตั้งบริษัท SEA Supply เพื่อทำธุรกิจรับ-ส่งสินค้าจากต่างประเทศ มีที่ตั้งสำนักงานอยู่แถวหน้าสนามกีฬาศุภชลาศัยโน่น แท้ที่จริงบริษัทนี้ทำงานการขนส่งอาวุธ กำลังพล การลำเลียง ขนส่งทั้งปวงเพื่อทำการรบในลาว
นี่คือ ต้นตำรับ ลับ ลวง พราง ของจริง เป็นการทำงานโดยใช้เอกชนเป็น “ตัวแสดงแทน” ข้อดี คือ คล่องตัว ไม่ผูกพันกับราชการ แม้กระทั่ง “เสียชีวิต”ก็ไม่ต้องมาสดุดี ไว้อาลัย
ผู้เขียนไปอ่านบทความของอดีต ทหาร พลเรือน และซีไอเอ ที่มาทำการรบในลาว (บ้างก็เขียนหนังสือขาย) พบว่า “ดินแดนของไทย เสมือนเป็น
พื้นที่ส่วนหลังของยุทธบริเวณในลาว” โดยเฉพาะการใช้อากาศยานของซีไอเอ ที่ชื่อ “แอร์อเมริกา” (Air America) ที่บินเข้า-ออก ไทย-ลาวแบบอัตโนมัติแทบจะ 24 ชั่วโมง
อดีตนักรบนิรนาม 333 ของไทยที่ไปรบในลาว จะทราบดี
ขอเจาะประเด็น “แอร์อเมริกา” ที่เป็นเขี้ยวเล็บของซีไอเอ สนับสนุนการรบในลาว …มีที่มั่น ฐานบิน อยู่ในไทยเป็นส่วนใหญ่
กำเนิดของแอร์อเมริกา เป็นดังนี้ครับ…
ในช่วง พ.ศ.2489 หน่วยบินเอกชนของอเมริกาเข้าไปทำงานในแผ่นดินจีน เป็นหน่วยงานบรรเทาทุกข์และฟื้นฟูแห่งชาติจีน หลังจากสงคราม (CNRRA) เกิดติดพัน เลยปรับภารกิจไปสนับสนุนกองทัพของ “เจียง ไคเช็ค” กองกำลัง ก๊กมินตั๋ง รบกับกองทัพของ เหมา เจ๋อตุง (ที่เป็นคอมมิวนิสต์)
หน่วยบินของ “เอกชน” เรียกว่า CAT (Civilian Air Transport) ในจีนมี “ซีไอเอ” สั่งการ
CAT ทำงานคล่องตัว มี “นักบินทหาร” ที่แฝงตัวเข้ามาทำงาน ทำเงิน ได้ประสบการณ์ หน่วยบินเอกชนลักษณะนี้ ยังมีอีกเช่นหน่วยบิน Flying Tiger ที่เข้ามาทำภารกิจลับกับกองทัพไทย (กรณี ทหารจีนคณะชาติ กองพล 93 ที่เข้ามาปักหลักที่ ดอยแม่สลองและอีกหลายพื้นที่สูงทางภาคเหนือของไทย ขนส่งลำเลียงทหารจีนคณะชาติกลับไปเกาะไต้หวัน)
การทำงานทางสนับสนุนอากาศโดย “ไม่ใช้” กองทัพอากาศสหรัฐถูก “ลากยาว” ทำให้หน่วยบินเอกชน-พลเรือน เข้ามามีส่วนร่วมในสงครามฝรั่งเศสกับคอมมิวนิสต์ ผู้ก่อความไม่สงบในอินโดจีน
พ.ศ.2493 หน่วยข่าวกรอง ซีไอเอ เจรจาซื้อกิจการบริษัทการบินพลเรือน เพื่อทำภารกิจ “ลับ” ในด้านข่าวกรองในภูมิภาค
พ.ศ.2502 ซีไอเอ เปลี่ยนชื่อสายการบินนี้เป็น “แอร์อเมริกา” ตั้งแต่นั้นมา แอร์อเมริกากลายเป็นเขี้ยวเล็บของซีไอเอ ทำงานในลาว ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากฝ่ายไทย เพราะมาสร้างสนามบินให้ไทยหลายแห่ง ติดตั้งระบบการติดต่อสื่อสาร ตั้งสถานีเรดาร์ในไทย ที่ค่ายรามสูร จ.อุดรธานี
ตั้งแต่ปี พ.ศ.2505 บิล แลร์ หัวหน้าซีไอเอในไทย บินเข้า-ออก ไทย-ลาว เป็นเรื่องปกติ …ใครจะไปรู้ว่าใครไป-ใครมา
มี “เครื่องบิน” หลากหลายชนิดเป็นของตัวเองมีงบประมาณมหาศาล จะทำอะไรที่ไหน เมื่อไหร่ ก็แค่ดีดนิ้ว
แอร์อเมริกา… นำทหารไทย (ที่ทำเรื่องลาออกจากราชการแล้ว) เข้าไปทำการรบในลาวหมุนเวียน “เป็นผลัด”
แอร์อเมริกา ทำหน้าที่บินขนส่ง สนับสนุนกองทัพชาวม้ง (ภายใต้การบังคับบัญชาของนายพลวังเปา) สนับสนุนกองกำลังอาสาสมัครไทยที่ทำการรบ ขนส่งผู้ลี้ภัย และบินภารกิจสอดแนมถ่ายภาพ ให้ข้อมูลข่าวกรองการรบ
