Siamsport ยังอยู่ แม้หนังสือพิมพ์จะไม่มีอีกแล้วก็ตาม
ตอนนี้ผมอยู่ที่ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นครับ
เป็นธรรมเนียมทุกปี ที่เจลีกจะเชิญสื่อมวลชน และอินฟลูเอนเซอร์จำนวนหนึ่ง ไปชมฟุตบอลนัดที่นักเตะไทยลงแข่งขัน ซึ่งปี 2023 เกมนัดดังกล่าว คือ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ที่เจอกับกัมบะ โอซาก้า ในวันเสาร์นี้ โดยคาดว่า "เช็ก" สุภโชค สารชาติ จะได้ลงแน่นอน หลังจากยิง 1 แอสซิสต์ 1 ในเกมล่าสุด
สำหรับบริษัทที่เจลีก มอบหมายให้เป็นออร์กาไนเซอร์ คอยดีลกับนักข่าว จัดการที่พัก ตั๋วเครื่องบิน วางโปรแกรมการเดินทางทุกๆ อย่าง คือสยามสปอร์ตครับ
วันนี้มีประเด็นเรื่องสยามสปอร์ต กำลังจะปิดตัวหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในเครือทั้งสยามกีฬารายวัน และ สปอร์ตพูล ทำให้ในโลกออนไลน์ บางคนบอกว่า สยามสปอร์ตจะล่มสลายเลยหรือไม่ ผมอยากบอกว่า ไม่ใช่เลยครับ บริษัทก็ยังอยู่ดีครับ เพียงแต่จะเปลี่ยนรูปโฉมในการทำงาน ให้ Lean ขึ้นเท่านั้นเองครับผม
ผมเองมีความผูกพันกับสยามสปอร์ตอยู่ครับ เพราะทำงานอยู่ที่นี่ ในปี 2010 ก่อนจะลาออกในปี 2018 เพื่อไปทำงานที่สำนักข่าว Workpoint News ปัจจุบันคือสำนักข่าว Today
สิ่งที่ผมยืนยันเสมอ ว่าช่วงเวลา 9 ปี ที่อยู่สยามสปอร์ต เป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนชีวิตผมตลอดกาล ผมได้รู้จักคนเก่งๆ ในวงการกีฬามากมาย ทั้งบอลไทย และบอลต่างประเทศ
ผมได้โอกาสไปทำข่าวในอีเวนต์สำคัญๆ โดยเฉพาะฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ที่บริษัทลงทุนกับผมไปหลายแสนบาทในทริปนั้น
ผมเขียนหนังสือได้เก่งขึ้น จากการศึกษาคอลัมนิสต์เทพๆ ในบริษัท คนที่ผมชอบที่สุดคือ พี่มิ่น-มาริโน่, พี่โอ้-ศาธนันท์, พี่จอม-บอ.บู๋ ฯลฯ แรงบ้นดาลใจเหล่านี้ และคำแนะนำของพี่ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ให้ผมกล่าวขอบคุณเท่าไหร่ก็ไม่พอครับ
บริษัทสยามสปอร์ตนั้น เป็นองค์กรใหญ่ครับ มีหลายยูนิตมาก แต่ถ้าจะให้พูดคร่าวๆ ให้เห็นภาพคือ ถ้าขับรถเข้าบริษัทด้านหน้าตรงนวลจันทร์ เราจะเห็นตึกด้านขวา และตึกด้านซ้ายครับ
ตึกขวาคือฝั่งโรงพิมพ์ (สยามสปอร์ต ซินดิเคต) และ ตึกซ้ายคือฝั่งออนไลน์ (SSDM - สยามสปอร์ต ดิจิตอล มีเดีย)
ฝั่งโรงพิมพ์นั้นมีสตาร์ซอคเก้อร์ ที่เป็นขวัญใจของคนดูบอลมาตลอด ในช่วงพีก เคยขายได้วันละ 3 แสนฉบับ เป็นรองแค่ไทยรัฐเท่านั้น
นอกจากนั้น ยังมี "สยามกีฬารายวัน" ที่เป็นเหมือนเรือธงขององค์กร ลองคิดดูนะครับ ว่าข่าวกีฬาในประเทศที่ไม่ค่อย Mass แบบชมรมกรีฑา ชมรมว่ายน้ำ กีฬาคนพิการ ฯลฯ พวกเขาไม่มีพื้นที่ให้คนได้รู้จักหรือเป็นข่าว ซึ่งก็มีสยามกีฬารายวันนี่แหละ ที่คอยนำเสนอ และเป็นปากเป็นเสียงให้อยู่เสมอ
