รักในตำนานของชาร์ลส์ ฟิลิป อาร์เธอร์ จอร์จ
ไม่ว่าในช่วงชีวิตไหน แอดมินเชื่อว่าทุกคนย่อมปรารถนาแต่สิ่งที่ดีงามให้เกิดขึ้น แม้ในเรื่องของความรัก ดังนั้น ทุกคนจึงพยายามอย่างมากในการรักษาความสัมพันธ์ให้ได้นานที่สุด ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เราจึงเห็นได้จากเรื่องราวความรักต่าง ๆ ที่บางคนอยู่ด้วยเป็น 20 30 ปี มากสุดถึง 70 ปีก็มี แต่บางคู่ต้องจบลงด้วยการร้างลาหย่าขาดกัน เพราะอาจมีบางอย่างที่ไม่ตรงกัน หรือเกินกว่าจะต้านทานได้ กลายเป็นเห็นตำนานแห่งความ “เรื้อรัง” ที่อาจลืมได้ยากสำหรับบางคน
เช่นเดียวกับเรื่องราวความรักของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ ที่เกิดขึ้นกับหญิง 2 นาง ระหว่างคามิลล่า ปาร์คเกอร์ โบว์ลส์ กับ ไดอาน่า ฟรานเซส สเปนเซอร์ จนกลายเป็นวลีเด็ดอย่าง “มีเราสามคนอยู่ในชีวิตสมรสนี้ มันก็เลยแออัดไปหน่อย”
คามิลล่า มีชื่อจริงว่า “คามิลล่า โรสแมรี่ แชนด์” เป็นบุตรสาวของพันตรีบรูซ มิดเดิลตัน โฮป แชนด์ กับฮอน โรซาลินด์ ม็อด แชนด์ (นี คิวบิตต์) เกิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 (พ.ศ. 2490) ณ โรงพยาบาลคิงส์คอลเลจ (King's College Hospital) กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร
ได้รับการศึกษาครั้งแรกที่โรงเรียนดัมเบรลส์ (Dumbrells School) มณฑลซัสเซ็กซ์ หลังจากนั้นได้ไปศึกษาที่โรงเรียนควีนส์เกท (Queen’s Gate School) เซาธ์เคนซิงตัน กรุงลอนดอน โรงเรียน Mon Fertile ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นโรงเรียนสำหรับสอนการเรือนและการเข้าสังคมให้กับสตรี และสถาบัน Britannique กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตามลำดับ
คามิลล่า แชนด์ ในปี ค.ศ. 1965 (พ.ศ. 2508, ภาพ: The Celeb Report)
หากสืบลึกลงไปถึงสายเลือดในตัวคามิลล่าแล้วพบว่า เธอเองก็เป็นชนชั้นสูงคนหนึ่งของอังกฤษเลยก็ว่าได้ เนื่องจากคามิลล่าเป็นเหลนของอลิซ เคปเปล หนึ่งใน “ชู้รัก” ยาวนานของสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร และแม่ของเธอก็เป็นบุตรสาวของโรแลนด์ คิวบิตที่ 3 บารอนแห่งอาซท์คอมบี้
อลิซ เคปเปล ยายทวดของคามิลล่า (ภาพ: Town&Country)
ในปี ค.ศ. 1965 (พ.ศ. 2508) หลังจากใช้ชีวิตอยู่ในยุโรปเป็นเวลา 6 เดือน คามิลล่าก็ได้หวนคืนสู่กรุงลอนดอน แล้วทำงานพาร์ทไทม์เป็นเลขานุการ ก่อนเข้าทำงานที่บริษัท Colefax and Fowler ซึ่งเป็นบริษัทด้านการออกแบบตกแต่งภายใน โดยที่คามิลล่าก็สามารถทำงานต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีและเติบโตเป็นนักออกแบบตกแต่งภายในที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของบริษัท
แต่ว่ากันว่า คามิลล่าเป็นสาวสังคมจัดและชอบเที่ยว จึงถูกไล่ออกจากบริษัท เพราะเธอปาร์ตี้หนักเกินไป แต่ก็ถือเป็นข้อดีสำหรับคามิลล่าที่จะได้มีโอกาสอุทิศงานเพื่อสังคมอย่างเต็มที่ เพราะด้วยฐานะแล้วก็ไม่ต้องเดือดร้อนอะไร
ประกอบกับคามิลลาเป็นสาวที่มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามอย่างมาก จึงได้มีการคบหาดูใจกับชายต่าง ๆ มาแล้วมากมาย จนได้มาพบกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ฟิลิป อาร์เธอร์ จอร์จ เจ้าชายแห่งเวลส์ พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร กับเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินเบอระ
เป็นครั้งแรกในการแข่งขันกีฬาโปโลที่เมืองวินด์เซอร์ มณฑลเบิร์กเชียร์ เมื่อปี ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513) ขณะนั้นพระชนมายุได้ 22 พรรษา เพิ่งสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และเตรียมเข้ารับราชการในกองทัพเรืออังกฤษ ซึ่งทั้งสองก็ได้คบหาดูใจกันเป็นความสัมพันธ์ที่แนบชิดและลึกซึ้ง