การทำงานส่วนใหญ่ ใช้สนามบินในไทย กองบัญชาการของฝ่ายไทย คือ บก.333 อยู่ในค่ายทหาร จ.อุดรธานี
แอร์อเมริกา มีเครื่องบินขนส่ง 2 เครื่องยนต์ราว 20 ลำ มีเครื่องบินโบอิ้ง 727 และโบอิ้ง 747 รวมถึงเครื่องบินขึ้นลงระยะสั้นอีกราว 20 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 30 ลำ นักรบจากไทยได้รับการสนับสนุนจากแอร์อเมริกา รอคอยการส่งเสบียง การขนย้ายปืนใหญ่ ส่งคนเจ็บ ส่งกระสุน ซึ่งบางสถานการณ์ที่เลวร้ายแอร์อเมริกาติดพันถึงขั้น “ติด-ใช้อาวุธ” บินไปยิงถล่มเป้าหมายให้ด้วย
ภูมิประเทศในลาว ส่วนใหญ่เป็นภูเขา แอร์อเมริกาส่งอาหารหลายพันตัน ไก่มีชีวิต สุกร วัวควาย นักบินมะกันบินแบบคาวบอย
บ่อยครั้งที่ใช้ “การทิ้งด้วยร่ม” เมื่อร่มลอยลงมาจากฟ้า ทหารทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องเข้าไปแย่ง เพราะมันคือเสบียงอาหารชั้นดี เป็นข้าวสาร อาวุธ กระสุน น้ำดื่ม ทหารไทยที่ผ่านสมรภูมิรบในลาวจะเล่าติดตลกว่า… “บ่อยครั้ง…ลมพัดร่มไปตกทางฝ่ายลาวแดง…มันเลยเอาไปแดกกันเกลี้ยง…”
ทหารข้างล่างก็ได้แต่ “ด่า” นักบินทางวิทยุ
มีนักบิน ผู้ช่วยนักบิน ช่างเครื่อง และผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศมากกว่า 300 คน ประจำอยู่ที่ประเทศลาวและไทย
มีบันทึกสถิติว่า… พ.ศ.2513 แอร์อเมริกาได้จัดส่งอาหารจำนวน 21,000 เมตริกตัน ในประเทศลาวเวลาบินของเฮลิคอปเตอร์มากกว่า 4,000 ชั่วโมงต่อเดือน
การศึก-สงคราม ต้องมีการสูญเสีย…
เหตุการณ์ที่มีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง…
5 กันยายน พ.ศ.2506 ราวบ่าย 4 โมง เครื่องบิน C-46 (เป็นเครื่องบินลำเลียง) ของแอร์อเมริกาที่เสร็จจากภารกิจส่งเสบียง ถูกยิงด้วย ปตอ. ขณะบินอยู่เหนือภูเขาเมืองสะหวันนะเขต เกิดไฟลุกไหม้ นักบินประคองเครื่องสุดชีวิตเพื่อจะไปลงจอด
ทีมงาน 5 คนที่เป็นเจ้าหน้าที่ทิ้งของ นั่งๆ นอนๆ อยู่ในตัวเครื่อง รีบไปคว้าร่มชูชีพมาใส่อย่างรวดเร็ว ไม่มีเวลาที่จะต้องตรวจอะไรทั้งนั้น ยมบาลกวักมือเรียกให้มาเยี่ยมนรก
ทั้ง 5 คน กระโดดออกมาจากตัวเครื่อง นายเดอบรุน (Eugene DeBruin) นายวาย ซี โต (Y C To) ชาวจีน และอาสาสมัครไทย 3 คน คือ นายพิสิษฐ์ อินทรทัต นายประสิทธิ์ พรหมสุวรรณ และ นายประสิทธิ์ ธานี ทั้งหมดรอดชีวิต แต่บาดเจ็บจากการกระแทกต้นไม้ถูกทหารลาวแดงจับตัวไว้ได้
นักบิน ชื่อ เชนี (Joseph C. Cheney) นักบินผู้ช่วยชื่อ เฮอริค (Charles Herrick) เสียชีวิต ผู้ที่โดดร่มมาทั้ง 5 คนถูกส่งไปติดคุกโหดในลาว 6 แห่ง แสนทุกข์ทรมาน
ทั้งทีมจ้องแหกคุกตลอดเวลา หากแต่โดนจับได้ในเวลาต่อมาทุกครั้ง โดนซ้อมทรมานเจียนอยู่เจียนตาย
10 มกราคม 2510 พิสิษฐ์ อินทรทัต ที่ทำงานให้แอร์อเมริกา (เคยผ่านการฝึกหลักสูตรตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร) ได้รับการช่วยเหลือจากทหารลาวฝ่ายขวาออกมาได้สำเร็จ (เสียชีวิตเมื่อ 20 ม.ค.2559 ที่กรุงเทพฯ)
ขอแถมเป็นข้อมูลนะครับ… พิสิษฐ์ อินทรทัต (แอ๊ด) เป็นพี่ชายคนโต มีน้องชาย 3 คน คือ พลเอกผ่านโผน อินทรทัต นายโลดโผน อินทรทัต และพลเอกไตรรงค์ อินทรทัต (เสธ.ไอซ์)
พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก
โฆษณา