ในช่วงหนึ่ง หนังสือพิมพ์ เป็นจุดแข็งอย่างมากของสยามสปอร์ตครับ แต่ก็เป็นสัจธรรมของโลกที่ทุกอย่างต้องเปลี่ยนไป
เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามา ทำให้ความต้องการ "สิ่งพิมพ์" ลดลง
ในยุคที่เราอยู่กับมือถือตลอดเวลา และเราสามารถอ่านข่าว อ่านคอลัมน์ อ่านบทวิเคราะห์ได้ทันทีในอินเตอร์เนต จะมีความจำเป็นอะไร ต้องเสียเงินไปซื้อหนังสือพิมพ์อีก
ไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่ไม่เหมือนเดิม ทำให้ยอดขายของหนังสือพิมพ์รายวันลดลงเรื่อยๆ สุดท้ายก็นำมาสู่การเลิกผลิต นสพ. ในรูปแบบ Physical อย่างที่ทุกคนทราบข่าวกันแล้ว
ถ้าคิดในมุมธุรกิจ มันก็สมเหตุสมผลดี เข้าใจว่าหนังสือพิมพ์คือสัญลักษณ์ขององค์กร แต่เมื่อมันไม่สามารถทำเงินได้ มีแต่จะจมต้นทุน บทสรุปมันก็ต้องออกมาเป็นแบบนี้ครับ
แต่อย่างที่ผมบอกตอนต้นว่า สยามสปอร์ต มีสองฝั่งขวา-ซ้าย ใช่ไหมครับ
ตึกด้านซ้ายของบริษัท คือ SSDM พวกเขาเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ แต่ตอนนี้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงแล้ว
เว็บไซต์ และ เฟซบุ๊ก ของสยามสปอร์ต มีความแข็งแรงอย่างมาก ยอดไลค์น่าพอใจ การทำกราฟฟิก การปล่อยลูกเล่น มีความร่วมสมัย ไม่ตกยุค โดยบรรณาธิการบริหาร คือ "เปาผี" อดีตคอลัมนิสต์ที่โยกไปรับผิดชอบด้านออนไลน์
นอกจากนั้น ฝั่งออนไลน์ยังซื้อลิขสิทธิ์ "เจลีก" ได้อย่างต่อเนื่อง สัญญาฉบับปัจจุบัน มียาวจนถึงปี 2025
บอลเจลีกนั้น ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี คนดูไลฟ์ออนไลน์พร้อมกัน เวลานักเตะไทยลงเตะ ทะลุหลายแสน ในทุกแพลตฟอร์ม
ไม่เพียงแค่นั้น SSDM ยังมีรายการดีๆ มากมาย เช่น Soccer Party วิเคราะห์บิ๊กแมตช์ ก่อนเกม กลางเกม หลังเกม คนดูก็ทะลุหลายหมื่นแทบทุกครั้ง
รวมถึงยังเป็นคนจัดอีเวนต์มากมาย เช่นทริปมีเดียทริปของเจลีก ที่ผมมาในวันนี้ ฝั่งญี่ปุ่นก็มาจ้างสยามสปอร์ตให้เป็นออร์กาไนเซอร์ เพราะเชื่อใจว่า เป็นองค์กรที่มีคอนเน็กชั่นที่ดีกับสื่อสายกีฬาทั่วประเทศ
บทสรุปที่ผมอยากบอกคือ แม้วันนี้หนังสือพิมพ์จะปิดตัวลงไป แต่สยามสปอร์ต ไม่ได้อ่อนแอลงครับ ตรงกันข้าม ผมว่าเมื่อโฟกัสทั้งหมดของพวกเขา ระดมไปที่ออนไลน์ จะยิ่งเพิ่มความน่ากลัวขึ้นอีก
ดังนั้นไม่มีอะไรต้องน่าห่วงครับ สยามสปอร์ตยังคงเป็นองค์กรสื่อกีฬาที่แข็งแรงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอยู่แน่นอน เพียงแต่ "รูปแบบ" จะเปลี่ยนไปแค่นั้นครับ
ผมออกจากสยามสปอร์ตไป 5 ปีแล้วก็จริง แต่ไม่เคยลืมสิ่งที่ได้รับจากบริษัทนี้ครับ คนอื่นจะอย่างไรไม่รู้ แต่ถ้าให้ผมพูดถึงสยามกีฬา ผมมีแต่ Nice Words ครับ
จึงอยากเป็นกำลังใจให้ทีมงานสยามสปอร์ตทุกคน กับก้าวต่อไปที่จะยิ่งท้าทายมากขึ้นกว่าเดิมครับผม
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