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ กับคามิลล่า ในการแข่งขันกีฬาโปโลที่เมืองวินด์เซอร์ มณฑลเบิร์กเชียร์ เมื่อปี ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513, ภาพ: Daily Star)
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มห่างเหินกัน จนคามิลล่าได้มีโอกาสพบกับพันตรี แอนดรูว์ ปาร์คเกอร์ โบว์ลส์ ผู้บังคับการหน่วยทหารม้ารักษาพระองค์ (The Household Cavalry) ซึ่งขณะนั้นกำลังคบหาดูใจกับเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ พระวรราชกุมารี พระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 กับเจ้าชายฟิลิป แล้วก็ได้คบหาจนเข้าพิธีวิวาห์ด้วยกันในปี ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) มีบุตรธิดา 2 คน คือ ทอม และลอร่า ปาร์คเกอร์ โบว์ลส์
ว่ากันว่า การแต่งงานของคามิลล่าครั้งนั้น ทำเอาเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ถึงกับเก็บพระองค์อยู่ในห้องนานหลายชั่วโมง แล้วออกมาพร้อมกับพระเนตร (ตา) ที่แดงกล่ำเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้น ทั้งเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ กับคามิลล่าก็ยังคงเป็นกัลยาณมิตรและติดต่อกันมาโดยตลอด
งานแต่งงานระหว่างพันตรี แอนดรูว์ ปาร์คเกอร์ โบว์ลส์ กับคามิลล่า ในปี ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516, ภาพ: Britannica)
ในส่วนพระองค์ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เอง ก็ได้พยายามหาผู้หญิงคนใหม่ ประหนึ่งว่าจะเป็นการทดแทนคามิลล่าอยู่หลายคน แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอพระทัย ประกอบกับการเลือกคู่ครองมีผลต่อความนิยมของประชาชน ทำให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ไม่ทรงสามารถเลือกคนที่พระองค์รักได้ตามที่พระทัยปรารถนาอย่างชายทั่วไป ประกอบกับเป็นความกดดันมาจากทุก ๆ ทาง โดยเฉพาะราชสำนัก
แล้วหลังจากนั้นไม่กี่ปี เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ก็ได้มีโอกาสพบกับเลดี้ไดอาน่า สเปนเซอร์ ในปี ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520) ที่บ้านอัลธอร์ป ซึ่งเป็นบ้านประจำตระกูลสเปนเซอร์ เพื่อทรงพบกับเลดี้ซาราห์ สเปนเซอร์ พี่สาวของไดอาน่า ซึ่งขณะนั้นพระองค์กำลังคบหาดูใจกันอยู่
บ้านอัลธอร์ปของตระกูลสเปนเซอร์ มณฑลนอร์แธมป์ตันเชียร์ ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร (ภาพ: Lonely Planet)
3 ปีต่อมา เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ได้ปันพระทัยและคบหากับไดอาน่าอย่างคู่รัก แต่เป็นเพียงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะมีการประกาศสำนักพระราชวังบั๊คกิ้งแฮมอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) ว่าทั้งคู่ได้หมั้นกัน
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ กับเลดี้ไดอาน่า ภายการหมั้นอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524, ภาพ: People)
(โปรดติดตามตอนต่อไป…)
อ้างอิง:
● คามิลลา ตำนานรักซ่อนเร้น สู่สมเด็จพระราชินีอังกฤษ ในพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 โดย ประชาชาติธุรกิจ (https://www.prachachat.net/world-news/news-1044268)
● รู้จักสาวสังคม "คามิลลา" ก่อนจะเป็น "ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์" โดย KomChadLuek Online (https://www.komchadluek.net/today-in-history/379849)
● Duchess of Cornwall, her education โดย duchess-of-cornwall.co.uk (http://www.duchess-of-cornwall.co.uk/education.htm)
● The Queen โดย The official website of the Royal Family (https://www.royal.uk/queen-consort)
#adminfield #ชอบเล่าชอบแชร์แต่ไม่ชอบเป็นคนดีย์
#ราชวงศ์อังกฤษ #พระเจ้าชาร์ลส์ที่3 #kingcharles #ไดอาน่า #PrincessDiana #คามิลล่า #QueenConsort
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
